ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.พิจารณาออกมาตรการแก้ไขปัญหาเอ็นพีแอลในระบบสถาบันการเงินเพิ่มเติม นางธาริ
ษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่
ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่คงค้างในระบบสถาบันการเงินว่า ธปท.กำลังพิจารณาออกมาตรการเพิ่มเติม
เพื่อให้ ธพ.ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้และแก้ปัญหาเอ็นพีแอลได้เร็วขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหา
เอ็นพีแอลของสถาบันการเงินยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ ธปท.กำหนดไว้ โดยเอ็นพีแอลของ ธพ.ไทยทั้งระบบ
ณ สิ้นปี 46 มีจำนวนทั้งสิ้น 591,050.80 ล.บาทหรือคิดเป็น 13.52% ของสินเชื่อรวม ลดลงจากสิ้นไตรมาส
3 ที่มีเอ็นพีแอล 694,499.86 ล.บาท หรือคิดเป็น 16.17% ของสินเชื่อรวม สำหรับแนวทางของมาตรการ
ดังกล่าว ธปท.มีแนวคิดในหลักการคือ จะปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการนำหลักประกันไปหักก่อนการกันสำรอง
หนี้เอ็นพีแอลให้เข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจเป็นการลดราคาหลักทรัพย์ที่จะนำไปหักก่อนการกันสำรองหนี้เอ็นพีแอลให้
น้อยกว่า 100% จากมาตรการเดิมที่อนุญาตให้นำมูลค่าหลักทรัพย์ที่มีอยู่มาหักออกจากมูลหนี้รวมได้ 100% ก่อน
กันสำรองหนี้เอ็นพีแอล (ผู้จัดการรายวัน, กรุงเทพธุรกิจ)
2. ก.ล.ต.เตือนนักลงทุนไม่ควรวิตกเกี่ยวกับการระบาดของโรคไข้หวัดนก เลขาธิการคณะ
กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวถึง การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์
อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 26 ม.ค.46 ที่ปรับตัวลดลงถึง 28 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับ
การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกว่า นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนก โดยเฉพาะนักลงทุนที่เลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี
เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศมีการฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนปรับตัวดีขึ้นด้วย
(กรุงเทพธุรกิจ)
3. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 47 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ประธานกรรมการมูลนิธิ
ประเมินค่าทรัพย์สินไทย เปิดเผยในงานเสวนาวิชาการเรื่อง “อสังหาริมทรัพย์ไทย 2547 : ทรรศนะจากผู้รู้
ทุกสาขา” ว่า ในปี 46 มีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 42,994 หน่วย ถือว่ามีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับ
ช่วงปี 41 แต่เมื่อพิจารณาถึงมูลค่าโครงการที่มีมูลค่ารวมกันถึง 119,454 ล.บาทแล้วถือว่าสูงมาก โดยบ้าน
เดี่ยวมีสัดส่วนมูลค่าสูงถึง 68,397 ล.บาทหรือ 57% ซึ่งนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรม
ราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สถานการณ์การก่อสร้างในปีที่ผ่านมาว่าแสดงสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมก่อสร้าง และคาด
ว่าในปี 47 จะมีโครงการบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (โลกวันนี้)
4. ครม.อนุมัติแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพ่ระบาดของโรคไข้หวัดนก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. (วันที่ 27 ม.ค.47) รับทราบความคืบหน้า
สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในไก่ โดยที่ประชุมได้อนุมัติการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรที่กู้
เงินมาเพื่อเลี้ยงสัตว์ปีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยรัฐจะชดเชยเงินค่าดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงิน ใน
กรณีที่เป็นเงินกู้เพื่อการเลี้ยงสัตว์ปีก นอกจากนี้ ครม.ได้เห็นชอบในแนวทางให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่
เกษตรกรในด้านอื่นๆ เช่น การปรับปรุงโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น (กรุงเทพธุรกิจ)
5. ครม.เห็นชอบการจัดตั้งสำนักงานเลขาธิการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย โฆษกประจำสำนัก
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้มีการจัดตั้งสำนักงานเลขาธิการพัฒนาตลาดพันธบัตร
เอเชีย (เอเชียบอนด์) ตามที่ ก.คลังเสนอ ซึ่งการเห็นชอบครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อ
มาตรการริเริ่มตลาดพันธบัตรเอเชีย ซึ่งจะส่งผลในการสร้างแหล่งเงินทุนระยะยาวในกลุ่มประเทศสมาชิก
และนำไปสู่โครงสร้างของระบบตลาดเงิน ตลาดทุน และตราสารหนี้ที่มีดุลยภาพ (แนวหน้า)
6. หอการค้าศึกษาผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ผอ.ศูนย์
ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการศึกษาของศูนย์ศึกษาการค้าระหว่าง
ประเทศ พบว่า การระบาดของโรคไข้หวัดนกจะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยไม่มาก โดยหากประเทศคู่ค้าระงับการ
นำเข้าไก่จากไทยเป็นเวลา 3 เดือน จะส่งผลกระทบต่อจีดีพีเพียง 0.3% แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อรวมถึง
หากสหภาพยุโรปห้ามนำเข้าสินค้าไก่จากไทยเป็นเวลา 5-6 เดือน จะส่งผลกระทบต่อจีดีพี 0.5% จึงมีความ
เป็นไปได้สูงที่เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย 8% ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้
สำหรับอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์สำเร็จรูป (ข่าวสด)
7. กรมสรรพสามิตเตรียมปรับประมาณการการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในปีงปม.47 อธิบดี
กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตเตรียมปรับประมาณการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในปี งปม.47
เพิ่มขึ้นเป็น 2.7 แสน ล.บาท จากการปรับครั้งก่อนที่ระดับ 2.46 แสน ล.บาท และจากประมาณการเดิมที่
กำหนดไว้ 2.36 แสน ล.บาท เนื่องจากรายได้จากภาษีสรรพสามิตที่เป็นตัวหลัก โดยเฉพาะน้ำมันและ
ผลิตภัณฑ์น้ำมัน รถยนต์ มีอัตราการบริโภคเพิ่มขึ้นสูงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ต่อเนื่องจากการขยาย
ตัวของเศรษฐกิจและการกระตุ้นยอดขายในรูปแบบต่างๆ สำหรับการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตในช่วงไตร
มาสแรกของปี งปม. 47 (ต.ค.-ธ.ค.46) มีจำนวน 68,623.45 ล.บาท สูงกว่าประมาณการ 19.30%
และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.74% โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค.46 เก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการ
31.40% และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 27.99% (ข่าวสด)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สรอ. เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 96.8 ในเดือน ม.ค.47 รายงาน
จากนิวยอร์คเมื่อ 27 ม.ค.47 The Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สรอ.
