แท็ก
ธนาคารทหารไทย
ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ควบกิจการ ทหารไทย-ไอเอฟซีที-ไทยทนุ ใกล้ลงตัว นายสมหมาย ภาษี รองปลัดกระทรวง
การคลัง ประธานกรรมการและกรรมการบริหารธนาคารทหารไทย กล่าวว่า สูตรการแลกหุ้นของ ธ.ทหารไทย
กับดีบีเอส ไทยทนุ เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่สูตรการแลกหุ้นของไอเอฟซีทีรอให้ที่ปรึกษาทางการเงินส่งมา
พิจารณา ซึ่งจะต้องดำเนินการพร้อมกัน หลังจากนั้น จะเปิดทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ของทั้ง 3 แห่ง ต้นเดือน
มี.ค.นี้ มี ธ.ทหารไทยเป็นแกนนำ โดยผู้ถือหุ้น ดีบีเอส ไทยทนุ และไอเอฟซีที ต้องนำหุ้นมาแลกหุ้น ธ.ทหาร
ไทยตามกำหนดเวลาที่แจ้ง หลังจากหมดกำหนดหุ้นของทั้งสองจะถูกยุบไป ส่วนขั้นตอนการตีราคาหุ้นของทั้ง 3
แห่ง และสัดส่วนแลกหุ้นจะต้องเสนอในที่ประชุมผู้ถือหุ้นแต่ละฝ่าย รวมทั้งต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.คลัง
และ ธปท. (โพสต์ทูเดย์)
2. ควบรวมกรุงเทพธนาทร-ฟินันซ่าสะดุด หวั่นขัดเกณฑ์ ก.คลัง ข่าวจากวงการธนาคารพาณิชย์
เปิดเผยว่า ประเด็นการควบรวมกิจการระหว่าง บง.กรุงเทพธนาทร กับ บ.ฟินันซ่า โฮลดิ้ง เพื่อยกระดับ
เป็นธนาคารพาณิชย์กำลังเกิดปัญหา เนื่องจากผู้ถือหุ้นหลักคือ ไชน่า ดีเวลลอปเมนท์ อินดัสเตรียล แบงก์ ของ
ไต้หวัน ที่ถือหุ้น 49.50% ได้ขายหุ้นออกมาทั้งหมดให้กับผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่เมื่อวันที่ 30 ม.ค.47 แต่ตามหลัก
เกณฑ์ที่ ก.คลังประกาศเมื่อวันที่ 23 ม.ค.47 คุณสมบัติของธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่จะต้องไม่มีการเปลี่ยน
แปลงผู้ถือหุ้นหลักตั้งแต่วันที่รัฐมนตรีลงนามในประกาศฉบับนี้จนถึงวันที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการธนาคาร
พาณิชย์หรือจนถึงวันที่ได้รับแจ้งการไม่เห็นชอบคำขอที่ยื่น แล้วแต่กรณี เว้นแต่การเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นหลักราย
ใหม่เนื่องจากกรณีการควบหรือรวมกิจการตามแผนการควบหรือรวมกิจการที่รัฐมนตรีเห็นชอบ (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ธ.กรุงเทพ-ธ.กรุงศรีมองดอกเบี้ยปีนี้ไม่ปรับขึ้น นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการ
บริหาร ธ.กรุงเทพ และนายจำลอง อติกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.กรุงศรีอยุธยา มีความเห็นตรงกันว่า
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของไทยคงไม่ปรับตัวขึ้นภายในปีนี้ แม้มีแนวโน้มว่าสรอ. อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็
ตาม แต่คงไม่ใช่ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ส่วนไทยก็เช่นเดียวกันเนื่องจากสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่สูงและ
รัฐบาลต้องการคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำไว้ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง (แนวหน้า,
กรุงเทพธุรกิจ)
4. บสก. สนับสนุน ธปท. แก้ NPA นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท
บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางที่ ธปท. จะรับซื้อสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้
เกิดรายได้ (NPA) จากธนาคารพาณิชย์มาให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) บรรษัทบริหาร
สินทรัพย์ไทย (บสท.) และ บสก. เป็นผู้บริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหา NPA แบบเบ็ดเสร็จ และเห็นว่าควรเป็น
การซื้อแบบยกพอร์ต เพื่อประโยชน์แก่ธนาคารพาณิชย์เอง จะได้ลดต้นทุนการดำเนินงานแก้ไข NPA อย่างไร
ก็ตาม การขาย NPA ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ธนาคาร เพราะแบงก์ชาติไม่ได้บังคับ (แนวหน้า)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1.รมต.คลังอังกฤษมองเศรษฐกิจของอังกฤษและของโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น รายงานจากฟลอริดา เมื่อ
7 ก.พ.47 รมต.คลังของอังกฤษให้สัมภาษณ์ในระหว่างการประชุม รมต.คลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม
ชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G7 ว่าเศรษฐกิจของอังกฤษและ สรอ.กำลังฟื้นตัว และเตือนว่าประเทศในเขต
