นายวิฑูร นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ลดจำนวนผู้ช่วยกำนันผู้ใหญ่บ้านลง โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการประหยัดเงินงบประมาณของประเทศ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงการได้มาเป็นการแต่งตั้งแทนการเลือกตั้งว่า กรรมาธิการพัฒนาการเมืองได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุดเพื่อศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งพบว่ารัฐบาลใช้วิธีที่เจ้าเล่ห์โดยบอกว่าจะขึ้นเงินเดือนกำนันผู้ใหญ่บ้าน แต่จากมติคณะรัฐมนตรีวานนี้(27 ม.ค.47) มีมติให้ลดผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน จากหมู่บ้านละ 1-2 คน ซึ่งก็เท่ากับว่าเงินที่จะมาขึ้นเงินเดือนให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้าน คือเงินเดือนของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรกำนันนั่นเอง
นายวิฑูรกล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯได้ทำการศึกษาและแยกออกมาเป็นประเด็นดังนี้คือ 1. ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรกำนันถือว่ายังมีความจำเป็นที่ต้องดูแลประชาชนในลักษณะของการปกครองท้องที่ การประสานงาน และการรักษาความสงบในพื้นที่ ทั้งในส่วนของจำนวนก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว ไม่ควรมีการลดจำนวนลง 2.การประชุมสัมมนากำนันผู้ใหญ่บ้าน เหตุใดจึงเชิญเพียงผู้ใหญ่บ้านอำเภอละ 1 คน เหตุใดจึงไม่เชิญในส่วนของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรกำนันมาด้วย เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้บุคคลที่ได้รับผลกระทบสูงสุดคือ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และแพทย์ประจำตำบล ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลได้ออกแบบสอบถามว่ามีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนเท่าใด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากออกแบบสอบถามแล้วจะมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลมากกว่าร้อยละ 80
สำหรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านมาเป็นการแต่งตั้งแทนนั้น นายวิฑูรกล่าวว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการรวบอำนาจและแย่งอำนาจมากจากประชาชน เพราะแทนที่จะให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแทนของประชาชน กลับให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแทนของฝ่ายรัฐบาล
‘รัฐบาลกำลังถอยหลังตกเหวเลย ไม่ใช่ถอยหลังลงคลองแล้ว รัฐบาลจะอ้างว่าเพื่อป้องกันความขัดแย้งการเลือกตั้งในท้องถิ่น การแข่งขันก็ทำกันไป ไม่เห็นมีปัญหาอะไรในพื้นที่ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นธาตุแท้ของรัฐบาลเลยว่า ต้องการที่จะรวบอำนาจแบบรวมศูนย์อำนาจแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีระบบผู้ว่าซีอีโอ นายอำเภอ แล้วก็เอากำนันผู้ใหญ่บ้านมาอยู่ในกำมือ และในที่สุดกำนันผู้ใหญ่บ้านก็ต้องเกรงใจมาเป็นผู้รับใช้ของรัฐบาลในอนาคต และในส่วนของการแก้กฎหมายผมก็เชื่อว่ารัฐบาลก็จะใช้เสียงข้างมากลากไป ซึ่งต้องฝากความหวังในเรื่องนี้ไว้กับวุฒิสภาเพื่อให้กลั่นกรองด้วย’ นายวิฑูร กล่าว
เมื่อถามว่ามองว่าการเปลี่ยนแปลงจากการเลือกตั้งมาเป็นการแต่งตั้ง จะเป็นการสร้างฐานอำนาจของรัฐบาลหรือไม่ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า แน่นอน รัฐบาลก็หวังสร้างฐานเสียงอยู่ แต่อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งต่อไป คงไม่มีผลอะไรมาก แต่ผลเสียที่เกิดขึ้นในระยะยาวคือจะทำให้กำนันผู้ใหญ่บ้านมาเอาอกใจใจฝ่ายการเมืองเพื่อหวังตำแหน่ง แทนที่จะเอาเวลาไปดูแลประชาชน ต่อข้อถามว่าการดำเนินการของฝ่ายค้านหากรัฐบาลผ่านร่างกฎหมายไปจะทำอย่างไร นายวิฑูรกล่าวว่า แม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมากซึ่งฝ่ายค้านอาจจะทัดทานไม่ได้ แต่อย่าลืมว่ายยังมีวุฒิสภาอีกชั้นหนึ่งที่จะสามารถคัดค้านได้ ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ทักท้วงในสภาอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ไม่เห็นด้วยเพราะเชื่อว่าการแต่งตั้งคืออำนาจของบุคคล ไม่ใช่อำนาจของประชาชน ดังนั้นกำนันผู้ใหญ่บ้านก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะเลือกผู้แทนของเขาเอง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 28/01/47--จบ--
