= เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้การรับรองผู้แทนมูลนิธิคอนราดฯ
วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎร และนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมให้การรับรอง
Dr. Beatric Gorawantschy ผู้แทนมูลนิธิคอนราด อเดนาวร์ (Konrad Adenauer Foundation : KAF)
เพื่อลงนามสัญญาให้การสนับสนุนงบประมาณ ในการจัดโครงการส่งเสริมและเผยแพร่ประชาธิปไตย
ในระบบรัฐสภา ประจำปี ๒๕๔๗ จำนวน ๒๖,๐๐๐ ยูโร (ประมาณ ๑,๒๔๘,๐๐๐ บาท) ณ ห้องประชุม
กรรมาธิการหมายเลข ๔ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๑
= สัมมนา "ระบบการประกันคุณภาพของหน่วยงานธุรการในสังกัดรัฐสภา"
วันศุกร์ที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๗ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา นางพรพิมล ถิรคุณโกวิท
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนา เรื่อง "ระบบการประกัน
คุณภาพของหน่วยงานธุรการในสังกัดรัฐสภา" ณ ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๓๗๐๑ ชั้น ๗ อาคารรัฐสภา ๓
= ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๔๖ สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
นายทวี พวงทะวาย รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานกรรมการดำเนินการ
สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด ได้เป็นประธานการประชุมสหกรณ์ฯ ในวันศุกร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๔๗
เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๒๑๓-๒๑๖ อาคารรัฐสภา ๒
คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด ชุดที่ ๒๙
ประจำปี ๒๕๔๗ (ชุดปัจจุบัน) มีรายนามดังต่อไปนี้
๑. นายทวี พวงทะวาย
๒. นางสาวอภิงค์ญฎา วงษานุทัศน์
๓. นางนรรัตน์ พิมเสน
๔. นางรัตนา ศรีสิยวรรณ
๕. นางเพียงฤทัย โชติทัตต์
๖. นายจเร พันธุ์เปรื่อง
๗. นางชุลีพร ณ ลำพูน
๘. นายสิทธิพร สท้านไตรภพ
๙. นายสมศักดิ์ มนุญปิจุ
๑๐. นายวิรัช ทิพย์เจริญ
๑๑. นายยรรยง รักษาคม
๑๒. นายชาติชาย เนื่องนิยม
๑๓. นายดิเรก จันทร์อิน
๑๔. นายสมบูรณ์ แก่นจำปา
๑๕. นายสมโภชน์ มีแป้น
= ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจกรรมรัฐสภาสัญจร
วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานกรรมการบริหารกิจกรรมรัฐสภาสัญจร ได้เชิญ
คณะกรรมการประชุมเพื่อสรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมรัฐสภาสัญจร ปี ๒๕๔๖ และพิจารณากำหนด
แนวทางการดำเนินงานกิจกรรมรัฐสภาสัญจร ปี ๒๕๔๗ ณ ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๔ ชั้น ๒
อาคารรัฐสภา ๑
ทั้งนี้ กิจกรรมรัฐสภาสัญจรเป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมือง
การปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา กฎหมายรัฐธรรมนูญ สิทธิเสรีภาพ หน้าที่ของประชาชน
บทบาทภารกิจ และอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไปสู่ประชาชนในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เน้นการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนกับฝ่ายนิติบัญญัติ
ให้ใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อพัฒนาประชารัฐและประชาธิปไตยให้มีความเข้มแข็งทัดเทียมกับนานาอารยะประเทศ
ที่พัฒนาและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
(สำเนา)
พระราชกฤษฎีกา
เรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญทั่วไป
พ.ศ. ๒๕๔๗
--------------------------
(พระปรมาภิไธย) ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗
เป็นปีที่ ๕๙ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติให้ปีหนึ่งมีสมัยประชุมสามัญ
ทั่วไป และสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ โดยให้ถือวันที่มีการเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อให้สมาชิก
ได้มาประชุมเป็นครั้งแรก เป็นวันเริ่มสมัยประชุมสามัญทั่วไป และเนื่องจากได้มีพระราชกฤษฎีกา
เรียกประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็น
ครั้งแรกในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงสมควรเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญทั่วไปในปี
พ.ศ. ๒๕๔๗ วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗ ตามความในมาตรา ๑๕๙ ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖๑ มาตรา ๑๖๔ และมาตรา ๒๒๑ ของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกา
เรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญทั่วไป พ.ศ. ๒๕๔๗ ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
= ยุบพรรคเสรีธรรม
พรรคเสรีธรรมเป็นพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๔๑ ซึ่งได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง
เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๔๖ ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๒๙ บัญญัติว่า ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดแจ้ง
การจัดตั้งพรรคการเมือง พรรคการเมืองต้องดำเนินการให้มีสมาชิกตั้งแต่ห้าพันคนขึ้นไป ซึ่งอย่างน้อย
ต้องประกอบด้วยสมาชิกซึ่งมีที่อยู่ในแต่ละภาคตามบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัดที่นายทะเบียนประกาศกำหนด
และมีสาขาพรรคการเมืองอย่างน้อยภาคละหนึ่งสาขา ปรากฏว่า เมื่อครบกำหนดเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวันดังกล่าว
คือ ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๖ แต่ปรากฏว่า เมื่อนายทะเบียน
พรรคการเมืองได้ตรวจสอบการแจ้งจดตั้งสาขาพรรคเสรีธรรมลำดับ ๔ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่
เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๔๖ ที่ระบุว่า สามารถหาสมาชิกได้โดยมีเลขสมาชิกตั้งแต่ ๑,๐๙๓-๙,๔๗๙ คน
พบว่า การลงนามรับสมาชิก โดยนายสุชาติ เมืองหงษ์ รองหัวหน้าพรรค นั้น เป็นการลงนามแทนหัวหน้าพรรค
โดยไม่ได้รับมอบอำนาจ แสดงให้เห็นว่าพรรคเสรีธรรมหาสมาชิกในกำหนดระยะเวลา ๑๘๐ วัน ได้เพียง ๑,๐๙๒ คน เท่านั้น
ดังนั้น จึงถือว่าพรรคเสรีธรรมไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติพรรคการเมือง ๒๕๔๑
มาตรา ๒๙ บัญญัติไว้ จึงมีเหตุให้ต้องเสนอยุบพรรค และเมื่อเสนอต่อศาล
รัฐธรรมนูญวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญจึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง ๑๔ เสียง โดยมีคำสั่ง
ให้ยุบพรรคเสรีธรรม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๔๑
มาตรา ๖๕ วรรคสอง
= รัฐสภามุ่งเน้นนโยบายการสร้างสุขภาพและสนับสนุนการปฏิบัติศาสนกิจของอิสลาม
รัฐสภามีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนให้สมาชิกฯ มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อสามารถปฏิบัติงาน
ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการออกกำลังกาย โดยจะมีการ
ปรับปรุงอาคารสโมสรรัฐสภา ชั้น ๒ ให้เป็นห้องฟิตเนส เป็นสถานที่ออกกำลังกาย ภายในประกอบด้วย
เครื่องออกกำลังกายแบบ complex คือ สามารถออกกำลังกายได้หลายประเภทในเครื่องเดียวกัน
รวมทั้งยังมีเครื่องยกน้ำหนักสำหรับบริหารกล้ามเนื้อ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างตามแผนงาน
นอกจากนี้ ยังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติศาสนกิจของศาสนาอิสลาม โดยใช้
พื้นที่บริเวณชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ๑ ดำเนินการปรับปรุงให้เป็นห้องละหมาดหญิง ซึ่งเป็นบริเวณที่
ใกล้เคียงกับห้องละหมาดเดิม และขณะนี้ได้ทำการปรับปรุงห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างรอ
ปูพรมพื้นห้อง โดยจะแล้วเสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมเช่นเดียวกัน
= การปลุกจิตสำนึกข้าราชการตามรอยพระยุคลบาท
สำนักพัฒนาบุคลากร จัดให้มีการฝึกอบรมพัฒนาจิตเพื่อปลุกจิตสำนึกข้าราชการ ตามรอยพระยุคลบาท
โดยผู้ที่เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ประสบการณ์ในการฝึกสมาธิไปใช้และเป็นการพัฒนาสติให้เข้มแข็งมั่นคง
มีจิตสำนึกที่ดีที่จะประพฤติปฏิบัติตามในกรอบแห่งจรรยาบรรณตามรอยพระยุคลบาท รวมทั้งประพฤติปฏิบัติตามมาตรฐาน
ทางคุณธรรม จริยธรรม เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน
ซึ่งการฝึกอบรมหลักสูตร "การปลุกจิตสำนึกข้าราชการตามรอยพระยุคลบาท" ในปี
งบประมาณ ๒๕๔๗ จะจัดให้มีด้วยกัน ๖ รุ่น รุ่นละ ๒๐๐ คน ระหว่างวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ - ๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๗
แต่ละรุ่นใช้ระยะเวลาฝึกอบรม ๙ วัน โดยแบ่งออกเป็น ๒ ช่วง ช่วงแรก ๗ วัน ฝึกจิตภาวนา
ณ พระวิหารวัดโสมนัสวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และช่วงที่ ๒ อีก ๒ วัน ฝึกอบรม ณ ห้องประชุม
สุขุมนัยประดิษฐ์ สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน จังหวัดนนทบุรี ผู้ที่สนใจและสามารถเข้ารับการอบรมได้ตลอดหลักสูตร
(เฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยผ่านหลักสูตรนี้) สำหรับรุ่นที่ ๒-๖ โปรดส่งใบสมัครไปยังสำนักพัฒนาบุคลากร ภายในวันที่กำหนดตามลำดับดังนี้
รุ่นที่ ๒ วันศุกร์ที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๗
รุ่นที่ ๓ วันจันทร์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๔๗
รุ่นที่ ๔ วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๔๗
รุ่นที่ ๕ วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๗
รุ่นที่ ๖ วันพฤหัสบดีที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๔๗
= ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาคนใหม่
วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๖ พลเอก ธีรเดช มีเพียร ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาคนใหม่ โดยที่ประชุมวุฒิสภาได้พิจารณาเลือกผู้ตรวจการแผ่นดินของ
รัฐสภา จากผู้ถูกเสนอชื่อ ๔ คน คือ พลเอก ธีรเดช มีเพียร อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายปราโมทย์
โชติมงคล เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการฯ นายพิเชต สุนทรพิพิธ อดีตผู้ตรวจการฯ และนายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร
คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย วิทยาลัยบริหารธุรกิจ การแต่งตั้งในครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
มาตรา ๑๙๖ ที่กำหนดให้ ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภามีจำนวนไม่เกินสามคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ตาม
คำแนะนำของวุฒิสภา จากผู้ซึ่งเป็นที่ยอมรับนับถือของประชาชน มีความรอบรู้และมีประสบการณ์ในการบริหารราชการแผ่นดิน
วิสาหกิจ หรือกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ร่วมกันของสาธารณะ และมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทั้งนี้ให้ประธานวุฒิสภา
เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ซึ่งมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคล
ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา การสรรหา และการคัดเลือกผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ให้เป็นไปตามที่
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๔๒ กำหนด
= ขอเชิญเช่าบูชาวัตถุมงคลเฉลิมพระเกียรติ
คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ดำเนินโครงการจัดสร้างพระพุทธรูป
พระกริ่ง และพระผงนางพญา เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้ประชาชน
ได้มีโอกาสนำมาสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล
ทั้งนี้ จึงขอเชิญผู้สนใจเช่าบูชาวัตถุมงคล ซึ่งได้จัดเช่าบูชาในราคาดังนี้
- พระกริ่งทรงจักร-ตรี เนื้อทองคำ องค์ละ ๕๐,๐๐๐ บาท
- พระกริ่งทรงจักร-ตรี เนื้อนวโลหะ องค์ละ ๒๐๐ บาท
- พระกริ่งทรงจักร-ตรี เนื้อทองทิพย์ องค์ละ ๑๕๐ บาท
- พระชุดสมเด็จนางพญา ๖ องค์ ชุดละ ๖,๐๐๐ บาท
บูชา ๑ ชุด รับมอบพระพิมพ์พิเศษ สมเด็จนางพญาเนื้อผง ๗ สี ๗ องค์ ๑ ชุด และ
ชุดเทพมงคล ๑ ชุด มี ๕ องค์
- พระสมเด็จนางพญาเนื้อผง ๗ สี องค์ละ ๑๙ บาท
บูชา ๑ กล่อง (๑๐๐ องค์) รับมอบพระพิมพ์พิเศษ ชุดเทพมงคล ๑ ชุด ๕ องค์
ติดต่อขอเช่าบูชาได้ที่สำนักงานโครงการจัดสร้างวัตถุมงคลเฉลิมพระเกียรติ ได้แก่
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถนนประดิพัทธ์ และที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทุกสาขา รวมทั้งที่อาคาร ๖ ถนนราชดำเนินกลาง
โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๔ ๔๗๑๕ และศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ โซน B ห้อง B ๒๐๑ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๒๙ ๓๑๘๔-๕
= การจัดโครงการยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี ๒๕๔๗
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า จะจัดโครงการ
ยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี ๒๕๔๗ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมเยาวชนให้เข้าใจและช่วย
เผยแพร่ทัศนคติเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง เพราะปัจจุบันพบว่าประชาชนยังมีส่วนร่วมในการเมือง
การปกครองไม่มากนัก และในการมีส่วนร่วมนั้นยังมีศักยภาพไม่เพียงพอ สำนักงานเลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎรและสถาบันพระปกเกล้า จึงมีความเห็นว่า จะต้องสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ ๆ ให้เข้ามา
มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ได้รับการเรียนรู้ถึงสถานการณ์
การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในทางการเมืองและสังคมโลก กล้าแสดงความคิดเห็น สร้างจิตสำนึก
ให้มีคุณธรรมในการอยู่ร่วมกันในสังคม
นอกจากนี้เป้าหมายหลักที่ต้องการเห็น คือ เด็กที่เข้าโครงการอบรมยุวชนประชาธิปไตยแล้ว
สามารถไปสร้างเครือข่ายในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เยาวชนที่ไม่ได้เข้าฝึกอบรมได้มีโอกาสเรียนรู้ประชาธิปไตย
จากเยาวชนที่ได้ผ่านการอบรมมาแล้ว ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นการสร้างรากฐานทางประชาธิปไตยให้แข็งแรงมั่นคงทั่วประเทศ
สำหรับโครงการฝึกอบรมนี้จะจัดขึ้น ๒ รุ่น ๆ ละ ๑๕๐ คน รวม ๓๐๐ คน เป็นเยาวชนชายหญิง
อายุระหว่าง ๑๕-๒๐ ปี โดยขอรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ กลุ่มงานเผยแพร่ประชาธิปไตย สำนักประชาสัมพันธ์
โทร ๐ ๒๓๕๗ ๓๑๐๐ ต่อ ๓๑๐๓-๖
= โทรศัพท์อัตโนมัติ
สำนักประชาสัมพันธ์ ได้ดำเนินการบริการข้อมูลข่าวสารของสำนักงานฯ โดยผ่านเครื่องโทรศัพท์ระบบ
ตอบรับสายอัตโนมัติ ซึ่งประกอบด้วยหมายเลขโทรศัพท์ภายในของผู้บริหาร หน่วยงาน ภายในของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ระเบียบวาระการประชุมสภา กำหนดการประชุม คณะกรรมาธิการ กิจกรรมของรัฐสภา และระเบียบการขอใช้บริการต่าง ๆ
ภายในรัฐสภา ท่านสามารถ ที่จะโทรศัพท์สอบถามมาได้ที่หมายเลข ๐ ๒๒๔๔ ๑๙๐๐ - ๗ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
และหากสำนักฯ ใด ต้องการที่จะให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารหรือกิจกรรมต่าง ๆ ของสำนักฯ
สามารถส่งได้ที่กลุ่มงานสื่อมวลชน สำนักประชาสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์
๐ ๒๓๕๗ ๓๑๕๗ หรือ ๐ ๒๓๕๗ ๓๑๐๐ ต่อ ๓๑๘๒, ๓๑๘๓
= การดูแลตนเองป้องกัน "ไข้หวัดนก"
ภาวะการระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศไทย สร้างความวิตกกังวลให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก
หลายคนห่วงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของชาติ การระมัดระวัง การรับประทานอาหาร ป้องกัน ดูแลสุขภาพไม่ให้รับเชื้อ
เพราะเป็นโรคที่ระบาดได้จากแหล่งเชื้อโรคใกล้ตัว ได้แก่ เป็ด ไก่ นกเป็ดน้ำ นกอพยพ ซึ่งเป็นแหล่งของเชื้อโรคได้
ไข้หวัดนกเป็นเชื้อไวรัส Avian Influenze type A ในตระกูล Orthomyxouiridae ซึ่งเป็น RNA
ไวรัสชนิดมีเปลือกหุ้ม การติดต่อระหว่างสัตว์นั้นเชื้อไวรัสจะถูกขับถ่ายออกมาทางอุจจาระนกและติดต่อสู่สัตว์ปีกที่ไวต่อการ
รับเชื้อระบบทางเดินทางหายใจและทางเดินอาหาร ในขณะนี้เชื้อจะติดต่อจากสัตว์มายังคนได้ด้วยการสัมผัสกับสัตว์ที่ป่วย
โดยตรงหรือทางอ้อม เช่น อุจจาระ น้ำมูก น้ำตา และน้ำลายของสัตว์ป่วย
เชื้อที่อยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และมูลของสัตว์ป่วย อาจติดมากับมือและเข้าสู่ร่างกาย
ทางเยื่อบุจมูกและตา ทำให้เกิดโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีระยะฟักตัว ๑-๓ วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น
ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย เจ็บคอ ไอ ผู้ป่วยเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มี
โรคประจำตัวอาจมีภูมิคุ้มกันไม่ดี อาจมีเหตุการณ์รุนแรงได้ โดยจะมีอาการหอบ หายใจลำบาก เนื่องจากปอดอักเสบรุนแรง
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคไข้หวัดนกได้แก่ ผู้ที่ทำงานในฟาร์ม สัตว์ปีก ผู้ที่ฆ่าหรือชำแหละสัตว์ปีก
ในพื้นที่ที่เกิดโรคไข้หวัดนกระบาด โรคไข้หวัดนกต่างจากไข้หวัดใหญ่ คือ ยังไม่สามารถ ติดต่อจากผู้ป่วยไปยังคนอื่น ๆ
การป้องกันผู้บริโภค
๑. ผู้บริโภคไก่และผลิตภัณฑ์จากไก่ ควรรับประทานเนื้อที่ปรุงสุกเท่านั้น เนื่องจากเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจปนเปื้อน
มาไม่ว่าจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย หรือพยาธิ จะถูกทำลายไปด้วยความร้อน
๒. สำหรับเนื้อไก่ที่มีขายตามท้องตลาดในขณะนี้ถือว่ามีความปลอดภัยสามารถบริโภคได้ตามปกติ แต่ต้อง
รับประทานเนื้อไก่สุกเท่านั้น งดการรับประทานเนื้อไก่กึ่งสุกกึ่งดิบ
๓. ส่วนไข่ไก่ก็ควรเลือกฟองที่สดใหม่และไม่มีมูลไก่ติดปนเปื้อนที่เปลือกไข่ก่อน
ปรุงควรนำมาล้างให้สะอาด และปรุงให้สุกก่อนรับประทาน
๔. ผู้ที่ประกอบอาหาร หรือสัมผัสส่วนประกอบของไก่ และไข่ไก่ ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติ
วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎร และนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมให้การรับรอง
Dr. Beatric Gorawantschy ผู้แทนมูลนิธิคอนราด อเดนาวร์ (Konrad Adenauer Foundation : KAF)
เพื่อลงนามสัญญาให้การสนับสนุนงบประมาณ ในการจัดโครงการส่งเสริมและเผยแพร่ประชาธิปไตย
ในระบบรัฐสภา ประจำปี ๒๕๔๗ จำนวน ๒๖,๐๐๐ ยูโร (ประมาณ ๑,๒๔๘,๐๐๐ บาท) ณ ห้องประชุม
กรรมาธิการหมายเลข ๔ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๑
= สัมมนา "ระบบการประกันคุณภาพของหน่วยงานธุรการในสังกัดรัฐสภา"
วันศุกร์ที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๗ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา นางพรพิมล ถิรคุณโกวิท
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนา เรื่อง "ระบบการประกัน
คุณภาพของหน่วยงานธุรการในสังกัดรัฐสภา" ณ ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๓๗๐๑ ชั้น ๗ อาคารรัฐสภา ๓
= ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๔๖ สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
นายทวี พวงทะวาย รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานกรรมการดำเนินการ
สหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด ได้เป็นประธานการประชุมสหกรณ์ฯ ในวันศุกร์ที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๔๗
เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๒๑๓-๒๑๖ อาคารรัฐสภา ๒
คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา จำกัด ชุดที่ ๒๙
ประจำปี ๒๕๔๗ (ชุดปัจจุบัน) มีรายนามดังต่อไปนี้
๑. นายทวี พวงทะวาย
๒. นางสาวอภิงค์ญฎา วงษานุทัศน์
๓. นางนรรัตน์ พิมเสน
๔. นางรัตนา ศรีสิยวรรณ
๕. นางเพียงฤทัย โชติทัตต์
๖. นายจเร พันธุ์เปรื่อง
๗. นางชุลีพร ณ ลำพูน
๘. นายสิทธิพร สท้านไตรภพ
๙. นายสมศักดิ์ มนุญปิจุ
๑๐. นายวิรัช ทิพย์เจริญ
๑๑. นายยรรยง รักษาคม
๑๒. นายชาติชาย เนื่องนิยม
๑๓. นายดิเรก จันทร์อิน
๑๔. นายสมบูรณ์ แก่นจำปา
๑๕. นายสมโภชน์ มีแป้น
= ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจกรรมรัฐสภาสัญจร
วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานกรรมการบริหารกิจกรรมรัฐสภาสัญจร ได้เชิญ
คณะกรรมการประชุมเพื่อสรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมรัฐสภาสัญจร ปี ๒๕๔๖ และพิจารณากำหนด
แนวทางการดำเนินงานกิจกรรมรัฐสภาสัญจร ปี ๒๕๔๗ ณ ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๔ ชั้น ๒
อาคารรัฐสภา ๑
ทั้งนี้ กิจกรรมรัฐสภาสัญจรเป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมือง
การปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา กฎหมายรัฐธรรมนูญ สิทธิเสรีภาพ หน้าที่ของประชาชน
บทบาทภารกิจ และอำนาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ไปสู่ประชาชนในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ เน้นการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนกับฝ่ายนิติบัญญัติ
ให้ใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อพัฒนาประชารัฐและประชาธิปไตยให้มีความเข้มแข็งทัดเทียมกับนานาอารยะประเทศ
ที่พัฒนาและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
(สำเนา)
พระราชกฤษฎีกา
เรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญทั่วไป
พ.ศ. ๒๕๔๗
--------------------------
(พระปรมาภิไธย) ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗
เป็นปีที่ ๕๙ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้บัญญัติให้ปีหนึ่งมีสมัยประชุมสามัญ
ทั่วไป และสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ โดยให้ถือวันที่มีการเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อให้สมาชิก
ได้มาประชุมเป็นครั้งแรก เป็นวันเริ่มสมัยประชุมสามัญทั่วไป และเนื่องจากได้มีพระราชกฤษฎีกา
เรียกประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๔๔ ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็น
ครั้งแรกในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงสมควรเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญทั่วไปในปี
พ.ศ. ๒๕๔๗ วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗ ตามความในมาตรา ๑๕๙ ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๖๑ มาตรา ๑๖๔ และมาตรา ๒๒๑ ของ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกา
เรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญทั่วไป พ.ศ. ๒๕๔๗ ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๗
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
= ยุบพรรคเสรีธรรม
พรรคเสรีธรรมเป็นพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๔๑ ซึ่งได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง
เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๔๖ ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๒๙ บัญญัติว่า ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดแจ้ง
การจัดตั้งพรรคการเมือง พรรคการเมืองต้องดำเนินการให้มีสมาชิกตั้งแต่ห้าพันคนขึ้นไป ซึ่งอย่างน้อย
ต้องประกอบด้วยสมาชิกซึ่งมีที่อยู่ในแต่ละภาคตามบัญชีรายชื่อภาคและจังหวัดที่นายทะเบียนประกาศกำหนด
และมีสาขาพรรคการเมืองอย่างน้อยภาคละหนึ่งสาขา ปรากฏว่า เมื่อครบกำหนดเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวันดังกล่าว
คือ ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๖ แต่ปรากฏว่า เมื่อนายทะเบียน
พรรคการเมืองได้ตรวจสอบการแจ้งจดตั้งสาขาพรรคเสรีธรรมลำดับ ๔ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่
เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๔๖ ที่ระบุว่า สามารถหาสมาชิกได้โดยมีเลขสมาชิกตั้งแต่ ๑,๐๙๓-๙,๔๗๙ คน
พบว่า การลงนามรับสมาชิก โดยนายสุชาติ เมืองหงษ์ รองหัวหน้าพรรค นั้น เป็นการลงนามแทนหัวหน้าพรรค
โดยไม่ได้รับมอบอำนาจ แสดงให้เห็นว่าพรรคเสรีธรรมหาสมาชิกในกำหนดระยะเวลา ๑๘๐ วัน ได้เพียง ๑,๐๙๒ คน เท่านั้น
ดังนั้น จึงถือว่าพรรคเสรีธรรมไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติพรรคการเมือง ๒๕๔๑
มาตรา ๒๙ บัญญัติไว้ จึงมีเหตุให้ต้องเสนอยุบพรรค และเมื่อเสนอต่อศาล
รัฐธรรมนูญวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญจึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง ๑๔ เสียง โดยมีคำสั่ง
ให้ยุบพรรคเสรีธรรม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๔๑
มาตรา ๖๕ วรรคสอง
= รัฐสภามุ่งเน้นนโยบายการสร้างสุขภาพและสนับสนุนการปฏิบัติศาสนกิจของอิสลาม
รัฐสภามีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนให้สมาชิกฯ มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อสามารถปฏิบัติงาน
ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการออกกำลังกาย โดยจะมีการ
ปรับปรุงอาคารสโมสรรัฐสภา ชั้น ๒ ให้เป็นห้องฟิตเนส เป็นสถานที่ออกกำลังกาย ภายในประกอบด้วย
เครื่องออกกำลังกายแบบ complex คือ สามารถออกกำลังกายได้หลายประเภทในเครื่องเดียวกัน
รวมทั้งยังมีเครื่องยกน้ำหนักสำหรับบริหารกล้ามเนื้อ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างตามแผนงาน
นอกจากนี้ ยังได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติศาสนกิจของศาสนาอิสลาม โดยใช้
พื้นที่บริเวณชั้น ๓ อาคารรัฐสภา ๑ ดำเนินการปรับปรุงให้เป็นห้องละหมาดหญิง ซึ่งเป็นบริเวณที่
ใกล้เคียงกับห้องละหมาดเดิม และขณะนี้ได้ทำการปรับปรุงห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างรอ
ปูพรมพื้นห้อง โดยจะแล้วเสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมเช่นเดียวกัน
= การปลุกจิตสำนึกข้าราชการตามรอยพระยุคลบาท
สำนักพัฒนาบุคลากร จัดให้มีการฝึกอบรมพัฒนาจิตเพื่อปลุกจิตสำนึกข้าราชการ ตามรอยพระยุคลบาท
โดยผู้ที่เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ประสบการณ์ในการฝึกสมาธิไปใช้และเป็นการพัฒนาสติให้เข้มแข็งมั่นคง
มีจิตสำนึกที่ดีที่จะประพฤติปฏิบัติตามในกรอบแห่งจรรยาบรรณตามรอยพระยุคลบาท รวมทั้งประพฤติปฏิบัติตามมาตรฐาน
ทางคุณธรรม จริยธรรม เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน
ซึ่งการฝึกอบรมหลักสูตร "การปลุกจิตสำนึกข้าราชการตามรอยพระยุคลบาท" ในปี
งบประมาณ ๒๕๔๗ จะจัดให้มีด้วยกัน ๖ รุ่น รุ่นละ ๒๐๐ คน ระหว่างวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ - ๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๗
แต่ละรุ่นใช้ระยะเวลาฝึกอบรม ๙ วัน โดยแบ่งออกเป็น ๒ ช่วง ช่วงแรก ๗ วัน ฝึกจิตภาวนา
ณ พระวิหารวัดโสมนัสวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และช่วงที่ ๒ อีก ๒ วัน ฝึกอบรม ณ ห้องประชุม
สุขุมนัยประดิษฐ์ สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน จังหวัดนนทบุรี ผู้ที่สนใจและสามารถเข้ารับการอบรมได้ตลอดหลักสูตร
(เฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยผ่านหลักสูตรนี้) สำหรับรุ่นที่ ๒-๖ โปรดส่งใบสมัครไปยังสำนักพัฒนาบุคลากร ภายในวันที่กำหนดตามลำดับดังนี้
รุ่นที่ ๒ วันศุกร์ที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๗
รุ่นที่ ๓ วันจันทร์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๔๗
รุ่นที่ ๔ วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๔๗
รุ่นที่ ๕ วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๗
รุ่นที่ ๖ วันพฤหัสบดีที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๔๗
= ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาคนใหม่
วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๖ พลเอก ธีรเดช มีเพียร ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาคนใหม่ โดยที่ประชุมวุฒิสภาได้พิจารณาเลือกผู้ตรวจการแผ่นดินของ
รัฐสภา จากผู้ถูกเสนอชื่อ ๔ คน คือ พลเอก ธีรเดช มีเพียร อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายปราโมทย์
โชติมงคล เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการฯ นายพิเชต สุนทรพิพิธ อดีตผู้ตรวจการฯ และนายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร
คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย วิทยาลัยบริหารธุรกิจ การแต่งตั้งในครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
มาตรา ๑๙๖ ที่กำหนดให้ ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภามีจำนวนไม่เกินสามคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ตาม
คำแนะนำของวุฒิสภา จากผู้ซึ่งเป็นที่ยอมรับนับถือของประชาชน มีความรอบรู้และมีประสบการณ์ในการบริหารราชการแผ่นดิน
วิสาหกิจ หรือกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ร่วมกันของสาธารณะ และมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทั้งนี้ให้ประธานวุฒิสภา
เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ซึ่งมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคล
ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา การสรรหา และการคัดเลือกผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ให้เป็นไปตามที่
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๔๒ กำหนด
= ขอเชิญเช่าบูชาวัตถุมงคลเฉลิมพระเกียรติ
คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ดำเนินโครงการจัดสร้างพระพุทธรูป
พระกริ่ง และพระผงนางพญา เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้ประชาชน
ได้มีโอกาสนำมาสักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล
ทั้งนี้ จึงขอเชิญผู้สนใจเช่าบูชาวัตถุมงคล ซึ่งได้จัดเช่าบูชาในราคาดังนี้
- พระกริ่งทรงจักร-ตรี เนื้อทองคำ องค์ละ ๕๐,๐๐๐ บาท
- พระกริ่งทรงจักร-ตรี เนื้อนวโลหะ องค์ละ ๒๐๐ บาท
- พระกริ่งทรงจักร-ตรี เนื้อทองทิพย์ องค์ละ ๑๕๐ บาท
- พระชุดสมเด็จนางพญา ๖ องค์ ชุดละ ๖,๐๐๐ บาท
บูชา ๑ ชุด รับมอบพระพิมพ์พิเศษ สมเด็จนางพญาเนื้อผง ๗ สี ๗ องค์ ๑ ชุด และ
ชุดเทพมงคล ๑ ชุด มี ๕ องค์
- พระสมเด็จนางพญาเนื้อผง ๗ สี องค์ละ ๑๙ บาท
บูชา ๑ กล่อง (๑๐๐ องค์) รับมอบพระพิมพ์พิเศษ ชุดเทพมงคล ๑ ชุด ๕ องค์
ติดต่อขอเช่าบูชาได้ที่สำนักงานโครงการจัดสร้างวัตถุมงคลเฉลิมพระเกียรติ ได้แก่
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถนนประดิพัทธ์ และที่ทำการไปรษณีย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทุกสาขา รวมทั้งที่อาคาร ๖ ถนนราชดำเนินกลาง
โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๔ ๔๗๑๕ และศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ โซน B ห้อง B ๒๐๑ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๒๙ ๓๑๘๔-๕
= การจัดโครงการยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี ๒๕๔๗
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า จะจัดโครงการ
ยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี ๒๕๔๗ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมเยาวชนให้เข้าใจและช่วย
เผยแพร่ทัศนคติเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง เพราะปัจจุบันพบว่าประชาชนยังมีส่วนร่วมในการเมือง
การปกครองไม่มากนัก และในการมีส่วนร่วมนั้นยังมีศักยภาพไม่เพียงพอ สำนักงานเลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎรและสถาบันพระปกเกล้า จึงมีความเห็นว่า จะต้องสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ ๆ ให้เข้ามา
มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ได้รับการเรียนรู้ถึงสถานการณ์
การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในทางการเมืองและสังคมโลก กล้าแสดงความคิดเห็น สร้างจิตสำนึก
ให้มีคุณธรรมในการอยู่ร่วมกันในสังคม
นอกจากนี้เป้าหมายหลักที่ต้องการเห็น คือ เด็กที่เข้าโครงการอบรมยุวชนประชาธิปไตยแล้ว
สามารถไปสร้างเครือข่ายในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้เยาวชนที่ไม่ได้เข้าฝึกอบรมได้มีโอกาสเรียนรู้ประชาธิปไตย
จากเยาวชนที่ได้ผ่านการอบรมมาแล้ว ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นการสร้างรากฐานทางประชาธิปไตยให้แข็งแรงมั่นคงทั่วประเทศ
สำหรับโครงการฝึกอบรมนี้จะจัดขึ้น ๒ รุ่น ๆ ละ ๑๕๐ คน รวม ๓๐๐ คน เป็นเยาวชนชายหญิง
อายุระหว่าง ๑๕-๒๐ ปี โดยขอรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ กลุ่มงานเผยแพร่ประชาธิปไตย สำนักประชาสัมพันธ์
โทร ๐ ๒๓๕๗ ๓๑๐๐ ต่อ ๓๑๐๓-๖
= โทรศัพท์อัตโนมัติ
สำนักประชาสัมพันธ์ ได้ดำเนินการบริการข้อมูลข่าวสารของสำนักงานฯ โดยผ่านเครื่องโทรศัพท์ระบบ
ตอบรับสายอัตโนมัติ ซึ่งประกอบด้วยหมายเลขโทรศัพท์ภายในของผู้บริหาร หน่วยงาน ภายในของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ระเบียบวาระการประชุมสภา กำหนดการประชุม คณะกรรมาธิการ กิจกรรมของรัฐสภา และระเบียบการขอใช้บริการต่าง ๆ
ภายในรัฐสภา ท่านสามารถ ที่จะโทรศัพท์สอบถามมาได้ที่หมายเลข ๐ ๒๒๔๔ ๑๙๐๐ - ๗ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
และหากสำนักฯ ใด ต้องการที่จะให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารหรือกิจกรรมต่าง ๆ ของสำนักฯ
สามารถส่งได้ที่กลุ่มงานสื่อมวลชน สำนักประชาสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์
๐ ๒๓๕๗ ๓๑๕๗ หรือ ๐ ๒๓๕๗ ๓๑๐๐ ต่อ ๓๑๘๒, ๓๑๘๓
= การดูแลตนเองป้องกัน "ไข้หวัดนก"
ภาวะการระบาดของโรคไข้หวัดนกในประเทศไทย สร้างความวิตกกังวลให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก
หลายคนห่วงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของชาติ การระมัดระวัง การรับประทานอาหาร ป้องกัน ดูแลสุขภาพไม่ให้รับเชื้อ
เพราะเป็นโรคที่ระบาดได้จากแหล่งเชื้อโรคใกล้ตัว ได้แก่ เป็ด ไก่ นกเป็ดน้ำ นกอพยพ ซึ่งเป็นแหล่งของเชื้อโรคได้
ไข้หวัดนกเป็นเชื้อไวรัส Avian Influenze type A ในตระกูล Orthomyxouiridae ซึ่งเป็น RNA
ไวรัสชนิดมีเปลือกหุ้ม การติดต่อระหว่างสัตว์นั้นเชื้อไวรัสจะถูกขับถ่ายออกมาทางอุจจาระนกและติดต่อสู่สัตว์ปีกที่ไวต่อการ
รับเชื้อระบบทางเดินทางหายใจและทางเดินอาหาร ในขณะนี้เชื้อจะติดต่อจากสัตว์มายังคนได้ด้วยการสัมผัสกับสัตว์ที่ป่วย
โดยตรงหรือทางอ้อม เช่น อุจจาระ น้ำมูก น้ำตา และน้ำลายของสัตว์ป่วย
เชื้อที่อยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และมูลของสัตว์ป่วย อาจติดมากับมือและเข้าสู่ร่างกาย
ทางเยื่อบุจมูกและตา ทำให้เกิดโรคคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีระยะฟักตัว ๑-๓ วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่น
ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย เจ็บคอ ไอ ผู้ป่วยเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มี
โรคประจำตัวอาจมีภูมิคุ้มกันไม่ดี อาจมีเหตุการณ์รุนแรงได้ โดยจะมีอาการหอบ หายใจลำบาก เนื่องจากปอดอักเสบรุนแรง
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคไข้หวัดนกได้แก่ ผู้ที่ทำงานในฟาร์ม สัตว์ปีก ผู้ที่ฆ่าหรือชำแหละสัตว์ปีก
ในพื้นที่ที่เกิดโรคไข้หวัดนกระบาด โรคไข้หวัดนกต่างจากไข้หวัดใหญ่ คือ ยังไม่สามารถ ติดต่อจากผู้ป่วยไปยังคนอื่น ๆ
การป้องกันผู้บริโภค
๑. ผู้บริโภคไก่และผลิตภัณฑ์จากไก่ ควรรับประทานเนื้อที่ปรุงสุกเท่านั้น เนื่องจากเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจปนเปื้อน
มาไม่ว่าจะเป็นไวรัส แบคทีเรีย หรือพยาธิ จะถูกทำลายไปด้วยความร้อน
๒. สำหรับเนื้อไก่ที่มีขายตามท้องตลาดในขณะนี้ถือว่ามีความปลอดภัยสามารถบริโภคได้ตามปกติ แต่ต้อง
รับประทานเนื้อไก่สุกเท่านั้น งดการรับประทานเนื้อไก่กึ่งสุกกึ่งดิบ
๓. ส่วนไข่ไก่ก็ควรเลือกฟองที่สดใหม่และไม่มีมูลไก่ติดปนเปื้อนที่เปลือกไข่ก่อน
ปรุงควรนำมาล้างให้สะอาด และปรุงให้สุกก่อนรับประทาน
๔. ผู้ที่ประกอบอาหาร หรือสัมผัสส่วนประกอบของไก่ และไข่ไก่ ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติ