กรุงเทพ--23 ม.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวานนี้ (22 มกราคม 2547) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตอบข้อซักถามต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการที่สหรัฐอเมริกามีมาตรการเพิ่มภาษีนำเข้ากุ้งจากไทยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำงานประสานกับกระทรวงพาณิชย์มาโดยตลอดเพื่อแก้ไขปัญหา โดยเอกอัครราชทูตของไทยประจำสหรัฐอเมริกาได้ร่วมกับเอกอัครราชทูตอีก 10 กว่าประเทศ ทำหนังสือไปถึงกระทรวงพาณิชย์และเข้าพบรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ เพื่อชี้แจงข้อมูลว่าไม่ได้ ทุ่มตลาด นอกจากนั้นเราได้ทำงานร่วมกับสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ทำอย่างเต็มที่ที่จะเข้าไปช่วยในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมายภายในประเทศของสหรัฐฯ เป็นกระบวนการพิจารณาในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ เป็นกระบวนการกึ่งศาล เพราะฉะนั้นภาคเอกชนและกระทรวงพาณิชย์จะต้องนำเสนอให้เห็นชัดเจนว่าเหตุผลที่ไทยมั่นใจว่าไม่ได้ทุ่มตลาดและไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ผลิตภายในนั้นคืออะไร ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข้อมูลชัดเจนว่าไทยไม่ได้ทุ่มตลาด ผู้ผลิตภายในของสหรัฐฯ อาจจะขาดทุนเนื่องจากสาเหตุอื่นแต่ไม่ได้ขาดทุนเพราะว่าการส่งออกของไทย ในที่สุดแล้วตนเชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่เก็บภาษีป้องกันการทุ่มตลาดกับไทย ทั้งนี้จะต้องมีกระบวนการในการพิจารณาตรวจสอบว่ามีการทุ่มตลาดจริงหรือไม่ แล้วความเสียหายนั้นเกิดขึ้นจากสินค้าของไทยหรือไม่ ถ้ามีองค์ประกอบทั้งสองประการทางสหรัฐฯ จึงจะสามารถเก็บภาษีตอบโต้ได้ ดังนั้นสิ่งที่ไทยต้องทำในขณะนี้ก็คือไปพิสูจน์ให้สหรัฐฯ เห็นว่าไทยไม่มีการทุ่มตลาดและไม่มีความเสียหายที่เกิดจากไทย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนก็ร่วมกันนำเสนอข้อมูล กระทรวงการต่างประเทศก็จะมีบทบาทเสริมในการแจ้งให้ภาคเอกชนในสหรัฐอย่างเช่น สภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ ได้เข้าใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งสมาชิกก็จะได้ช่วยชี้แจงกับหน่วยงานต่างๆ ได้ต่อไปด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวานนี้ (22 มกราคม 2547) ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตอบข้อซักถามต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการที่สหรัฐอเมริกามีมาตรการเพิ่มภาษีนำเข้ากุ้งจากไทยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำงานประสานกับกระทรวงพาณิชย์มาโดยตลอดเพื่อแก้ไขปัญหา โดยเอกอัครราชทูตของไทยประจำสหรัฐอเมริกาได้ร่วมกับเอกอัครราชทูตอีก 10 กว่าประเทศ ทำหนังสือไปถึงกระทรวงพาณิชย์และเข้าพบรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ เพื่อชี้แจงข้อมูลว่าไม่ได้ ทุ่มตลาด นอกจากนั้นเราได้ทำงานร่วมกับสภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ทำอย่างเต็มที่ที่จะเข้าไปช่วยในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมายภายในประเทศของสหรัฐฯ เป็นกระบวนการพิจารณาในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ เป็นกระบวนการกึ่งศาล เพราะฉะนั้นภาคเอกชนและกระทรวงพาณิชย์จะต้องนำเสนอให้เห็นชัดเจนว่าเหตุผลที่ไทยมั่นใจว่าไม่ได้ทุ่มตลาดและไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ผลิตภายในนั้นคืออะไร ซึ่งที่ผ่านมาก็มีข้อมูลชัดเจนว่าไทยไม่ได้ทุ่มตลาด ผู้ผลิตภายในของสหรัฐฯ อาจจะขาดทุนเนื่องจากสาเหตุอื่นแต่ไม่ได้ขาดทุนเพราะว่าการส่งออกของไทย ในที่สุดแล้วตนเชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่เก็บภาษีป้องกันการทุ่มตลาดกับไทย ทั้งนี้จะต้องมีกระบวนการในการพิจารณาตรวจสอบว่ามีการทุ่มตลาดจริงหรือไม่ แล้วความเสียหายนั้นเกิดขึ้นจากสินค้าของไทยหรือไม่ ถ้ามีองค์ประกอบทั้งสองประการทางสหรัฐฯ จึงจะสามารถเก็บภาษีตอบโต้ได้ ดังนั้นสิ่งที่ไทยต้องทำในขณะนี้ก็คือไปพิสูจน์ให้สหรัฐฯ เห็นว่าไทยไม่มีการทุ่มตลาดและไม่มีความเสียหายที่เกิดจากไทย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนก็ร่วมกันนำเสนอข้อมูล กระทรวงการต่างประเทศก็จะมีบทบาทเสริมในการแจ้งให้ภาคเอกชนในสหรัฐอย่างเช่น สภาธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ ได้เข้าใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งสมาชิกก็จะได้ช่วยชี้แจงกับหน่วยงานต่างๆ ได้ต่อไปด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-