ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ครม.อนุมัติให้ ก.คลังออกตั๋วเงินคลังเพื่อกู้เงินเพิ่มเติมอีก 8 หมื่นล้านบาท รมช.คลัง เปิดเผย
ภายหลังการประชุม ครม.วานนี้ว่า ที่ประชุมอนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปี งปม.49 ให้ ก.คลังออกตั๋ว
เงินคลังเพื่อกู้เงินเพิ่มเติมอีก 80,000 ล้านบาท เพราะได้ประเมินแล้วว่า กรอบเพดานการกู้เงินในประเทศที่เดิม
กำหนดไว้ 170,000 ล้านบาท อาจไม่เพียงพอ จึงได้ขอให้ ครม.ขยายกรอบการกู้เงินอีก 80,000 ล้านบาท ทำ
ให้ยอดการกู้เงินเพิ่มขึ้นจาก 170,000 ล้านบาท เป็น 250,000 ล้านบาท สาเหตุที่ต้องขอขยายกรอบเพดานการกู้
เงินภายในประเทศนั้น เนื่องจากปี งปม.49 รัฐบาลประมาณการ งปม.สูงถึง 1.36 ล้านล้านบาท และตั้งเป้า
หมายการเร่งรัดการเบิกจ่าย งปม.ที่ร้อยละ 93 และในปี งปม.48 รัฐบาลได้เร่งรัดให้เบิกจ่าย งปม.สูงถึงร้อย
ละ 93 อีกทั้งยังมีงบเหลือปีที่ต้องเบิกจ่ายเพิ่มขึ้น และจะต้องถ่ายโอนเงินให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(อปท.) อีกในช่วงต้นปี งปม. ทั้งนี้ ก.คลังจะเริ่มออกตั๋วเงินคลังเพื่อกู้เงินทุกวันศุกร์ โดยจะเริ่มออกครั้งแรกใน
วันศุกร์ที่ 9 ธ.ค.นี้ ส่วนวงเงินที่จะออกนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการ อาจอยู่ที่ 2,000-5,000 ล้านบาท หรือ
7,000 ล้านบาทตามความเหมาะสม ส่วนอายุตั๋วเงินคลังจะมีระยะเวลาไม่เกิน 91 วัน (กรุงเทพธุรกิจ, สยามรัฐ, ข่าวสด)
2. สศช.คาดจีดีพีไตรมาส 3 ปี 48 จะขยายตัวสูงกว่าร้อยละ 3.9 รายงานจากทำเนียบรัฐบาลแจ้ง
ว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานผลการติดตามมาตรการ
เศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 48 ให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ โดยพบว่า ผลการดำเนินมาตรการได้ช่วยให้
เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3 หลังจากที่เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2 โดยภาพรวมการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 48 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาด
ว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 3 จะขยายตัวได้สูงกว่าครึ่งปีแรกที่ขยายตัวร้อยละ 3.9 ส่งผลให้
ธปท.ปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากร้อยละ 3.5-4.5 เป็นร้อยละ 4.25-4.75 ในส่วนของดุลการ
ค้า พบว่า ขาดดุลการค้าน้อยกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากสามารถเร่งการส่งออกได้มากขึ้น และชะลอการนำ
เข้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าการส่งออกในเดือน ต.ค.จะต่ำกว่าเป้าหมายก็ตาม ส่งผลให้มีการขาดดุลการค้า
185.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทำให้ยอดการขาดดุลการค้าระยะ 10 เดือนแรกของปี 48 อยู่ที่ 7,593 ล้าน
ดอลลาร์ สรอ. ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากช่วง 6 เดือนแรกที่ขาดดุลการค้า 8,153.5 ล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ, โพสต์ทูเดย์)
3. ครม.อนุมัติปรับลดภาษีศุลกากร 9 ประเภทย่อย รอง ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)
ในฐานะโฆษก ก.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากร เพื่อ
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการผลิตในประเทศ ตามที่ ก.คลัง เสนอรวมจำนวนทั้งสิ้น 9
ประเภทย่อย โดยมีเพียง 8 ประเภทที่ปรับลด และมี 1 ประเภทที่ปรับขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน,
โพสต์ทูเดย์, ไทยรัฐ, มติชน, แนวหน้า)