อยู่ที่ระดับ 96.8 ในเดือน ม.ค.47 เพิ่มขึ้นจากระดับ 91.7 ของเดือน ธ.ค.46 โดยมีสาเหตุมาจากการ
มองภาพเศรษฐกิจ สรอ. ในด้านบวกมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในเศรษฐกิจระยะสั้นของ สรอ. จึงมี
การจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ในขณะที่ผู้บริโภคประเมินสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดแรงงานว่ายังคงมีความ
อ่อนแอและไม่แน่นอน โอกาสในการได้งานทำยังคงเป็นปัญหาอยู่ (รอยเตอร์)
2. อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนม.ค. 47 สูงขึ้นร้อยละ 0.1 จากเดือนที่แล้ว รายงานจาก
เบอร์ลิน เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 47 สำนักงานสถิติเยอรมนีเปิดเผยตัวเลขเบื้องต้นว่าในเดือนม.ค. 47 อัตราเงินเฟ้อ
ในเยอรมนีสูงขึ้นที่ระดับร้อยละ 1.2 จากร้อยละ 1.1 ในเดือน ธ.ค. 46 สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อในประเทศกลุ่ม
ประเทศสหภาพยุโรปที่สูงขึ้นถึงระดับร้อยละ 1.3 จากร้อยละ 1.1 เมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากการปฎิรูป
ระบบสุขภาพของรัฐบาลทำให้ต้นทุนทางการแพทย์และยาสูงขึ้น ช่วงเดียวกันปีก่อน นอกจากนั้นตัวเลขเงินเฟ้อ
ยังสอดคล้องกับผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์ที่แต่หากไม่นับรวมการปฎิรูประบบสุขภาพแล้ว
อัตราเงินเฟ้อในเดือนม.ค. จะประมาณร้อยละ 0.6 จากที่เปิดเผยก่อนหน้านั้น อนึ่งเยอรมนีเป็นประเทศที่มี
เศรษฐกิจใหญ่เกือบ 1 ใน 3 ของ 12 ชาติในยูโรโซน ดังนั้นตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนีจึงถูกจับตา
มองอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเป็นสัญญานแนวโน้มเงินเฟ้อของยูโรโซนทั้งหมด และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสำนักงานสถิติ
สหภาพยุโรปได้ปรับลดประมาณการเงินเฟ้อในยูโรโซนในเดือนธ.ค. เหลือร้อยละ 2.0 จากเดิมร้อยละ 2.1
ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเป็นไปตามข้อจำกัดของ ธ.กลางยุโรป เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ต.ค. 46 (
รอยเตอร์)
3. ยอดการค้าปลีกโดยรวมของญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค.46 ลดลงร้อยละ 0.1 เทียบต่อปี รายงาน
จากโตเกียว เมื่อ 28 ม.ค.47กซเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) เปิดเผยว่า ยอดการค้า
ปลีกโดยรวมของญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค.46 ลดลงร้อยละ 0.1 เทียบจากเดือนเดียวกันในปีก่อน ซึ่งลดลงน้อยกว่า
ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงร้อยละ 1.9 เนื่องจากอากาศที่อบอุ่นผิดปกติส่งผลกระทบต่อการบริโภค
สินค้าตามฤดูกาลของประชาชนในประเทศ ขณะที่รมว.คลังกล่าวว่า รัฐบาลต้องพยายามสนับสนุนให้เกิดความ
ต้องการในประเทศเพื่อให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นพึ่งพาการส่งออกน้อยลง ทั้งนี้ หากเป็นตัวเลขหลังปรับฤดูกาลยอด
การค้าปลีกโดยรวมในเดือน ธ.ค.46 ลดลงร้อยละ 0.7 เทียบต่อเดือน และยอดขายในห้างสรรพสินค้าใน
เดือนเดียวกันลดลงร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบต่อปี (รอยเตอร์)
4. การฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษทำให้คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน
สัปดาห์หน้า รายงานจากลอนดอน เมื่อ 27 ม.ค.47 ยอดสั่งซื้อสินค้าของอังกฤษจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นใน
อัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.ปี 39 โดยผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และเพิ่มขึ้นใน
อัตราสูงสุดในรอบ 8 ปี หลังจากที่ประสบภาวะตกต่ำในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา จากการแข็งค่าของเงินปอนด์ โดย
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมจากการสำรวจรายไตรมาสเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 18
