แท็ก
ธปท.
ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท. ระบุยังไม่มีความจำเป็นต้องควบรวมไทยธนาคารกับธนาคารใด ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในฐานะประธานกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินยืนยันว่า
ขณะนี้ ธ.ไทยธนาคารยังไม่มีความจำเป็นต้องควบรวมกิจการกับธนาคารใด เนื่องจาก ธ.ไทยธนาคาร
สามารถจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้ด้วยตนเองอย่างดีตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (ข่าวสด, ผู้จัดการรายวัน)
2. ก.ล.ต. เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการไซฟอนเงินของบริษัทจดทะเบียน เลขาธิการสำนัก
งานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. มีแนวทางแก้ไขปัญหา
พฤติกรรมการผ่องถ่ายทรัพย์สิน (ไซฟอน) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) โดยจะทำหน้าที่
เข้าไปแทรกแซงและเป็นผู้ชี้ให้เห็นถึงข้อมูลที่อาจนำไปสู่ความไม่ถูกต้องของธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านวิธีการกระตุ้น
ให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องออกมาอธิบายถึงเหตุผลของธุรกรรมแก่ผู้ถือหุ้น
เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต. พบว่ามีผู้บริหาร บจ. มีการกระทำไม่เหมาะสม แต่ยังไม่สามารถดำเนิน
คดีในข้อหาทุจริตได้เพราะยังมีช่วงโหว่ของกฎหมาย (ผู้จัดการรายวัน, ข่าวสด, โลกวันนี้, กรุงเทพธุรกิจ,
มติชน, แนวหน้า, สยามรัฐ)
3. ก.ล.ต. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมวางระเบียบจัดสรรหุ้นไอพีโอ เลขาธิการสำนัก
งานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้หารือร่วมกับ
สมาคมบริษัทหลักทรัพย์เพื่อให้มีการจัดระเบียบการจัดสรรหุ้นที่มีการออกและเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ)
เนื่องจากคาดว่าในปีนี้จะมีบริษัทขายหุ้นไอพีโอและเพิ่มทุนจำนวนมาก จึงควรมีการกำหนดแนวทางจัดสรรหุ้น
ดังกล่าวให้ชัดเจนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส (กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด)
4. ก.คลังเตรียมเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับธุรกิจเอกชนที่สนับสนุนนักเรียนทำงานในช่วงปิดเทอม
ผู้ช่วย รมว.คลัง (นายกิตติ ลิ่มสกุล) กล่าวว่า ขณะนี้ ก.คลังอยู่ระหว่างยกร่างกฎหมายเพื่อให้ความ
ช่วยเหลือด้านภาษีกับบริษัทเอกชนที่ให้การสนับสนุนการศึกษากับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้เข้าทำงานในช่วง
ปิดภาคเรียนอย่างจริงจังตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้สามารถหักลดภาษีได้เป็น 2 เท่าหรือไม่เกิน 2%
ของกำไรสุทธิสำหรับนิติบุคคล หรือไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว นอกจากนี้ ก.คลัง
ได้มอบหมายให้กรมสรรพสามิตจัดตั้งกองทุนพัฒนาปัญญาไทยขึ้น โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากเงินภาษีจากสถาน
บริการต่าง ๆ ส่งเข้ากองทุนดังกล่าวเพื่อนำเงินไปส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของเด็กไทย (ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้)
5. สคร. จัดทำแผน 3 ปีเน้นกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจอย่างเป็นระบบ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการ
นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ปี (2547-2549) สคร. มี
แผนเน้นบทบาทการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจอย่างเป็นระบบ โดยแผนงานสำคัญคือ การบริหารรัฐ
วิสาหกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะแยกประเภทรัฐวิสาหกิจออกเป็น 4 กลุ่มเพื่อให้ง่ายต่อการกำกับดูแล ได้แก่
1) กลุ่มที่มีผลกำไร 2) กลุ่มที่มีผลขาดทุนและต้องปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ 3) กลุ่มที่มีผลขาดทุนและ
ต้องดำเนินการให้พ้นสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจ และ 4) กลุ่มที่คงสภาพเดิม โดยในกลุ่ม 1. มีแผนจะผลัก
ดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 47 (โลกวันนี้, ข่าวสด, แนวหน้า, บ้านเมือง, เดลินิวส์, มติชน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. OECD ทบทวนตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของ 3 ประเทศเศรษฐกิจหลักเพิ่มขึ้น