4. ธ.นครหลวงไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นบริษัท 100 อันดับแรกที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร ธ.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า ธ.นครหลวงไทยได้รับการคัดเลือก
ให้เป็นบริษัท 100 อันดับแรกที่มีผลการประเมินดีเด่นด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี (List of 2005 Top
Quartile Companies) ประจำปี 48 ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) จากการสำรวจ
บจ.ต่าง ๆ รวม 371 บริษัท (ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดขายบ้านใหม่ของสรอ. ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 13 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 48 ก.พาณิชย์สรอ.เปิดเผยว่า ในเดือนต.ค. ยอดขายบ้านใหม่ของสรอ. เพิ่มขึ้น
ทำสถิติสูงสุดที่ 1.424 ล้านหลังหรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13 ขัดแย้งกับสัญญาณทางเศรษฐกิจอื่นๆที่ชี้
ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะชะลอลงเช่นเดียวกับที่นักเศรษฐศาสตร์จากวอลล์สตรีทคาดว่ายอดขายบ้านใหม่จะอยู่ที่
1.20 ล้านหลังชะลอลงจาก 1.22 ล้านหลังเมื่อเดือนก.ย. อย่างไรก็ตามราคาบ้านมิได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนักโดย
เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.6 และบ้านใหม่ที่ยังคงอยู่ในตลาดยังคงทำสถิติสูงสุดที่ 496,000 หลัง ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์
จาก Insight Economics ในแคลิฟอร์เนียเห็นว่าอุปสงค์สำหรับบ้านใหม่เพิ่มขึ้นอาจจะเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองส่งผลให้ผู้ซื้อรีบตัดสินใจซื้อบ้านดังกล่าว อย่างไรก็ตามสัญญาณทางเศรษฐกิจอื่นๆชี้ว่า
เศรษฐกิจสรอ. ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพและคาดว่าธ.กลางอาจจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
นโยบายในเร็วๆนี้เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ (รอยเตอร์)
2. ราคาบ้านอังกฤษในเดือน พ.ย.48 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.4 เทียบต่อปี รายงานจากลอนดอน
เมื่อ 29 พ.ย.48 สมาคมก่อสร้างที่อยู่อาศัยของอังกฤษ เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษในเดือน พ.ย.48 เมื่อ
เทียบต่อเดือนยังคงอยู่ในระดับเดิม หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 ในเดือนก่อนหน้า และเมื่อเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นเพียง
ร้อยละ 2.4 ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีอัตราเป็นเลข 2 หลัก อย่างไรก็ตาม มีรายงาน
ส่วนหนึ่งจาก ธ.กลางอังกฤษพบว่า การจำนองบ้านที่ได้รับการอนุมัติในเดือน ต.ค.48 กลับเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุด
ในรอบ 17 เดือน อันเป็นการส่งสัญญาณเกี่ยวกับราคาบ้านในเดือนถัดไป ทั้งนี้ The Organisation for
Economic Cooperation and Development เผยแพร่มุมมองที่อยู่อาศัยล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า มี
สัญญาณการฟื้นตัวในตลาดที่อยู่อาศัยบ้าง แต่การเติบโตด้านราคาบ้านยังไม่น่าจะกลับมาอยู่ในระดับแข็งแกร่งเช่นก่อน
หน้านี้ อนึ่ง ผู้กำหนดนโยบายการเงินของ ธ.กลางอังกฤษ ยังคงกำหนดนโยบายให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีเสถียรภาพเพื่อ
สนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งชะลอลงอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการชะลอลงของราคาที่อยู่
อาศัย ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ธ.กลางอังกฤษจะปรับอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของอังกฤษถูกตรึงไว้ที่ระดับร้อยละ 4.5 มา
2-3 เดือนแล้ว (รอยเตอร์)