เดือนในเดือน ม.ค.47 และอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.45 อันเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
โลกและความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 ปี 46 โดยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 1 ใน
เดือน ธ.ค.46 และการอ่อนค่าของเงินปอนด์เมื่อเทียบกับเงินยูโร ทำให้คาดกันว่า ธ.กลางอังกฤษจะขึ้น
อัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อยร้อยละ 0.25 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.0 ในการประชุมใน
สัปดาห์หน้า (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 28/1/47 27/1/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.249 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.1086/39.3880 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.8750 - 1.2800 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 739.47/30.73 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,500/7,600 7,500/7,600 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 28.5 29.21 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.พิจารณาออกมาตรการแก้ไขปัญหาเอ็นพีแอลในระบบสถาบันการเงินเพิ่มเติม นางธาริ
ษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่
ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่คงค้างในระบบสถาบันการเงินว่า ธปท.กำลังพิจารณาออกมาตรการเพิ่มเติม
เพื่อให้ ธพ.ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้และแก้ปัญหาเอ็นพีแอลได้เร็วขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหา
เอ็นพีแอลของสถาบันการเงินยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ ธปท.กำหนดไว้ โดยเอ็นพีแอลของ ธพ.ไทยทั้งระบบ
ณ สิ้นปี 46 มีจำนวนทั้งสิ้น 591,050.80 ล.บาทหรือคิดเป็น 13.52% ของสินเชื่อรวม ลดลงจากสิ้นไตรมาส
3 ที่มีเอ็นพีแอล 694,499.86 ล.บาท หรือคิดเป็น 16.17% ของสินเชื่อรวม สำหรับแนวทางของมาตรการ
ดังกล่าว ธปท.มีแนวคิดในหลักการคือ จะปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการนำหลักประกันไปหักก่อนการกันสำรอง
หนี้เอ็นพีแอลให้เข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจเป็นการลดราคาหลักทรัพย์ที่จะนำไปหักก่อนการกันสำรองหนี้เอ็นพีแอลให้
น้อยกว่า 100% จากมาตรการเดิมที่อนุญาตให้นำมูลค่าหลักทรัพย์ที่มีอยู่มาหักออกจากมูลหนี้รวมได้ 100% ก่อน
กันสำรองหนี้เอ็นพีแอล (ผู้จัดการรายวัน, กรุงเทพธุรกิจ)
2. ก.ล.ต.เตือนนักลงทุนไม่ควรวิตกเกี่ยวกับการระบาดของโรคไข้หวัดนก เลขาธิการคณะ
กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวถึง การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์
อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 26 ม.ค.46 ที่ปรับตัวลดลงถึง 28 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับ
การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกว่า นักลงทุนไม่ควรตื่นตระหนก โดยเฉพาะนักลงทุนที่เลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี
เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศมีการฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนปรับตัวดีขึ้นด้วย
(กรุงเทพธุรกิจ)
3. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 47 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ประธานกรรมการมูลนิธิ
ประเมินค่าทรัพย์สินไทย เปิดเผยในงานเสวนาวิชาการเรื่อง “อสังหาริมทรัพย์ไทย 2547 : ทรรศนะจากผู้รู้
ทุกสาขา” ว่า ในปี 46 มีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 42,994 หน่วย ถือว่ามีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับ
ช่วงปี 41 แต่เมื่อพิจารณาถึงมูลค่าโครงการที่มีมูลค่ารวมกันถึง 119,454 ล.บาทแล้วถือว่าสูงมาก โดยบ้าน
เดี่ยวมีสัดส่วนมูลค่าสูงถึง 68,397 ล.บาทหรือ 57% ซึ่งนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรม
ราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สถานการณ์การก่อสร้างในปีที่ผ่านมาว่าแสดงสัญญาณที่ดีของอุตสาหกรรมก่อสร้าง และคาด
ว่าในปี 47 จะมีโครงการบ้านจัดสรรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (โลกวันนี้)
4. ครม.อนุมัติแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพ่ระบาดของโรคไข้หวัดนก
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. (วันที่ 27 ม.ค.47) รับทราบความคืบหน้า
สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในไก่ โดยที่ประชุมได้อนุมัติการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรที่กู้
เงินมาเพื่อเลี้ยงสัตว์ปีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยรัฐจะชดเชยเงินค่าดอกเบี้ยให้กับสถาบันการเงิน ใน
กรณีที่เป็นเงินกู้เพื่อการเลี้ยงสัตว์ปีก นอกจากนี้ ครม.ได้เห็นชอบในแนวทางให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่
เกษตรกรในด้านอื่นๆ เช่น การปรับปรุงโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น (กรุงเทพธุรกิจ)
5. ครม.เห็นชอบการจัดตั้งสำนักงานเลขาธิการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย โฆษกประจำสำนัก
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้มีการจัดตั้งสำนักงานเลขาธิการพัฒนาตลาดพันธบัตร
เอเชีย (เอเชียบอนด์) ตามที่ ก.คลังเสนอ ซึ่งการเห็นชอบครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อ
มาตรการริเริ่มตลาดพันธบัตรเอเชีย ซึ่งจะส่งผลในการสร้างแหล่งเงินทุนระยะยาวในกลุ่มประเทศสมาชิก
และนำไปสู่โครงสร้างของระบบตลาดเงิน ตลาดทุน และตราสารหนี้ที่มีดุลยภาพ (แนวหน้า)
6. หอการค้าศึกษาผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ผอ.ศูนย์
ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการศึกษาของศูนย์ศึกษาการค้าระหว่าง
ประเทศ พบว่า การระบาดของโรคไข้หวัดนกจะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยไม่มาก โดยหากประเทศคู่ค้าระงับการ
นำเข้าไก่จากไทยเป็นเวลา 3 เดือน จะส่งผลกระทบต่อจีดีพีเพียง 0.3% แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อรวมถึง
หากสหภาพยุโรปห้ามนำเข้าสินค้าไก่จากไทยเป็นเวลา 5-6 เดือน จะส่งผลกระทบต่อจีดีพี 0.5% จึงมีความ
เป็นไปได้สูงที่เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย 8% ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้
สำหรับอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์สำเร็จรูป (ข่าวสด)
7. กรมสรรพสามิตเตรียมปรับประมาณการการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในปีงปม.47 อธิบดี
กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตเตรียมปรับประมาณการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในปี งปม.47
เพิ่มขึ้นเป็น 2.7 แสน ล.บาท จากการปรับครั้งก่อนที่ระดับ 2.46 แสน ล.บาท และจากประมาณการเดิมที่
กำหนดไว้ 2.36 แสน ล.บาท เนื่องจากรายได้จากภาษีสรรพสามิตที่เป็นตัวหลัก โดยเฉพาะน้ำมันและ
ผลิตภัณฑ์น้ำมัน รถยนต์ มีอัตราการบริโภคเพิ่มขึ้นสูงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ต่อเนื่องจากการขยาย
ตัวของเศรษฐกิจและการกระตุ้นยอดขายในรูปแบบต่างๆ สำหรับการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตในช่วงไตร
มาสแรกของปี งปม. 47 (ต.ค.-ธ.ค.46) มีจำนวน 68,623.45 ล.บาท สูงกว่าประมาณการ 19.30%
และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.74% โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค.46 เก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการ
31.40% และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 27.99% (ข่าวสด)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สรอ. เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 96.8 ในเดือน ม.ค.47 รายงาน
จากนิวยอร์คเมื่อ 27 ม.ค.47 The Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สรอ.