รายงานจากกรุงดาโว สวิสเซอร์แลนด์ เมื่อ 22 ม.ค.47 องค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพัฒนา
(OECD) เปิดเผยหลังจากการประชุม World Economic Forum ที่กรุงดาโวว่า อัตราการขยายตัวทาง
เศรษฐกิจทั่วโลกส่วนใหญ่อยู่ในระดับแข็งแกร่ง โดยเฉพาะประเทศ สรอ. อังกฤษ และเขตเศรษฐกิจยุโรป
ได้มีการทบทวนยกระดับประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยในไตรมาส 1 ปี 47 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ
1.3 0.7 และ 0.6 จากที่ก่อนหน้านี้ประมาณการว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.1 0.6 และ 0.6 ตามลำดับ โดย
OECD ทบทวนโดยใช้ข้อมูลรายไตรมาสเป็นพื้นฐานและปรับฤดูกาลแล้ว แต่ยังไม่ได้พิจารณาถึงผลกระทบจากค่า
เงินหรือราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่อยู่ในระดับสมดุลและในหลาย ๆ
ประเทศยังไม่สามารถยืนหยัดด้วยตนเองได้ (รอยเตอร์)
2. ไตรมาสที่ 4 ปี 46 เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง รายงานจากลอนดอนเมื่อ 22 ม.ค.47
The British Chambers of Commerce (BCC) เปิดเผยผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายไตร
มาส ซึ่งพบว่า ไตรมาสที่ 4 ปี 46 ยอดขายเพื่อการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี
นับตั้งแต่ปี 40 ที่เงินปอนด์สเตอร์ลิงมีค่าแข็งขึ้นและส่งผลกระทบถึงการส่งออกของอังกฤษ รวมถึงยอดขาย
และคำสั่งซื้อสินค้าภาคบริการก็เพิ่มขึ้นเช่นกันสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดย manufacturing export
sales index เพิ่มขึ้นสู่ระดับ +13 จากระดับ —2 ในไตรมาสที่ 3 manufacturing export orders
index เพิ่มขึ้น 18 จุดสู่ระดับ +16 manufacturing home sales index เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบปีสู่ระดับ
+17 จากระดับ 0 และ services home sales index เพิ่มขึ้นสู่ระดับ +30 จากระดับ +26 นอกจากนี้
ผลการสำรวจของ The Royal Institution of Chartered Surveyors พบว่า ในช่วงไตรมาสที่ 4
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด ขณะที่การกู้ยืมโดยการจำนองของภาคสถาบันการเงินก็เพิ่มขึ้น ทั้งนี้
สัญญาณต่างๆ ที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 46
และอาจเป็นผลให้ทางการปรับตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะ
ขยายตัวร้อยละ 0.8 ซึ่งจะส่งผลให้ ธ.กลางอังกฤษอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า (รอยเตอร์)
3. ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจของ สรอ.ในเดือน ธ.ค.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 รายงานจาก
วอชิงตัน เมื่อ 22 ม.ค.47 The Conference Board ของ สรอ. เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจ
ของ สรอ.ในเดือน ธ.ค.46 อยู่ที่ระดับ 114.3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากเดือน พ.ย.46 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.2 (ทบทวนแล้ว)สอดคล้องกับนักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีทประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ตัวเลขดัชนีชี้นำ
ภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเครื่องชี้แนวโน้มว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของ สรอ.ใน 3-6 เดือนข้างหน้าได้เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 4.7 เทียบต่อปี จากที่เคยอยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเดือน มี.ค.46 ที่ผ่านมา (รอยเตอร์)
4.จำนวนคนขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงและดัชนีความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจ สรอ.กำลังฟื้นตัว
รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 22 ม.ค.47 ก.แรงงานของ สรอ.รายงานจำนวนคนขอสวัสดิการ
ว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ม.ค.47 มีจำนวน 341,000 คน ลดลง 1,000 คนจากสัปดาห์ก่อน
ซึ่งมีจำนวน 342,000 คน ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันผิดจากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 347,000
คน โดย ก.แรงงานเตือนว่าจำนวนวันในสัปดาห์ที่น้อยลงเพราะมีวันหยุดและสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่ผิดปรกติ
มีส่วนทำให้ตัวเลขบิดเบือนไปได้ แต่นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการปลดพนักงาน
ออกจากงานลดลงและมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาค
ธุรกิจมีมากขึ้นซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของ Conference Board ว่าดัชนีชี้นำทาง
เศรษฐกิจของ สรอ.ซึ่งสะท้อนภาวะเศรษฐกิจในอีก 3 ถึง 6 เดือนข้างหน้าในเดือน ธ.ค.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.2 จากเดือนก่อน เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ต่อปี นับจากเดือน มี.ค.46 ซึ่ง
สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ปี 46 และเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวปีละร้อย
ละ 5 ถึง 6 ต่อไปอีกในอนาคต (รอยเตอร์)
5. ดัชนีวัดแนวโน้มภาคบริการและดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 2.3 และ 1.3 ตามลำดับ
รายงานจากโตเกียว เมื่อ 23 ม.ค.47 รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ดัชนีวัดแนวโน้มภาคบริการของ
ญี่ปุ่นในเดือน พ.ย.46 ลดลงร้อยละ 2.3 เทียบจากเดือนก่อน (ตัวเลขก่อนปรับฤดูกาล) โดยมีสาเหตุจาก
ยอดการค้าปลีกชะลอตัวลงเนื่องจากอากาศอบอุ่นนอกฤดูกาลจะกีดกันการเตรียมซื้อสินค้าสำหรับฤดูหนาวของผู้
บริโภคส่งผลถึงดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม อาทิเช่น ภาคการก่อ
สร้างลดลงที่ระดับร้อยละ 1.3 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีวัดแนวโน้มภาคบริการและดัชนีอุตสาหกรรมโดย
รวมจะลดลงร้อยละ 1.0 และ 0.4 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นว่าการชะลอตัวลง
ของทั้ง 2 ดัชนีไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในเร็ว ๆ นี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 23/1/47 22/1/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.027 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.8337/39.1249 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1875-1.28 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 760.17/21.22 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,550/7,650 7,550/7,650 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 30.13 30.06 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท. ระบุยังไม่มีความจำเป็นต้องควบรวมไทยธนาคารกับธนาคารใด ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในฐานะประธานกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินยืนยันว่า
ขณะนี้ ธ.ไทยธนาคารยังไม่มีความจำเป็นต้องควบรวมกิจการกับธนาคารใด เนื่องจาก ธ.ไทยธนาคาร
สามารถจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้ด้วยตนเองอย่างดีตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (ข่าวสด, ผู้จัดการรายวัน)
2. ก.ล.ต. เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการไซฟอนเงินของบริษัทจดทะเบียน เลขาธิการสำนัก
งานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. มีแนวทางแก้ไขปัญหา
พฤติกรรมการผ่องถ่ายทรัพย์สิน (ไซฟอน) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (บจ.) โดยจะทำหน้าที่
เข้าไปแทรกแซงและเป็นผู้ชี้ให้เห็นถึงข้อมูลที่อาจนำไปสู่ความไม่ถูกต้องของธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านวิธีการกระตุ้น
ให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องออกมาอธิบายถึงเหตุผลของธุรกรรมแก่ผู้ถือหุ้น
เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต. พบว่ามีผู้บริหาร บจ. มีการกระทำไม่เหมาะสม แต่ยังไม่สามารถดำเนิน
คดีในข้อหาทุจริตได้เพราะยังมีช่วงโหว่ของกฎหมาย (ผู้จัดการรายวัน, ข่าวสด, โลกวันนี้, กรุงเทพธุรกิจ,
มติชน, แนวหน้า, สยามรัฐ)
3. ก.ล.ต. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมวางระเบียบจัดสรรหุ้นไอพีโอ เลขาธิการสำนัก
งานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้หารือร่วมกับ
สมาคมบริษัทหลักทรัพย์เพื่อให้มีการจัดระเบียบการจัดสรรหุ้นที่มีการออกและเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ)
เนื่องจากคาดว่าในปีนี้จะมีบริษัทขายหุ้นไอพีโอและเพิ่มทุนจำนวนมาก จึงควรมีการกำหนดแนวทางจัดสรรหุ้น
ดังกล่าวให้ชัดเจนเพื่อให้เกิดความโปร่งใส (กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด)
4. ก.คลังเตรียมเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับธุรกิจเอกชนที่สนับสนุนนักเรียนทำงานในช่วงปิดเทอม