3. รายได้ค่าล่วงเวลาโดยเฉลี่ยของคนญี่ปุ่นในเดือน ต.ค.48 ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 39
เดือน รายงานจากโตเกียว เมื่อ 30 พ.ย.48 รายได้ค่าล่วงเวลาโดยเฉลี่ยของคนญี่ปุ่นในเดือน ต.ค.48 ลดลง
ร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนมีจำนวน 19,147 เยนหรือประมาณ 159.90 ดอลลาร์ สรอ. ลดลง
เป็นครั้งแรกในรอบ 39 เดือน อย่างไรก็ดี รายได้ที่เป็นตัวเงินทั้งหมดซึ่งรวมค่าล่วงเวลา เงินเดือนหรือค่าจ้าง
และโบนัสในเดือน ต.ค. 48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับปีก่อนมีจำนวน 277,802 เยน โดยรายได้เงิน
เดือนหรือค่าจ้างไม่รวมค่าล่วงเวลาและโบนัสเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ต่อเดือน เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ทั้งนี้
เป็นผลจากธุรกิจในญี่ปุ่นได้จ้างพนักงานแบบเต็มเวลาเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือน ต.ค.48 จากเดือนก่อน เพิ่มขึ้น
เป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ในขณะที่จำนวนพนักงานชั่วคราวลดลงร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน ชี้ให้เห็นแนวโน้ม
ว่าธุรกิจในญี่ปุ่นกำลังใช้ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นในการจ้างพนักงานเพิ่มและเพิ่มเงินเดือนพนักงานมากกว่าที่จะเอาไปชำระ
หนี้ หลังจากที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเหล่านี้ปรับโครงสร้างองค์กรด้วยการลดตำแหน่งงานและจ้างพนักงานชั่ว
คราวแทนพนักงานประจำ (รอยเตอร์)
4. ดัชนีผลผลิตภาคบริการของเกาหลีใต้ปรับตัวดีขึ้นในเดือน ต.ค.48 รายงานจากโซลเมื่อ
30 พ.ย.48 The National Statistical Office เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตภาคบริการ (Service sector
output index) หลังปรับฤดูกาลของเกาหลีใต้ในเดือน ต.ค.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.5
ในเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากการขยายตัวของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร การบริการทางการเงินและการ
ประกันชีวิต แม้ว่าธุรกิจค้าส่งค้าปลีกจะชะลอลงก็ตาม ทั้งนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ต่างแสดงความเห็นว่า แม้ตัว
เลขดัชนีผลผลิตภาคบริการจะมีทิศทางที่สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ แต่พวกเขาก็ยังคาดหมายว่า ธ.
กลางเกาหลีใต้จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมจนถึงต้นปีหน้า เนื่องจากความต้องการภายในประเทศ
เพิ่งจะเริ่มต้นฟื้นตัวขึ้น และน่าจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนักหากตลาดแรงงานยังไม่แข็งแกร่งขึ้น อนึ่ง ธ.กลาง
เกาหลีใต้ได้คาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์ในประเทศ ซึ่งสัดส่วนของภาคบริการเป็นร้อยละ 55 ของทั้งหมด ว่า
จะชะลอลงที่ระดับร้อยละ 3.8 ในปี 48 เทียบกับปี 47 ซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.6 แต่คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับร้อย
ละ 5 ในปี 49 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 30 พ.ย. 48 29 พ.ย. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.219 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.0304/41.3322 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.81094 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 669.90/ 12.51 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 9,600/9,700 9,650/9,750 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 49.52 49.85 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด 40 สตางค์ เมื่อ 30 พ.ย. 48 24.84*/22.69** 25.24/22.69** 16.99/14.59 ปตท.