เศรษฐกิจยุโรปควรปฏิรูประบบเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเช่นเดียวกับประเทศอื่น โดยเศรษฐกิจของ
อังกฤษในไตรมาสที่ 3 และ 4 ปี 46 ที่ผ่านมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าในปีนี้จะขยายตัวเร็วกว่าปี
ที่ผ่านมาเช่นเดียวกับเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัว และได้กล่าวชมเชย ธ.กลางอังกฤษที่ดำเนินนโยบายการเงิน
ในเชิงรุกด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 4.0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่
ประกาศขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเดียวกันไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือน พ.ย.46 ซึ่งมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจของอังกฤษมี
เสถียรภาพตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมา แต่เขาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าธ.กลางยุโรปควรลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อ
กระตุ้นความต้องการในเขตเศรษฐกิจยุโรปและชดเชยกับการแข็งค่าของเงินยูโรที่ทำให้การส่งออกลดลงหรือไม่
โดยภาวะเศรษฐกิจของประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรปที่ค่อนข้างอ่อนแอนับตั้งแต่การประกาศใช้เงินสกุลยูโรในปี
42 เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อังกฤษตัดสินใจว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเลิกใช้เงินปอนด์และเปลี่ยนไปใช้เงินสกุลยูโร
แทน (รอยเตอร์)
2. นักเศรษฐศาสตร์เห็นว่า ECB ควรเข้าแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดเงินเพื่อค้ำจุนค่าเงิน
ดอลลาร์ สรอ. รายงานจากเบอร์ลินเมื่อ 7 ก.พ.47 นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบัน
วิจัยชั้นนำของเยอรมนี แสดงความเห็นว่า The European Central Bank (ECB) ควรจะเข้าแทรกแซง
อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดเงินเพื่อค้ำจุนค่าเงินดอลลาร์ สรอ. หากเงินดอลลาร์ สรอ.ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อ
เนื่อง โดยจากการศึกษาพบว่า หาก ECB ขายดอลลาร์จำนวน 30 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. จะทำให้เงิน
ดอลลาร์ สรอ.อ่อนค่าลงถึง 10 เซนต์ ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อการส่งออกของเขตเศรษฐกิจยุโรป อย่างไรก็ตาม
เขากล่าวว่า การจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนลงก็เป็นแนวทางที่ไม่เหมาะสม
เนื่องจากเศรษฐกิจของยูโรโซนกำลังเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวและอัตราดอกเบี้ยควรจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้
ทั้งนี้ กำลังมีประชุมระหว่าง รมว.คลังและ ธ.กลางของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7)
อยู่ในขณะนี้ ซึ่งเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นหัวข้อหนึ่งในการประชุมดังกล่าว (รอยเตอร์)
3. การขยายตัวของปริมาณเงินของญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.47 ชะลอตัวลง และเงินให้กู้ยืมของ
ธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นลดลงเช่นกัน รายงานจากโตเกียว เมื่อ 9 ก.พ.47ธ.กลางญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ปริมาณ
เงินของญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงปริมาณเงิน M2 และบัตรเงินฝาก ในเดือน ม.ค.47 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับร้อยละ
1.6 เทียบต่อปี จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ในเดือนก่อน ทั้งนี้ ธ.กลางญี่ปุ่นให้เหตุผลว่า การที่ปริมาณเงินของ
ญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.47 เติบโตอย่างเชื่องช้าเนื่องจากความต้องการเงินทุนของธุรกิจลดลง สาเหตุจากการ
ปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีปัจจัยบางประการช่วยสนับสนุนให้ปริมาณเงินหมุนเวียนขยายตัว คือ
การย้ายเงินทุนไปสู่การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้ ธ.กลางญี่ปุ่นคาดว่า ปริมาณเงิน M2 และบัตรเงินฝาก
จะใกล้ระดับร้อยละ 1 ในไตรมาสแรกของปี 47 อย่างไรก็ตาม มีเสียงเรียกร้องจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยเฉพาะ
รมว.เศรษฐกิจให้ ธ.กลางญี่ปุ่นเพิ่มมาตรการพิเศษเพื่อช่วยสนับสนุนให้ปริมาณเงินหมุนเวียนขยายตัวมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ธ.กลางญี่ปุ่นได้เปิดเผยตัวเลขเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.47 ลดลง
ร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 37 สวนทางกับ
ผลสำรวจเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์โดย ธ.กลางในไตรมาสสุดท้ายของปี 47 ที่มีสัญญาณว่าความต้องการ
เงินทุนสำหรับธุรกิจเอกชนจะเพิ่มขึ้น และ The diffusion index ของความต้องการเงินทุนในไตรมาส 4
ปี 46 เพิ่มขึ้นที่ระดับ +1 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขดังกล่าวแสดงเป็นผลบวกตั้งแต่ปี 43 มา ซึ่งก็สวนทางกับ
ผลสำรวจที่แสดงว่าธนาคารพาณิชย์ญี่ปุ่นคาดว่าดัชนีดังกล่าวจะลดลงสู่ระดับติดลบในอนาคต (รอยเตอร์)
4. สิงคโปร์กำหนดเป้าหมายลด งปม.รายจ่ายลงร้อยละ 2 ในปี งปม.2547/2548 รายงาน
จากสิงคโปร์เมื่อ 7 ก.พ.47 ทางการสิงคโปร์ เปิดเผยว่า รอง นรม.และ รมว.คลังของสิงคโปร์ (Lee
Hsien Loong) กล่าวว่า เขาจะเสนอตัวเลข งปม.ประจำปี 2547/2548 (เม.ย.47-มี.ค.48) เข้าสู่ที่
ประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 ก.พ.47 โดยกำหนดเป้าหมายจะลด งปม.รายจ่ายลงร้อยละ 2 เนื่องจากคาดว่า
ในปี งปม.ปัจจุบันจะขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 2.236 พัน ล.ดอลลาร์สิงคโปร์ (1.32 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.)
จากเดิมที่คาดว่าจะขาดดุลเพียง 1.244 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.สิงคโปร์ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 9/2/47 6/2/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.102 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.8995/39.1923 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.8750 - 1.2800 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 711.15/46.72 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,400/7,500 7,300/7,400 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 27.31 27.74 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47
ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ควบกิจการ ทหารไทย-ไอเอฟซีที-ไทยทนุ ใกล้ลงตัว นายสมหมาย ภาษี รองปลัดกระทรวง
การคลัง ประธานกรรมการและกรรมการบริหารธนาคารทหารไทย กล่าวว่า สูตรการแลกหุ้นของ ธ.ทหารไทย
กับดีบีเอส ไทยทนุ เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่สูตรการแลกหุ้นของไอเอฟซีทีรอให้ที่ปรึกษาทางการเงินส่งมา
พิจารณา ซึ่งจะต้องดำเนินการพร้อมกัน หลังจากนั้น จะเปิดทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ของทั้ง 3 แห่ง ต้นเดือน
มี.ค.นี้ มี ธ.ทหารไทยเป็นแกนนำ โดยผู้ถือหุ้น ดีบีเอส ไทยทนุ และไอเอฟซีที ต้องนำหุ้นมาแลกหุ้น ธ.ทหาร
ไทยตามกำหนดเวลาที่แจ้ง หลังจากหมดกำหนดหุ้นของทั้งสองจะถูกยุบไป ส่วนขั้นตอนการตีราคาหุ้นของทั้ง 3
แห่ง และสัดส่วนแลกหุ้นจะต้องเสนอในที่ประชุมผู้ถือหุ้นแต่ละฝ่าย รวมทั้งต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.คลัง
และ ธปท. (โพสต์ทูเดย์)
2. ควบรวมกรุงเทพธนาทร-ฟินันซ่าสะดุด หวั่นขัดเกณฑ์ ก.คลัง ข่าวจากวงการธนาคารพาณิชย์
เปิดเผยว่า ประเด็นการควบรวมกิจการระหว่าง บง.กรุงเทพธนาทร กับ บ.ฟินันซ่า โฮลดิ้ง เพื่อยกระดับ
เป็นธนาคารพาณิชย์กำลังเกิดปัญหา เนื่องจากผู้ถือหุ้นหลักคือ ไชน่า ดีเวลลอปเมนท์ อินดัสเตรียล แบงก์ ของ
ไต้หวัน ที่ถือหุ้น 49.50% ได้ขายหุ้นออกมาทั้งหมดให้กับผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่เมื่อวันที่ 30 ม.ค.47 แต่ตามหลัก
เกณฑ์ที่ ก.คลังประกาศเมื่อวันที่ 23 ม.ค.47 คุณสมบัติของธนาคารพาณิชย์แห่งใหม่จะต้องไม่มีการเปลี่ยน
แปลงผู้ถือหุ้นหลักตั้งแต่วันที่รัฐมนตรีลงนามในประกาศฉบับนี้จนถึงวันที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการธนาคาร
พาณิชย์หรือจนถึงวันที่ได้รับแจ้งการไม่เห็นชอบคำขอที่ยื่น แล้วแต่กรณี เว้นแต่การเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นหลักราย
ใหม่เนื่องจากกรณีการควบหรือรวมกิจการตามแผนการควบหรือรวมกิจการที่รัฐมนตรีเห็นชอบ (กรุงเทพธุรกิจ)
3. ธ.กรุงเทพ-ธ.กรุงศรีมองดอกเบี้ยปีนี้ไม่ปรับขึ้น นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการ
บริหาร ธ.กรุงเทพ และนายจำลอง อติกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.กรุงศรีอยุธยา มีความเห็นตรงกันว่า
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของไทยคงไม่ปรับตัวขึ้นภายในปีนี้ แม้มีแนวโน้มว่าสรอ. อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็
ตาม แต่คงไม่ใช่ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ส่วนไทยก็เช่นเดียวกันเนื่องจากสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่สูงและ
รัฐบาลต้องการคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำไว้ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง (แนวหน้า,
กรุงเทพธุรกิจ)
4. บสก. สนับสนุน ธปท. แก้ NPA นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท
บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางที่ ธปท. จะรับซื้อสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้
เกิดรายได้ (NPA) จากธนาคารพาณิชย์มาให้บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) บรรษัทบริหาร
สินทรัพย์ไทย (บสท.) และ บสก. เป็นผู้บริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหา NPA แบบเบ็ดเสร็จ และเห็นว่าควรเป็น
การซื้อแบบยกพอร์ต เพื่อประโยชน์แก่ธนาคารพาณิชย์เอง จะได้ลดต้นทุนการดำเนินงานแก้ไข NPA อย่างไร
ก็ตาม การขาย NPA ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ธนาคาร เพราะแบงก์ชาติไม่ได้บังคับ (แนวหน้า)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1.รมต.คลังอังกฤษมองเศรษฐกิจของอังกฤษและของโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น รายงานจากฟลอริดา เมื่อ
7 ก.พ.47 รมต.คลังของอังกฤษให้สัมภาษณ์ในระหว่างการประชุม รมต.คลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม
ชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G7 ว่าเศรษฐกิจของอังกฤษและ สรอ.กำลังฟื้นตัว และเตือนว่าประเทศในเขต
เศรษฐกิจยุโรปควรปฏิรูประบบเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเช่นเดียวกับประเทศอื่น โดยเศรษฐกิจของ
อังกฤษในไตรมาสที่ 3 และ 4 ปี 46 ที่ผ่านมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าในปีนี้จะขยายตัวเร็วกว่าปี
ที่ผ่านมาเช่นเดียวกับเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัว และได้กล่าวชมเชย ธ.กลางอังกฤษที่ดำเนินนโยบายการเงิน
ในเชิงรุกด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 4.0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่
ประกาศขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเดียวกันไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือน พ.ย.46 ซึ่งมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจของอังกฤษมี
เสถียรภาพตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมา แต่เขาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าธ.กลางยุโรปควรลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อ
กระตุ้นความต้องการในเขตเศรษฐกิจยุโรปและชดเชยกับการแข็งค่าของเงินยูโรที่ทำให้การส่งออกลดลงหรือไม่
โดยภาวะเศรษฐกิจของประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรปที่ค่อนข้างอ่อนแอนับตั้งแต่การประกาศใช้เงินสกุลยูโรในปี
42 เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อังกฤษตัดสินใจว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะเลิกใช้เงินปอนด์และเปลี่ยนไปใช้เงินสกุลยูโร
แทน (รอยเตอร์)
2. นักเศรษฐศาสตร์เห็นว่า ECB ควรเข้าแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดเงินเพื่อค้ำจุนค่าเงิน
ดอลลาร์ สรอ. รายงานจากเบอร์ลินเมื่อ 7 ก.พ.47 นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบัน
วิจัยชั้นนำของเยอรมนี แสดงความเห็นว่า The European Central Bank (ECB) ควรจะเข้าแทรกแซง
อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดเงินเพื่อค้ำจุนค่าเงินดอลลาร์ สรอ. หากเงินดอลลาร์ สรอ.ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อ
เนื่อง โดยจากการศึกษาพบว่า หาก ECB ขายดอลลาร์จำนวน 30 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. จะทำให้เงิน
