วันนี้(22 ม.ค.47) เวลา 11.30น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ (ศอ.บต.ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวระบุว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งเอกสารลับถึงรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง เรื่องการก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในรายงานดังกล่าวก็ได้มีการพาดพิงถึงชื่อตนว่า ขอยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขอยืนยันด้วยว่าในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากพรรคให้เป็นผู้ดูแลพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ได้มีการลงพื้นที่เพื่อแก้ปัญหา รวมถึงการจัดกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ต้องใช้ความสันติไม่ใช่ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ดังนั้นสิ่งที่ตนได้รับมอบหมายจากพรรคให้ทำคือความสุจริตใจ เพื่อแก้ปัญหาและทำความเข้าใจกับประชาชนภาคใต้อย่างแท้จริง
นายนิพนธ์กล่าวว่า แต่การแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ จะสังเกตได้ว่าผู้นำรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯกับรมว.มหาดไทย มักจะพูดอยู่เสมอว่าปัญหาภาคใต้จะแก้ได้ภายใน 3 เดือน ปัญหาภาคใต้ไม่ใช่ปัญหาขบวนการก่อการร้าย เป็นเพียงปัญหาของโจรกระจอก ซึ่งตรงข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์ที่คิดว่าปัญหาภาคใต้ไม่ใช่เรื่องของโจรกระจอก แต่กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศหากรัฐบาลยังใช้แนวทางที่ผิดพลาดแบบนี้ นอกจากนี้ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็เตือนรัฐบาลมาตลอดว่าอย่าแก้ปัญหาด้วยการสาดน้ำมันเข้ากองไฟ อย่างไรก็ตามตนคิดว่าการพาดพิงที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการทำหนังสือที่ชื่อว่า ‘ใครจุดไฟชายแดนภาคใต้’ และ ‘ค้านพรก.ก่อการร้าย’ ที่จัดทำขึ้นโดยศอ.บต.ปชป. โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมพรรคการเมืองให้งบสนับสนุน ที่ถือเป็นเอกสารเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายนิพนธ์กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคใต้ขณะนี้ ไม่อยากให้รัฐบาลเบี่ยงเบนประเด็นโดยความผิดที่เกิดขึ้นไปให้กับคนอื่น อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องให้นายกฯหรือคนที่รับผิดชอบเรื่องความมั่นคง ออกมารับผิดชอบเรื่องการข่าว เพราะหากหน่วยงานด้านการข่าวยังมีความสามารถหรือมีประสิทธิภาพเพียงเท่านี้ ตนคิดว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในฐานะลำบากที่จะแก้ไขสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว เพราะการรายงานข่าวทำนองนี้เป็นการรายงานแบบจงใจที่จะทำให้พรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะตนได้รับความเสียหาย
‘ผมเรียกร้องให้หน่วยข่าวที่ทำเกี่ยวกับความมั่นคง ยุติการประจบสอพลอในการเขียนข่าวเพื่อเอาใจผู้มีอำนาจ หรือยุติที่จะเอาพรรคฝ่ายค้านไปเป็นเครื่องมือ หรือหุ่นที่จะเบี่ยงเบนประเด็นความล้มเหลวในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ และผมเชื่อว่าขณะนี้ท่านนายกฯต้องรู้แล้วว่ากลุ่มใดที่มีพฤติกรรมดังกล่าว และหากท่านได้หาข้อมูลจริงก็น่าจะรู้ พวกผมยืนยันพวกผมมีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่ามีกลุ่มการเมืองใดที่มีส่วนรู้ กลุ่มการเมืองใดที่จะมีส่วนที่จะชี้ได้ว่ามีบุคคลสำคัญรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้อยู่ตลอด ผมเชื่อว่าท่านนายกฯต้องรู้ ขอเพียงแต่ว่าอย่าเบี่ยงเบนประเด็น หรือนายกฯต้องกล้าตัดสินใจที่จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด กล้าตัดสินใจเอาคนผิดมาลงโทษ หรือว่านายกฯกลัวว่าถ้าทำอะไรเด็ดขาดจะเจอพวกตัวเอง เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ในภาคใต้วันนี้ นายกฯและรัฐบาลต้องยุติการเหวี่ยงแห หาคนมารับผิด ยุติการสร้างเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม ผมยืนยันว่าขณะนี้แนวทางที่รัฐบาลใช้ในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังเป็นแนวทางที่ผิดพลาดอยู่ เพราะหน่วยของรัฐบาลยังไม่มีความเป็นเอกภาพ ทั้งยังมีความขัดแย้งในการแก้ปัญหา และอยากให้รัฐบาลได้ทบทวนการส่งนักล่าลงไปแก้ปัญหา เพราะหากใช้วิธีนี้จะก่อให้เกิดความหวาดระแวงและจะไม่ส่งผลดีกับราชการ’ นายนิพนธ์กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าฝ่ายค้านพยายามลดความน่าเชื่อถือของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.มหาดไทยนั้น นายนิพนธ์กล่าวยืนยันว่า การดำรงตำแหน่งหรือความเป็นอยู่ของนายวันนอร์ในพื้นที่ภาคใต้ไม่เกี่ยวข้องกับการได้หรือเสียคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่เคยคิดว่านายวันนอร์คือคนที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียความนิยมในพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุอะไรในการที่จะ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23/01/47--จบ--