-สส-
นายวิฑูรกล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯได้ทำการศึกษาและแยกออกมาเป็นประเด็นดังนี้คือ 1. ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรกำนันถือว่ายังมีความจำเป็นที่ต้องดูแลประชาชนในลักษณะของการปกครองท้องที่ การประสานงาน และการรักษาความสงบในพื้นที่ ทั้งในส่วนของจำนวนก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว ไม่ควรมีการลดจำนวนลง 2.การประชุมสัมมนากำนันผู้ใหญ่บ้าน เหตุใดจึงเชิญเพียงผู้ใหญ่บ้านอำเภอละ 1 คน เหตุใดจึงไม่เชิญในส่วนของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรกำนันมาด้วย เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้บุคคลที่ได้รับผลกระทบสูงสุดคือ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และแพทย์ประจำตำบล ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลได้ออกแบบสอบถามว่ามีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนเท่าใด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากออกแบบสอบถามแล้วจะมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลมากกว่าร้อยละ 80
สำหรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านมาเป็นการแต่งตั้งแทนนั้น นายวิฑูรกล่าวว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการรวบอำนาจและแย่งอำนาจมากจากประชาชน เพราะแทนที่จะให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแทนของประชาชน กลับให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแทนของฝ่ายรัฐบาล
‘รัฐบาลกำลังถอยหลังตกเหวเลย ไม่ใช่ถอยหลังลงคลองแล้ว รัฐบาลจะอ้างว่าเพื่อป้องกันความขัดแย้งการเลือกตั้งในท้องถิ่น การแข่งขันก็ทำกันไป ไม่เห็นมีปัญหาอะไรในพื้นที่ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้ก็เป็นการแสดงให้เห็นธาตุแท้ของรัฐบาลเลยว่า ต้องการที่จะรวบอำนาจแบบรวมศูนย์อำนาจแบบเบ็ดเสร็จ โดยมีระบบผู้ว่าซีอีโอ นายอำเภอ แล้วก็เอากำนันผู้ใหญ่บ้านมาอยู่ในกำมือ และในที่สุดกำนันผู้ใหญ่บ้านก็ต้องเกรงใจมาเป็นผู้รับใช้ของรัฐบาลในอนาคต และในส่วนของการแก้กฎหมายผมก็เชื่อว่ารัฐบาลก็จะใช้เสียงข้างมากลากไป ซึ่งต้องฝากความหวังในเรื่องนี้ไว้กับวุฒิสภาเพื่อให้กลั่นกรองด้วย’ นายวิฑูร กล่าว
เมื่อถามว่ามองว่าการเปลี่ยนแปลงจากการเลือกตั้งมาเป็นการแต่งตั้ง จะเป็นการสร้างฐานอำนาจของรัฐบาลหรือไม่ประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า แน่นอน รัฐบาลก็หวังสร้างฐานเสียงอยู่ แต่อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งต่อไป คงไม่มีผลอะไรมาก แต่ผลเสียที่เกิดขึ้นในระยะยาวคือจะทำให้กำนันผู้ใหญ่บ้านมาเอาอกใจใจฝ่ายการเมืองเพื่อหวังตำแหน่ง แทนที่จะเอาเวลาไปดูแลประชาชน ต่อข้อถามว่าการดำเนินการของฝ่ายค้านหากรัฐบาลผ่านร่างกฎหมายไปจะทำอย่างไร นายวิฑูรกล่าวว่า แม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมากซึ่งฝ่ายค้านอาจจะทัดทานไม่ได้ แต่อย่าลืมว่ายยังมีวุฒิสภาอีกชั้นหนึ่งที่จะสามารถคัดค้านได้ ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ทักท้วงในสภาอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ไม่เห็นด้วยเพราะเชื่อว่าการแต่งตั้งคืออำนาจของบุคคล ไม่ใช่อำนาจของประชาชน ดังนั้นกำนันผู้ใหญ่บ้านก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะเลือกผู้แทนของเขาเอง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 28/01/47--จบ--
-สส-