อยู่ที่ระดับ 96.8 ในเดือน ม.ค.47 เพิ่มขึ้นจากระดับ 91.7 ของเดือน ธ.ค.46 โดยมีสาเหตุมาจากการ
มองภาพเศรษฐกิจ สรอ. ในด้านบวกมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในเศรษฐกิจระยะสั้นของ สรอ. จึงมี
การจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ในขณะที่ผู้บริโภคประเมินสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดแรงงานว่ายังคงมีความ
อ่อนแอและไม่แน่นอน โอกาสในการได้งานทำยังคงเป็นปัญหาอยู่ (รอยเตอร์)
2. อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีในเดือนม.ค. 47 สูงขึ้นร้อยละ 0.1 จากเดือนที่แล้ว รายงานจาก
เบอร์ลิน เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 47 สำนักงานสถิติเยอรมนีเปิดเผยตัวเลขเบื้องต้นว่าในเดือนม.ค. 47 อัตราเงินเฟ้อ
ในเยอรมนีสูงขึ้นที่ระดับร้อยละ 1.2 จากร้อยละ 1.1 ในเดือน ธ.ค. 46 สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อในประเทศกลุ่ม
ประเทศสหภาพยุโรปที่สูงขึ้นถึงระดับร้อยละ 1.3 จากร้อยละ 1.1 เมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากการปฎิรูป
ระบบสุขภาพของรัฐบาลทำให้ต้นทุนทางการแพทย์และยาสูงขึ้น ช่วงเดียวกันปีก่อน นอกจากนั้นตัวเลขเงินเฟ้อ
ยังสอดคล้องกับผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์ที่แต่หากไม่นับรวมการปฎิรูประบบสุขภาพแล้ว
อัตราเงินเฟ้อในเดือนม.ค. จะประมาณร้อยละ 0.6 จากที่เปิดเผยก่อนหน้านั้น อนึ่งเยอรมนีเป็นประเทศที่มี
เศรษฐกิจใหญ่เกือบ 1 ใน 3 ของ 12 ชาติในยูโรโซน ดังนั้นตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนีจึงถูกจับตา
มองอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเป็นสัญญานแนวโน้มเงินเฟ้อของยูโรโซนทั้งหมด และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสำนักงานสถิติ
สหภาพยุโรปได้ปรับลดประมาณการเงินเฟ้อในยูโรโซนในเดือนธ.ค. เหลือร้อยละ 2.0 จากเดิมร้อยละ 2.1
ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเป็นไปตามข้อจำกัดของ ธ.กลางยุโรป เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ต.ค. 46 (
รอยเตอร์)
3. ยอดการค้าปลีกโดยรวมของญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค.46 ลดลงร้อยละ 0.1 เทียบต่อปี รายงาน
จากโตเกียว เมื่อ 28 ม.ค.47กซเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) เปิดเผยว่า ยอดการค้า
ปลีกโดยรวมของญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค.46 ลดลงร้อยละ 0.1 เทียบจากเดือนเดียวกันในปีก่อน ซึ่งลดลงน้อยกว่า
ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงร้อยละ 1.9 เนื่องจากอากาศที่อบอุ่นผิดปกติส่งผลกระทบต่อการบริโภค
สินค้าตามฤดูกาลของประชาชนในประเทศ ขณะที่รมว.คลังกล่าวว่า รัฐบาลต้องพยายามสนับสนุนให้เกิดความ
ต้องการในประเทศเพื่อให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นพึ่งพาการส่งออกน้อยลง ทั้งนี้ หากเป็นตัวเลขหลังปรับฤดูกาลยอด
การค้าปลีกโดยรวมในเดือน ธ.ค.46 ลดลงร้อยละ 0.7 เทียบต่อเดือน และยอดขายในห้างสรรพสินค้าใน
เดือนเดียวกันลดลงร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบต่อปี (รอยเตอร์)
4. การฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษทำให้คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน
สัปดาห์หน้า รายงานจากลอนดอน เมื่อ 27 ม.ค.47 ยอดสั่งซื้อสินค้าของอังกฤษจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นใน
อัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.ปี 39 โดยผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี และเพิ่มขึ้นใน
อัตราสูงสุดในรอบ 8 ปี หลังจากที่ประสบภาวะตกต่ำในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา จากการแข็งค่าของเงินปอนด์ โดย
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมจากการสำรวจรายไตรมาสเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 18
เดือนในเดือน ม.ค.47 และอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.45 อันเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
โลกและความต้องการในประเทศที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 ปี 46 โดยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 1 ใน
เดือน ธ.ค.46 และการอ่อนค่าของเงินปอนด์เมื่อเทียบกับเงินยูโร ทำให้คาดกันว่า ธ.กลางอังกฤษจะขึ้น
อัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อยร้อยละ 0.25 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.0 ในการประชุมใน
สัปดาห์หน้า (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 28/1/47 27/1/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.249 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.1086/39.3880 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.8750 - 1.2800 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 739.47/30.73 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,500/7,600 7,500/7,600 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 28.5 29.21 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-