ผู้ช่วย รมว.คลัง (นายกิตติ ลิ่มสกุล) กล่าวว่า ขณะนี้ ก.คลังอยู่ระหว่างยกร่างกฎหมายเพื่อให้ความ
ช่วยเหลือด้านภาษีกับบริษัทเอกชนที่ให้การสนับสนุนการศึกษากับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้เข้าทำงานในช่วง
ปิดภาคเรียนอย่างจริงจังตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้สามารถหักลดภาษีได้เป็น 2 เท่าหรือไม่เกิน 2%
ของกำไรสุทธิสำหรับนิติบุคคล หรือไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าลดหย่อนอื่น ๆ แล้ว นอกจากนี้ ก.คลัง
ได้มอบหมายให้กรมสรรพสามิตจัดตั้งกองทุนพัฒนาปัญญาไทยขึ้น โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากเงินภาษีจากสถาน
บริการต่าง ๆ ส่งเข้ากองทุนดังกล่าวเพื่อนำเงินไปส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของเด็กไทย (ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้)
5. สคร. จัดทำแผน 3 ปีเน้นกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจอย่างเป็นระบบ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการ
นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ปี (2547-2549) สคร. มี
แผนเน้นบทบาทการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจอย่างเป็นระบบ โดยแผนงานสำคัญคือ การบริหารรัฐ
วิสาหกิจเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะแยกประเภทรัฐวิสาหกิจออกเป็น 4 กลุ่มเพื่อให้ง่ายต่อการกำกับดูแล ได้แก่
1) กลุ่มที่มีผลกำไร 2) กลุ่มที่มีผลขาดทุนและต้องปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ 3) กลุ่มที่มีผลขาดทุนและ
ต้องดำเนินการให้พ้นสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจ และ 4) กลุ่มที่คงสภาพเดิม โดยในกลุ่ม 1. มีแผนจะผลัก
ดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 47 (โลกวันนี้, ข่าวสด, แนวหน้า, บ้านเมือง, เดลินิวส์, มติชน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. OECD ทบทวนตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของ 3 ประเทศเศรษฐกิจหลักเพิ่มขึ้น
รายงานจากกรุงดาโว สวิสเซอร์แลนด์ เมื่อ 22 ม.ค.47 องค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพัฒนา
(OECD) เปิดเผยหลังจากการประชุม World Economic Forum ที่กรุงดาโวว่า อัตราการขยายตัวทาง
เศรษฐกิจทั่วโลกส่วนใหญ่อยู่ในระดับแข็งแกร่ง โดยเฉพาะประเทศ สรอ. อังกฤษ และเขตเศรษฐกิจยุโรป
ได้มีการทบทวนยกระดับประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยในไตรมาส 1 ปี 47 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ
1.3 0.7 และ 0.6 จากที่ก่อนหน้านี้ประมาณการว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.1 0.6 และ 0.6 ตามลำดับ โดย
OECD ทบทวนโดยใช้ข้อมูลรายไตรมาสเป็นพื้นฐานและปรับฤดูกาลแล้ว แต่ยังไม่ได้พิจารณาถึงผลกระทบจากค่า
เงินหรือราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่อยู่ในระดับสมดุลและในหลาย ๆ
ประเทศยังไม่สามารถยืนหยัดด้วยตนเองได้ (รอยเตอร์)
2. ไตรมาสที่ 4 ปี 46 เศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง รายงานจากลอนดอนเมื่อ 22 ม.ค.47
The British Chambers of Commerce (BCC) เปิดเผยผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายไตร
มาส ซึ่งพบว่า ไตรมาสที่ 4 ปี 46 ยอดขายเพื่อการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี
นับตั้งแต่ปี 40 ที่เงินปอนด์สเตอร์ลิงมีค่าแข็งขึ้นและส่งผลกระทบถึงการส่งออกของอังกฤษ รวมถึงยอดขาย
และคำสั่งซื้อสินค้าภาคบริการก็เพิ่มขึ้นเช่นกันสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดย manufacturing export
sales index เพิ่มขึ้นสู่ระดับ +13 จากระดับ —2 ในไตรมาสที่ 3 manufacturing export orders
index เพิ่มขึ้น 18 จุดสู่ระดับ +16 manufacturing home sales index เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบปีสู่ระดับ
+17 จากระดับ 0 และ services home sales index เพิ่มขึ้นสู่ระดับ +30 จากระดับ +26 นอกจากนี้
ผลการสำรวจของ The Royal Institution of Chartered Surveyors พบว่า ในช่วงไตรมาสที่ 4
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด ขณะที่การกู้ยืมโดยการจำนองของภาคสถาบันการเงินก็เพิ่มขึ้น ทั้งนี้
สัญญาณต่างๆ ที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 46
และอาจเป็นผลให้ทางการปรับตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะ
