อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง
อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางนับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อประเทศทั้งในแง่ของการจ้างงานและการส่งออก
เนื่องจากประเทศมีความพร้อมทางด้านวัตถุดิบและเป็นข้อได้เปรียบ โดยในปี 2546 ไทยมีการส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง
รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,149.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแบ่งเป็น มูลค่ายางพาราแปรรูปขั้นต้น ร้อยละ 64.4 และผลิตภัณฑ์ยางร้อยละ
35.6
1. การผลิต
ประเทศไทยผลิตยางแปรรูปขั้นต้น เป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยมีปริมาณการผลิตประมาณ 2.5 ล้านตัน/ปี ยางขั้นต้น
ส่วนใหญ่ส่งออกร้อยละ 90 ส่วนที่เหลือเป็นการจำหน่ายในประเทศ สำหรับผลิตภัณฑ์ยาง นับว่าถุงมือยางมีมูลค่าส่งออกเป็นอันดับ 1
รองลงมาคือ ยางยานพาหนะ โดยคิดเป็นร้อยละ 31.6 และ 30.8 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง
2. การตลาด
ตลาดส่งออกยางแปรรูปขั้นต้น ได้แก่ ยางแผ่น ยางแท่ง ยางเครฟ น้ำยางข้น ซึ่งมีการส่งออกในปี 2546 คิดเป็นมูลค่า
ประมาณ 2,641.7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา ส่วนผลิต
ภัณฑ์ยางมีการส่งออกในปี 2546 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,508.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกอันดับแรกๆ ได้แก่
ถุงมือยาง และยางยานพาหนะ ยางรัดของ ท่อยาง สายพานลำเลียง และผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในทางเภสัชกรรม เป็นต้น โดยมี
ตลาดส่งออกสำคัญ คือ สหรัฐ ญี่ปุ่น และฮ่องกง
ตลาดนำเข้า ซึ่งเป็นการนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาง ประเภท ท่อยาง และสายพานลำเลียง ซึ่งมีปริมาณการนำเข้าค่อนข้าง
ทรงตัว โดยในปี 2546 มีการนำเข้าประมาณ 368.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าการส่งออกของสินค้ายางและผลิตภัณฑ์ยาง
หน่วย: ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้า 2543 2544 2545 2546 * อัตราการขยายตัว (%)
ยางพารา 1525 1326 1,740.30 2641.7 51.7
ยางแผ่น 743.5 579.4 786.9 1140.5 44.9
ยางแท่ง 542.3 475.6 603.8 960.5 59
น้ำยางข้น 233 262.9 322 506.5 57.2
ยางพาราอื่น ๆ 6.7 8.1 27.6 34.2 23.9
ผลิตภัณฑ์ยาง 1061 1095.1 1,268.00 1508.1 18.9
ยางยานพาหนะ 350.2 381.9 435.3 465.3 68
ถุงมือยาง 363.7 351.1 394.1 477.3 21.1
ยางรัดของ 31.3 31.2 30.5 33.8 10.8
หลอดและท่อ 35.6 36 38.5 55.9 45.1
สายพานลำเลียงและส่งกำลัง 15.3 13 13.3 15.8 18.7
ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม 44.5 81.3 110.1 143.2 30
ยางวัลแคไนซ์ 65.7 69.7 79.2 83 4.7
ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ 154.2 130.9 166.9 233.8 40
ที่มา : 1. สำนักบริหารสารสนเทศการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร
กระทรวงการคลัง
2. กรมส่งเสริมการส่งออก
3. * เป็นตัวเลขประมาณการ
มูลค่าการนำเข้าของสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้า 2544 2545 2546 * อัตราการขยายตัว (%)
ผลิตภัณฑ์ยาง 303 340.1 368.9 8.4
ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง 58.4 66.6 74.9 12.4
ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ เช่น ประเก็น ฝารอง และซีล 195.2 219.2 240.1 9.5
อื่น ๆ 49.4 54.3 53.9 -0.7
ที่มา : 1. สำนักบริหารสารสนเทศการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร
กระทรวงการคลัง
2. กรมส่งเสริมการส่งออก
3. * เป็นตัวเลขประมาณการ
3. สรุป
ในปี 2546 อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อน เนื่องจากปริมาณความต้องการยางขั้นต้น
ของประเทศจีนมีมากขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ปริมาณส่งออกค่อนข้างทรงตัว ดังนั้น ในภาพรวมแล้วถือว่าปี 2546 เป็นปีที่ดี
ของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง
4. แนวโน้มปี 2547
ในปี 2547 คาดว่าราคายางและผลิตภัณฑ์ยางในตลาดโลกจะมีแนวโน้มสดใสขึ้น เนื่องจากมีการ ลงนามจัดตั้งบริษัท
ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (International Rubber Consortium Limited) ของ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย
อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2546 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีส่วนสร้างความเชื่อมั่นให้วงการยาง
ประกอบกับนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนให้มีการขยายพื้นที่ปลูกยางพาราเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการผลิตภัณฑ์ยางของโลก โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งความต้องการยางขั้นต้นของประเทศจีน รวมทั้งนโยบายการจัดตั้งการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็น
สิ่งที่ รัฐบาลดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมยางของประเทศ
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-
อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางนับเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อประเทศทั้งในแง่ของการจ้างงานและการส่งออก
เนื่องจากประเทศมีความพร้อมทางด้านวัตถุดิบและเป็นข้อได้เปรียบ โดยในปี 2546 ไทยมีการส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง
รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,149.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแบ่งเป็น มูลค่ายางพาราแปรรูปขั้นต้น ร้อยละ 64.4 และผลิตภัณฑ์ยางร้อยละ
35.6
1. การผลิต
ประเทศไทยผลิตยางแปรรูปขั้นต้น เป็นอันดับหนึ่งของโลก โดยมีปริมาณการผลิตประมาณ 2.5 ล้านตัน/ปี ยางขั้นต้น
ส่วนใหญ่ส่งออกร้อยละ 90 ส่วนที่เหลือเป็นการจำหน่ายในประเทศ สำหรับผลิตภัณฑ์ยาง นับว่าถุงมือยางมีมูลค่าส่งออกเป็นอันดับ 1
รองลงมาคือ ยางยานพาหนะ โดยคิดเป็นร้อยละ 31.6 และ 30.8 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง
2. การตลาด
ตลาดส่งออกยางแปรรูปขั้นต้น ได้แก่ ยางแผ่น ยางแท่ง ยางเครฟ น้ำยางข้น ซึ่งมีการส่งออกในปี 2546 คิดเป็นมูลค่า
ประมาณ 2,641.7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา ส่วนผลิต
ภัณฑ์ยางมีการส่งออกในปี 2546 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,508.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกอันดับแรกๆ ได้แก่
ถุงมือยาง และยางยานพาหนะ ยางรัดของ ท่อยาง สายพานลำเลียง และผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในทางเภสัชกรรม เป็นต้น โดยมี
ตลาดส่งออกสำคัญ คือ สหรัฐ ญี่ปุ่น และฮ่องกง
ตลาดนำเข้า ซึ่งเป็นการนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาง ประเภท ท่อยาง และสายพานลำเลียง ซึ่งมีปริมาณการนำเข้าค่อนข้าง
ทรงตัว โดยในปี 2546 มีการนำเข้าประมาณ 368.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าการส่งออกของสินค้ายางและผลิตภัณฑ์ยาง
หน่วย: ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้า 2543 2544 2545 2546 * อัตราการขยายตัว (%)
ยางพารา 1525 1326 1,740.30 2641.7 51.7
ยางแผ่น 743.5 579.4 786.9 1140.5 44.9
ยางแท่ง 542.3 475.6 603.8 960.5 59
น้ำยางข้น 233 262.9 322 506.5 57.2
ยางพาราอื่น ๆ 6.7 8.1 27.6 34.2 23.9
ผลิตภัณฑ์ยาง 1061 1095.1 1,268.00 1508.1 18.9
ยางยานพาหนะ 350.2 381.9 435.3 465.3 68
ถุงมือยาง 363.7 351.1 394.1 477.3 21.1
ยางรัดของ 31.3 31.2 30.5 33.8 10.8
หลอดและท่อ 35.6 36 38.5 55.9 45.1
สายพานลำเลียงและส่งกำลัง 15.3 13 13.3 15.8 18.7
ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม 44.5 81.3 110.1 143.2 30
ยางวัลแคไนซ์ 65.7 69.7 79.2 83 4.7
ผลิตภัณฑ์ยางอื่น ๆ 154.2 130.9 166.9 233.8 40
ที่มา : 1. สำนักบริหารสารสนเทศการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร
กระทรวงการคลัง
2. กรมส่งเสริมการส่งออก
3. * เป็นตัวเลขประมาณการ
มูลค่าการนำเข้าของสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้า 2544 2545 2546 * อัตราการขยายตัว (%)
ผลิตภัณฑ์ยาง 303 340.1 368.9 8.4
ท่อหรือข้อต่อและสายพานลำเลียง 58.4 66.6 74.9 12.4
ผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ เช่น ประเก็น ฝารอง และซีล 195.2 219.2 240.1 9.5
อื่น ๆ 49.4 54.3 53.9 -0.7
ที่มา : 1. สำนักบริหารสารสนเทศการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร
กระทรวงการคลัง
2. กรมส่งเสริมการส่งออก
3. * เป็นตัวเลขประมาณการ
3. สรุป
ในปี 2546 อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากขึ้นกว่าปีก่อน เนื่องจากปริมาณความต้องการยางขั้นต้น
ของประเทศจีนมีมากขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ปริมาณส่งออกค่อนข้างทรงตัว ดังนั้น ในภาพรวมแล้วถือว่าปี 2546 เป็นปีที่ดี
ของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง
4. แนวโน้มปี 2547
ในปี 2547 คาดว่าราคายางและผลิตภัณฑ์ยางในตลาดโลกจะมีแนวโน้มสดใสขึ้น เนื่องจากมีการ ลงนามจัดตั้งบริษัท
ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด (International Rubber Consortium Limited) ของ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย
อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2546 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีส่วนสร้างความเชื่อมั่นให้วงการยาง
ประกอบกับนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนให้มีการขยายพื้นที่ปลูกยางพาราเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการผลิตภัณฑ์ยางของโลก โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งความต้องการยางขั้นต้นของประเทศจีน รวมทั้งนโยบายการจัดตั้งการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็น
สิ่งที่ รัฐบาลดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมยางของประเทศ
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-