ดอลลาร์ สรอ.อ่อนค่าลงถึง 10 เซนต์ ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อการส่งออกของเขตเศรษฐกิจยุโรป อย่างไรก็ตาม
เขากล่าวว่า การจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนลงก็เป็นแนวทางที่ไม่เหมาะสม
เนื่องจากเศรษฐกิจของยูโรโซนกำลังเข้าสู่ภาวะฟื้นตัวและอัตราดอกเบี้ยควรจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้
ทั้งนี้ กำลังมีประชุมระหว่าง รมว.คลังและ ธ.กลางของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7)
อยู่ในขณะนี้ ซึ่งเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นหัวข้อหนึ่งในการประชุมดังกล่าว (รอยเตอร์)
3. การขยายตัวของปริมาณเงินของญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.47 ชะลอตัวลง และเงินให้กู้ยืมของ
ธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นลดลงเช่นกัน รายงานจากโตเกียว เมื่อ 9 ก.พ.47ธ.กลางญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ปริมาณ
เงินของญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงปริมาณเงิน M2 และบัตรเงินฝาก ในเดือน ม.ค.47 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับร้อยละ
1.6 เทียบต่อปี จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ในเดือนก่อน ทั้งนี้ ธ.กลางญี่ปุ่นให้เหตุผลว่า การที่ปริมาณเงินของ
ญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.47 เติบโตอย่างเชื่องช้าเนื่องจากความต้องการเงินทุนของธุรกิจลดลง สาเหตุจากการ
ปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีปัจจัยบางประการช่วยสนับสนุนให้ปริมาณเงินหมุนเวียนขยายตัว คือ
การย้ายเงินทุนไปสู่การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้ ธ.กลางญี่ปุ่นคาดว่า ปริมาณเงิน M2 และบัตรเงินฝาก
จะใกล้ระดับร้อยละ 1 ในไตรมาสแรกของปี 47 อย่างไรก็ตาม มีเสียงเรียกร้องจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยเฉพาะ
รมว.เศรษฐกิจให้ ธ.กลางญี่ปุ่นเพิ่มมาตรการพิเศษเพื่อช่วยสนับสนุนให้ปริมาณเงินหมุนเวียนขยายตัวมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ธ.กลางญี่ปุ่นได้เปิดเผยตัวเลขเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.47 ลดลง
ร้อยละ 4.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 37 สวนทางกับ
ผลสำรวจเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์โดย ธ.กลางในไตรมาสสุดท้ายของปี 47 ที่มีสัญญาณว่าความต้องการ
เงินทุนสำหรับธุรกิจเอกชนจะเพิ่มขึ้น และ The diffusion index ของความต้องการเงินทุนในไตรมาส 4
ปี 46 เพิ่มขึ้นที่ระดับ +1 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขดังกล่าวแสดงเป็นผลบวกตั้งแต่ปี 43 มา ซึ่งก็สวนทางกับ
ผลสำรวจที่แสดงว่าธนาคารพาณิชย์ญี่ปุ่นคาดว่าดัชนีดังกล่าวจะลดลงสู่ระดับติดลบในอนาคต (รอยเตอร์)
4. สิงคโปร์กำหนดเป้าหมายลด งปม.รายจ่ายลงร้อยละ 2 ในปี งปม.2547/2548 รายงาน
จากสิงคโปร์เมื่อ 7 ก.พ.47 ทางการสิงคโปร์ เปิดเผยว่า รอง นรม.และ รมว.คลังของสิงคโปร์ (Lee
Hsien Loong) กล่าวว่า เขาจะเสนอตัวเลข งปม.ประจำปี 2547/2548 (เม.ย.47-มี.ค.48) เข้าสู่ที่
ประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 ก.พ.47 โดยกำหนดเป้าหมายจะลด งปม.รายจ่ายลงร้อยละ 2 เนื่องจากคาดว่า
ในปี งปม.ปัจจุบันจะขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 2.236 พัน ล.ดอลลาร์สิงคโปร์ (1.32 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.)
จากเดิมที่คาดว่าจะขาดดุลเพียง 1.244 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.สิงคโปร์ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 9/2/47 6/2/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.102 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.8995/39.1923 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.8750 - 1.2800 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 711.15/46.72 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,400/7,500 7,300/7,400 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 27.31 27.74 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47
ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-