ขยายตัวร้อยละ 0.8 ซึ่งจะส่งผลให้ ธ.กลางอังกฤษอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า (รอยเตอร์)
3. ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจของ สรอ.ในเดือน ธ.ค.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 รายงานจาก
วอชิงตัน เมื่อ 22 ม.ค.47 The Conference Board ของ สรอ. เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจ
ของ สรอ.ในเดือน ธ.ค.46 อยู่ที่ระดับ 114.3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากเดือน พ.ย.46 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.2 (ทบทวนแล้ว)สอดคล้องกับนักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีทประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ตัวเลขดัชนีชี้นำ
ภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเครื่องชี้แนวโน้มว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของ สรอ.ใน 3-6 เดือนข้างหน้าได้เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 4.7 เทียบต่อปี จากที่เคยอยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเดือน มี.ค.46 ที่ผ่านมา (รอยเตอร์)
4.จำนวนคนขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงและดัชนีความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจ สรอ.กำลังฟื้นตัว
รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 22 ม.ค.47 ก.แรงงานของ สรอ.รายงานจำนวนคนขอสวัสดิการ
ว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ม.ค.47 มีจำนวน 341,000 คน ลดลง 1,000 คนจากสัปดาห์ก่อน
ซึ่งมีจำนวน 342,000 คน ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันผิดจากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 347,000
คน โดย ก.แรงงานเตือนว่าจำนวนวันในสัปดาห์ที่น้อยลงเพราะมีวันหยุดและสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่ผิดปรกติ
มีส่วนทำให้ตัวเลขบิดเบือนไปได้ แต่นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการปลดพนักงาน
ออกจากงานลดลงและมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาค
ธุรกิจมีมากขึ้นซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของ Conference Board ว่าดัชนีชี้นำทาง
เศรษฐกิจของ สรอ.ซึ่งสะท้อนภาวะเศรษฐกิจในอีก 3 ถึง 6 เดือนข้างหน้าในเดือน ธ.ค.46 เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.2 จากเดือนก่อน เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 ต่อปี นับจากเดือน มี.ค.46 ซึ่ง
สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ปี 46 และเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวปีละร้อย
ละ 5 ถึง 6 ต่อไปอีกในอนาคต (รอยเตอร์)
5. ดัชนีวัดแนวโน้มภาคบริการและดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวมของญี่ปุ่นลดลงร้อยละ 2.3 และ 1.3 ตามลำดับ
รายงานจากโตเกียว เมื่อ 23 ม.ค.47 รัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ดัชนีวัดแนวโน้มภาคบริการของ
ญี่ปุ่นในเดือน พ.ย.46 ลดลงร้อยละ 2.3 เทียบจากเดือนก่อน (ตัวเลขก่อนปรับฤดูกาล) โดยมีสาเหตุจาก
ยอดการค้าปลีกชะลอตัวลงเนื่องจากอากาศอบอุ่นนอกฤดูกาลจะกีดกันการเตรียมซื้อสินค้าสำหรับฤดูหนาวของผู้
บริโภคส่งผลถึงดัชนีอุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม อาทิเช่น ภาคการก่อ
สร้างลดลงที่ระดับร้อยละ 1.3 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีวัดแนวโน้มภาคบริการและดัชนีอุตสาหกรรมโดย
รวมจะลดลงร้อยละ 1.0 และ 0.4 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นว่าการชะลอตัวลง
ของทั้ง 2 ดัชนีไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในเร็ว ๆ นี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 23/1/47 22/1/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.027 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.8337/39.1249 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1875-1.28 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 760.17/21.22 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,550/7,650 7,550/7,650 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 30.13 30.06 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-