อุตสาหกรรมยา
อุตสาหกรรมยาเป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ จึงนับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบ
ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการบริโภค
1. การผลิตและการจำหน่ายในประเทศ
ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในปี 2546 มีประมาณ 23,835.1 และ 20,813.1 ตัน
ตามลำดับ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 9 และ 4.1 ตามลำดับ เนื่องมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานพยาบาลภาครัฐหันมาใช้ยาที่ผลิตจากในประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการต่างชาติ
ทั้งหมดที่เคยตั้งโรงงานในประเทศไทย ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น เช่น อินเดีย จีน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่ง
เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถทำการผลิตและจำหน่ายในประเทศได้มากขึ้นด้วย
ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศ หน่วย : ตัน
ปี 2544 2545 2546
ปริมาณการผลิตเมื่อเทียบกับปี 2545 21,295.8 21,868.8 23,835.1
9.0
ปริมาณการจำหน่ายเมื่อเทียบกับปี 2545 19,615.7 19,985.0 20,813.1
4.1
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : ปี 2546 เป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น จำนวนโรงงาน 35 โรงงาน
2. การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ในปี 2546 มีมูลค่าประมาณ 20,877.4 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 22.3
สาเหตุสำคัญมาจากการขยายตัวของการนำเข้ายาสำเร็จรูปที่มีสิทธิบัตร ราคาแพง ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ และเคมีปรุงแต่ง
ที่ใช้ในการคุมกำเนิด โดยตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร
และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการนำเข้าจากประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวมกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
3. การส่งออก
สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในปี 2546 มีมูลค่าประมาณ 4,899.7 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 18.7
สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกเพิ่มขึ้นของยาสำเร็จรูปประเภทยาแก้ปวด แก้ไข้ แก้ไอ และยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้วัคซีนที่ใช้เป็นยา
สำหรับมนุษย์ และสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผลและสำลี มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการแพร่กระจาย
ของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) ในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ตลาดโลกมีความต้องการวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการป้องกันเชื้อโรคมากขึ้น โดยตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญ ได้แก่ เวียดนาม เบลเยียม กัมพูชา
พม่า และมาเลเซีย โดยการส่งออกไปประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณร้อยละ 60 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
มูลค่าการนำเข้า - ส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม หน่วย : ล้านบาท
2544 2545 2546
นำเข้าเมื่อเทียบกับปี 2545 17,185.6 17,077.4 20,877.4
22.3
ส่งออกเมื่อเทียบกับปี 2545 4,338.6 4,127.0 4,899.7
18.7
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : ปี 2546 เป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
3. สรุปและแนวโน้ม
ในปี 2546 อุตสาหกรรมยาในประเทศมีการขยายตัวทั้งด้านการผลิตและการจำหน่าย โดยมีสาเหตุจากโครงการประกัน
สุขภาพถ้วนหน้า และการย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการต่างชาติ ด้านการส่งออกมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจากการ
ขยายตัวของยาสำเร็จรูปประเภทยาแก้ปวด แก้ไข้ แก้ไอ และยาปฏิชีวนะ วัคซีนที่ใช้ในการรักษามนุษย์ และสินค้าประเภทแวดดิ้ง
ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ส่วนการนำเข้ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการนำเข้ายาที่มีสิทธิบัตร ไม่สามารถผลิตได้ใน
ประเทศ ราคาแพง และเคมีปรุงแต่งที่ใช้ในการคุมกำเนิด สำหรับแนวโน้มในปี 2547 คาดว่าอุตสาหกรรมยาจะขยายตัวดีขึ้น
เนื่องจากผู้ประกอบการพยายามหาตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังเริ่มที่จะผลิตยาที่สามารถแข่งขันกับยานำเข้าได้
อีกหลายประเภทด้วย
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-
อุตสาหกรรมยาเป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ จึงนับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบ
ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการบริโภค
1. การผลิตและการจำหน่ายในประเทศ
ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในปี 2546 มีประมาณ 23,835.1 และ 20,813.1 ตัน
ตามลำดับ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 9 และ 4.1 ตามลำดับ เนื่องมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานพยาบาลภาครัฐหันมาใช้ยาที่ผลิตจากในประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการต่างชาติ
ทั้งหมดที่เคยตั้งโรงงานในประเทศไทย ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น เช่น อินเดีย จีน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่ง
เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถทำการผลิตและจำหน่ายในประเทศได้มากขึ้นด้วย
ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศ หน่วย : ตัน
ปี 2544 2545 2546
ปริมาณการผลิตเมื่อเทียบกับปี 2545 21,295.8 21,868.8 23,835.1
9.0
ปริมาณการจำหน่ายเมื่อเทียบกับปี 2545 19,615.7 19,985.0 20,813.1
4.1
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : ปี 2546 เป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น จำนวนโรงงาน 35 โรงงาน
2. การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ในปี 2546 มีมูลค่าประมาณ 20,877.4 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 22.3
สาเหตุสำคัญมาจากการขยายตัวของการนำเข้ายาสำเร็จรูปที่มีสิทธิบัตร ราคาแพง ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ และเคมีปรุงแต่ง
ที่ใช้ในการคุมกำเนิด โดยตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร
และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการนำเข้าจากประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวมกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
3. การส่งออก
สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในปี 2546 มีมูลค่าประมาณ 4,899.7 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 18.7
สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกเพิ่มขึ้นของยาสำเร็จรูปประเภทยาแก้ปวด แก้ไข้ แก้ไอ และยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้วัคซีนที่ใช้เป็นยา
สำหรับมนุษย์ และสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผลและสำลี มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากการแพร่กระจาย
ของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) ในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ตลาดโลกมีความต้องการวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการป้องกันเชื้อโรคมากขึ้น โดยตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญ ได้แก่ เวียดนาม เบลเยียม กัมพูชา
พม่า และมาเลเซีย โดยการส่งออกไปประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวมประมาณร้อยละ 60 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
มูลค่าการนำเข้า - ส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม หน่วย : ล้านบาท
2544 2545 2546
นำเข้าเมื่อเทียบกับปี 2545 17,185.6 17,077.4 20,877.4
22.3
ส่งออกเมื่อเทียบกับปี 2545 4,338.6 4,127.0 4,899.7
18.7
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : ปี 2546 เป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
3. สรุปและแนวโน้ม
ในปี 2546 อุตสาหกรรมยาในประเทศมีการขยายตัวทั้งด้านการผลิตและการจำหน่าย โดยมีสาเหตุจากโครงการประกัน
สุขภาพถ้วนหน้า และการย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการต่างชาติ ด้านการส่งออกมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจากการ
ขยายตัวของยาสำเร็จรูปประเภทยาแก้ปวด แก้ไข้ แก้ไอ และยาปฏิชีวนะ วัคซีนที่ใช้ในการรักษามนุษย์ และสินค้าประเภทแวดดิ้ง
ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ส่วนการนำเข้ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการนำเข้ายาที่มีสิทธิบัตร ไม่สามารถผลิตได้ใน
ประเทศ ราคาแพง และเคมีปรุงแต่งที่ใช้ในการคุมกำเนิด สำหรับแนวโน้มในปี 2547 คาดว่าอุตสาหกรรมยาจะขยายตัวดีขึ้น
เนื่องจากผู้ประกอบการพยายามหาตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังเริ่มที่จะผลิตยาที่สามารถแข่งขันกับยานำเข้าได้
อีกหลายประเภทด้วย
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-