ที่รัฐสภา เวลา ๑๔.๑๕ นาฬิกา วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๔๗ ภายหลังจากการประชุมเรื่องการติดตาม
มติที่ประชุมใหญ่รัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ ๒๔ นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน
สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงถึงผลการประชุมดังกล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการการแรงงาน
ติดตามการทำงานทั้งในระดับนโยบายและการปฏิบัติงาน โดยสรุปมติที่ประชุมได้ดังนี้
๑. กำหนดจำนวนแรงงานต่างด้าวระหว่างปี ๒๕๔๗ -๒๕๕๐ ไม่เกินปีละ ๕ แสนคน
เพื่อให้การคุ้มครองแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นไปตามอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศและ
กฎหมายคุ้มครองแรงงานของไทย ซึ่งปัจจุบันมีการจดทะเบียนอยู่ ๒.๘ แสนคน ดังนั้น
จะเพิ่มได้ไม่เกิน ๒ แสนคน
๒.ให้กระทรวงแรงงานเสนอคณะรัฐมนตรีจัดทำแผนคุ้มครองสิทธิแรงงาน
ต่างด้าว โดยมอบให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงานเป็นเจ้าภาพในการดูแล เพื่อไม่ให้
ประเทศไทยถูกกล่าวหาและประณาม ตลอดจนการกีดกันการค้าทางด้านสิทธิมนุษยชนและ
สิทธิด้านแรงงาน
๓.เนื่องจากปัจจุบันมีปัญหาแรงงานต่างด้าวและหนีเข้าเมืองในปลายประเทศ อาทิ
บังคลาเทศ อินเดีย แอฟริกาบางประเทศ และยุโรปตะวันออกบางประเทศ คณะกรรมาธิการจึงได้มีมติ
ให้กระทรวงแรงงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจัดเตรียมข้อมูล เพื่อมาชี้แจง
ต่อคณะกรรมาธิการในคราวหน้า
ทั้งนี้ ผลสรุปของการศึกษาและแนวทางการคุ้มครองแรงงานต่างด้าวใน
ประเทศไทยเป็นอย่างไรนั้น คณะกรรมาธิการจะนำเสนอประธานรัฐสภาเพื่อรายงานต่อที่ประชุม
รัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ ๒๕ ในกลางปี ๒๕๔๗ ต่อไป
------------------------------------
มติที่ประชุมใหญ่รัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ ๒๔ นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน
สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงถึงผลการประชุมดังกล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะกรรมาธิการการแรงงาน
ติดตามการทำงานทั้งในระดับนโยบายและการปฏิบัติงาน โดยสรุปมติที่ประชุมได้ดังนี้
๑. กำหนดจำนวนแรงงานต่างด้าวระหว่างปี ๒๕๔๗ -๒๕๕๐ ไม่เกินปีละ ๕ แสนคน
เพื่อให้การคุ้มครองแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเป็นไปตามอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศและ
กฎหมายคุ้มครองแรงงานของไทย ซึ่งปัจจุบันมีการจดทะเบียนอยู่ ๒.๘ แสนคน ดังนั้น
จะเพิ่มได้ไม่เกิน ๒ แสนคน
๒.ให้กระทรวงแรงงานเสนอคณะรัฐมนตรีจัดทำแผนคุ้มครองสิทธิแรงงาน
ต่างด้าว โดยมอบให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงานเป็นเจ้าภาพในการดูแล เพื่อไม่ให้
ประเทศไทยถูกกล่าวหาและประณาม ตลอดจนการกีดกันการค้าทางด้านสิทธิมนุษยชนและ
สิทธิด้านแรงงาน
๓.เนื่องจากปัจจุบันมีปัญหาแรงงานต่างด้าวและหนีเข้าเมืองในปลายประเทศ อาทิ
บังคลาเทศ อินเดีย แอฟริกาบางประเทศ และยุโรปตะวันออกบางประเทศ คณะกรรมาธิการจึงได้มีมติ
ให้กระทรวงแรงงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจัดเตรียมข้อมูล เพื่อมาชี้แจง
ต่อคณะกรรมาธิการในคราวหน้า
ทั้งนี้ ผลสรุปของการศึกษาและแนวทางการคุ้มครองแรงงานต่างด้าวใน
ประเทศไทยเป็นอย่างไรนั้น คณะกรรมาธิการจะนำเสนอประธานรัฐสภาเพื่อรายงานต่อที่ประชุม
รัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ ๒๕ ในกลางปี ๒๕๔๗ ต่อไป
------------------------------------