** ปรับลด 40 สตางค์ เมื่อ 14 พ.ย. 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ครม.อนุมัติให้ ก.คลังออกตั๋วเงินคลังเพื่อกู้เงินเพิ่มเติมอีก 8 หมื่นล้านบาท รมช.คลัง เปิดเผย
ภายหลังการประชุม ครม.วานนี้ว่า ที่ประชุมอนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปี งปม.49 ให้ ก.คลังออกตั๋ว
เงินคลังเพื่อกู้เงินเพิ่มเติมอีก 80,000 ล้านบาท เพราะได้ประเมินแล้วว่า กรอบเพดานการกู้เงินในประเทศที่เดิม
กำหนดไว้ 170,000 ล้านบาท อาจไม่เพียงพอ จึงได้ขอให้ ครม.ขยายกรอบการกู้เงินอีก 80,000 ล้านบาท ทำ
ให้ยอดการกู้เงินเพิ่มขึ้นจาก 170,000 ล้านบาท เป็น 250,000 ล้านบาท สาเหตุที่ต้องขอขยายกรอบเพดานการกู้
เงินภายในประเทศนั้น เนื่องจากปี งปม.49 รัฐบาลประมาณการ งปม.สูงถึง 1.36 ล้านล้านบาท และตั้งเป้า
หมายการเร่งรัดการเบิกจ่าย งปม.ที่ร้อยละ 93 และในปี งปม.48 รัฐบาลได้เร่งรัดให้เบิกจ่าย งปม.สูงถึงร้อย
ละ 93 อีกทั้งยังมีงบเหลือปีที่ต้องเบิกจ่ายเพิ่มขึ้น และจะต้องถ่ายโอนเงินให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(อปท.) อีกในช่วงต้นปี งปม. ทั้งนี้ ก.คลังจะเริ่มออกตั๋วเงินคลังเพื่อกู้เงินทุกวันศุกร์ โดยจะเริ่มออกครั้งแรกใน
วันศุกร์ที่ 9 ธ.ค.นี้ ส่วนวงเงินที่จะออกนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการ อาจอยู่ที่ 2,000-5,000 ล้านบาท หรือ
7,000 ล้านบาทตามความเหมาะสม ส่วนอายุตั๋วเงินคลังจะมีระยะเวลาไม่เกิน 91 วัน (กรุงเทพธุรกิจ, สยามรัฐ, ข่าวสด)
2. สศช.คาดจีดีพีไตรมาส 3 ปี 48 จะขยายตัวสูงกว่าร้อยละ 3.9 รายงานจากทำเนียบรัฐบาลแจ้ง
ว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานผลการติดตามมาตรการ
เศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 48 ให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ โดยพบว่า ผลการดำเนินมาตรการได้ช่วยให้
เศรษฐกิจขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3 หลังจากที่เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 2 โดยภาพรวมการ
เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 48 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาด
ว่า ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ในไตรมาส 3 จะขยายตัวได้สูงกว่าครึ่งปีแรกที่ขยายตัวร้อยละ 3.9 ส่งผลให้
ธปท.ปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจจากร้อยละ 3.5-4.5 เป็นร้อยละ 4.25-4.75 ในส่วนของดุลการ
ค้า พบว่า ขาดดุลการค้าน้อยกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากสามารถเร่งการส่งออกได้มากขึ้น และชะลอการนำ
เข้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าการส่งออกในเดือน ต.ค.จะต่ำกว่าเป้าหมายก็ตาม ส่งผลให้มีการขาดดุลการค้า
185.3 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทำให้ยอดการขาดดุลการค้าระยะ 10 เดือนแรกของปี 48 อยู่ที่ 7,593 ล้าน
ดอลลาร์ สรอ. ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากช่วง 6 เดือนแรกที่ขาดดุลการค้า 8,153.5 ล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ, โพสต์ทูเดย์)
3. ครม.อนุมัติปรับลดภาษีศุลกากร 9 ประเภทย่อย รอง ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)
ในฐานะโฆษก ก.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างพิกัดอัตราศุลกากร เพื่อ
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการผลิตในประเทศ ตามที่ ก.คลัง เสนอรวมจำนวนทั้งสิ้น 9
ประเภทย่อย โดยมีเพียง 8 ประเภทที่ปรับลด และมี 1 ประเภทที่ปรับขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน,
โพสต์ทูเดย์, ไทยรัฐ, มติชน, แนวหน้า)
4. ธ.นครหลวงไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นบริษัท 100 อันดับแรกที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร ธ.นครหลวงไทย เปิดเผยว่า ธ.นครหลวงไทยได้รับการคัดเลือก