-สส-
นายนิพนธ์กล่าวว่า แต่การแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้หลังจากที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ จะสังเกตได้ว่าผู้นำรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯกับรมว.มหาดไทย มักจะพูดอยู่เสมอว่าปัญหาภาคใต้จะแก้ได้ภายใน 3 เดือน ปัญหาภาคใต้ไม่ใช่ปัญหาขบวนการก่อการร้าย เป็นเพียงปัญหาของโจรกระจอก ซึ่งตรงข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์ที่คิดว่าปัญหาภาคใต้ไม่ใช่เรื่องของโจรกระจอก แต่กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศหากรัฐบาลยังใช้แนวทางที่ผิดพลาดแบบนี้ นอกจากนี้ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็เตือนรัฐบาลมาตลอดว่าอย่าแก้ปัญหาด้วยการสาดน้ำมันเข้ากองไฟ อย่างไรก็ตามตนคิดว่าการพาดพิงที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการทำหนังสือที่ชื่อว่า ‘ใครจุดไฟชายแดนภาคใต้’ และ ‘ค้านพรก.ก่อการร้าย’ ที่จัดทำขึ้นโดยศอ.บต.ปชป. โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมพรรคการเมืองให้งบสนับสนุน ที่ถือเป็นเอกสารเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายนิพนธ์กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคใต้ขณะนี้ ไม่อยากให้รัฐบาลเบี่ยงเบนประเด็นโดยความผิดที่เกิดขึ้นไปให้กับคนอื่น อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องให้นายกฯหรือคนที่รับผิดชอบเรื่องความมั่นคง ออกมารับผิดชอบเรื่องการข่าว เพราะหากหน่วยงานด้านการข่าวยังมีความสามารถหรือมีประสิทธิภาพเพียงเท่านี้ ตนคิดว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในฐานะลำบากที่จะแก้ไขสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว เพราะการรายงานข่าวทำนองนี้เป็นการรายงานแบบจงใจที่จะทำให้พรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะตนได้รับความเสียหาย
‘ผมเรียกร้องให้หน่วยข่าวที่ทำเกี่ยวกับความมั่นคง ยุติการประจบสอพลอในการเขียนข่าวเพื่อเอาใจผู้มีอำนาจ หรือยุติที่จะเอาพรรคฝ่ายค้านไปเป็นเครื่องมือ หรือหุ่นที่จะเบี่ยงเบนประเด็นความล้มเหลวในการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ และผมเชื่อว่าขณะนี้ท่านนายกฯต้องรู้แล้วว่ากลุ่มใดที่มีพฤติกรรมดังกล่าว และหากท่านได้หาข้อมูลจริงก็น่าจะรู้ พวกผมยืนยันพวกผมมีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่ามีกลุ่มการเมืองใดที่มีส่วนรู้ กลุ่มการเมืองใดที่จะมีส่วนที่จะชี้ได้ว่ามีบุคคลสำคัญรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคใต้อยู่ตลอด ผมเชื่อว่าท่านนายกฯต้องรู้ ขอเพียงแต่ว่าอย่าเบี่ยงเบนประเด็น หรือนายกฯต้องกล้าตัดสินใจที่จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด กล้าตัดสินใจเอาคนผิดมาลงโทษ หรือว่านายกฯกลัวว่าถ้าทำอะไรเด็ดขาดจะเจอพวกตัวเอง เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ในภาคใต้วันนี้ นายกฯและรัฐบาลต้องยุติการเหวี่ยงแห หาคนมารับผิด ยุติการสร้างเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคม ผมยืนยันว่าขณะนี้แนวทางที่รัฐบาลใช้ในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังเป็นแนวทางที่ผิดพลาดอยู่ เพราะหน่วยของรัฐบาลยังไม่มีความเป็นเอกภาพ ทั้งยังมีความขัดแย้งในการแก้ปัญหา และอยากให้รัฐบาลได้ทบทวนการส่งนักล่าลงไปแก้ปัญหา เพราะหากใช้วิธีนี้จะก่อให้เกิดความหวาดระแวงและจะไม่ส่งผลดีกับราชการ’ นายนิพนธ์กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าฝ่ายค้านพยายามลดความน่าเชื่อถือของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รมว.มหาดไทยนั้น นายนิพนธ์กล่าวยืนยันว่า การดำรงตำแหน่งหรือความเป็นอยู่ของนายวันนอร์ในพื้นที่ภาคใต้ไม่เกี่ยวข้องกับการได้หรือเสียคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่เคยคิดว่านายวันนอร์คือคนที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียความนิยมในพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุอะไรในการที่จะ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23/01/47--จบ--
-สส-