ให้เป็นบริษัท 100 อันดับแรกที่มีผลการประเมินดีเด่นด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี (List of 2005 Top
Quartile Companies) ประจำปี 48 ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) จากการสำรวจ
บจ.ต่าง ๆ รวม 371 บริษัท (ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดขายบ้านใหม่ของสรอ. ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 13 รายงานจากนิวยอร์กเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 48 ก.พาณิชย์สรอ.เปิดเผยว่า ในเดือนต.ค. ยอดขายบ้านใหม่ของสรอ. เพิ่มขึ้น
ทำสถิติสูงสุดที่ 1.424 ล้านหลังหรือเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13 ขัดแย้งกับสัญญาณทางเศรษฐกิจอื่นๆที่ชี้
ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะชะลอลงเช่นเดียวกับที่นักเศรษฐศาสตร์จากวอลล์สตรีทคาดว่ายอดขายบ้านใหม่จะอยู่ที่
1.20 ล้านหลังชะลอลงจาก 1.22 ล้านหลังเมื่อเดือนก.ย. อย่างไรก็ตามราคาบ้านมิได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนักโดย
เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.6 และบ้านใหม่ที่ยังคงอยู่ในตลาดยังคงทำสถิติสูงสุดที่ 496,000 หลัง ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์
จาก Insight Economics ในแคลิฟอร์เนียเห็นว่าอุปสงค์สำหรับบ้านใหม่เพิ่มขึ้นอาจจะเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของ
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองส่งผลให้ผู้ซื้อรีบตัดสินใจซื้อบ้านดังกล่าว อย่างไรก็ตามสัญญาณทางเศรษฐกิจอื่นๆชี้ว่า
เศรษฐกิจสรอ. ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพและคาดว่าธ.กลางอาจจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
นโยบายในเร็วๆนี้เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ (รอยเตอร์)
2. ราคาบ้านอังกฤษในเดือน พ.ย.48 เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.4 เทียบต่อปี รายงานจากลอนดอน
เมื่อ 29 พ.ย.48 สมาคมก่อสร้างที่อยู่อาศัยของอังกฤษ เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษในเดือน พ.ย.48 เมื่อ
เทียบต่อเดือนยังคงอยู่ในระดับเดิม หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 ในเดือนก่อนหน้า และเมื่อเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นเพียง
ร้อยละ 2.4 ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มที่ต่ำเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีอัตราเป็นเลข 2 หลัก อย่างไรก็ตาม มีรายงาน
ส่วนหนึ่งจาก ธ.กลางอังกฤษพบว่า การจำนองบ้านที่ได้รับการอนุมัติในเดือน ต.ค.48 กลับเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูงสุด
ในรอบ 17 เดือน อันเป็นการส่งสัญญาณเกี่ยวกับราคาบ้านในเดือนถัดไป ทั้งนี้ The Organisation for
Economic Cooperation and Development เผยแพร่มุมมองที่อยู่อาศัยล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า มี
สัญญาณการฟื้นตัวในตลาดที่อยู่อาศัยบ้าง แต่การเติบโตด้านราคาบ้านยังไม่น่าจะกลับมาอยู่ในระดับแข็งแกร่งเช่นก่อน
หน้านี้ อนึ่ง ผู้กำหนดนโยบายการเงินของ ธ.กลางอังกฤษ ยังคงกำหนดนโยบายให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีเสถียรภาพเพื่อ
สนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งชะลอลงอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการชะลอลงของราคาที่อยู่
อาศัย ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ธ.กลางอังกฤษจะปรับอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของอังกฤษถูกตรึงไว้ที่ระดับร้อยละ 4.5 มา
2-3 เดือนแล้ว (รอยเตอร์)
3. รายได้ค่าล่วงเวลาโดยเฉลี่ยของคนญี่ปุ่นในเดือน ต.ค.48 ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 39
เดือน รายงานจากโตเกียว เมื่อ 30 พ.ย.48 รายได้ค่าล่วงเวลาโดยเฉลี่ยของคนญี่ปุ่นในเดือน ต.ค.48 ลดลง
ร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนมีจำนวน 19,147 เยนหรือประมาณ 159.90 ดอลลาร์ สรอ. ลดลง
เป็นครั้งแรกในรอบ 39 เดือน อย่างไรก็ดี รายได้ที่เป็นตัวเงินทั้งหมดซึ่งรวมค่าล่วงเวลา เงินเดือนหรือค่าจ้าง
และโบนัสในเดือน ต.ค. 48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับปีก่อนมีจำนวน 277,802 เยน โดยรายได้เงิน
เดือนหรือค่าจ้างไม่รวมค่าล่วงเวลาและโบนัสเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ต่อเดือน เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ทั้งนี้
เป็นผลจากธุรกิจในญี่ปุ่นได้จ้างพนักงานแบบเต็มเวลาเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือน ต.ค.48 จากเดือนก่อน เพิ่มขึ้น
เป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ในขณะที่จำนวนพนักงานชั่วคราวลดลงร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน ชี้ให้เห็นแนวโน้ม
ว่าธุรกิจในญี่ปุ่นกำลังใช้ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นในการจ้างพนักงานเพิ่มและเพิ่มเงินเดือนพนักงานมากกว่าที่จะเอาไปชำระ
หนี้ หลังจากที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเหล่านี้ปรับโครงสร้างองค์กรด้วยการลดตำแหน่งงานและจ้างพนักงานชั่ว
คราวแทนพนักงานประจำ (รอยเตอร์)
4. ดัชนีผลผลิตภาคบริการของเกาหลีใต้ปรับตัวดีขึ้นในเดือน ต.ค.48 รายงานจากโซลเมื่อ
30 พ.ย.48 The National Statistical Office เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตภาคบริการ (Service sector
output index) หลังปรับฤดูกาลของเกาหลีใต้ในเดือน ต.ค.48 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.5
ในเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากการขยายตัวของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร การบริการทางการเงินและการ
ประกันชีวิต แม้ว่าธุรกิจค้าส่งค้าปลีกจะชะลอลงก็ตาม ทั้งนี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ต่างแสดงความเห็นว่า แม้ตัว
เลขดัชนีผลผลิตภาคบริการจะมีทิศทางที่สะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ แต่พวกเขาก็ยังคาดหมายว่า ธ.
กลางเกาหลีใต้จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมจนถึงต้นปีหน้า เนื่องจากความต้องการภายในประเทศ
เพิ่งจะเริ่มต้นฟื้นตัวขึ้น และน่าจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนักหากตลาดแรงงานยังไม่แข็งแกร่งขึ้น อนึ่ง ธ.กลาง
เกาหลีใต้ได้คาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์ในประเทศ ซึ่งสัดส่วนของภาคบริการเป็นร้อยละ 55 ของทั้งหมด ว่า
จะชะลอลงที่ระดับร้อยละ 3.8 ในปี 48 เทียบกับปี 47 ซึ่งอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.6 แต่คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับร้อย
ละ 5 ในปี 49 (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 30 พ.ย. 48 29 พ.ย. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.219 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.0304/41.3322 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 3.81094 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 669.90/ 12.51 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 9,600/9,700 9,650/9,750 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 49.52 49.85 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด 40 สตางค์ เมื่อ 30 พ.ย. 48 24.84*/22.69** 25.24/22.69** 16.99/14.59 ปตท.
** ปรับลด 40 สตางค์ เมื่อ 14 พ.ย. 48
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--