นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยถึงภาวะการส่งออกข้าวใน
เดือนมกราคม 2547 ว่าสามารถส่งออกข้าวได้ส่งออกข้าวแล้ว 0.55 ล้านตัน มูลค่า 146 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.3 แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 การที่ปริมาณข้าวส่งออกใน
เดือนมกราคม 2547 ลดลงส่วนหนึ่งมาจากได้มีการเร่งส่งมอบข้าวให้ผู้ซื้อต่างประเทศเป็นจำนวนมากในเดือน
ที่ผ่านมาโดยได้ส่งออกสูงถึง 0.84 ล้านตัน อนึ่งการส่งออกข้าวในเดือนมกราคมดังกล่าวเป็นการส่งออกข้าว
หอมมะลิไทย 0.16 ล้านตันมูลค่า 72 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือคิดเป็นร้อยละ 30 และ 49 ของปริมาณมูลค่า
การส่งออกทั้งหมด สำหรับตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญในช่วงเดือนนี้ส่วนใหญ่เป็นตลาดในแถบแอฟริกา และ
ตะวันออกกลาง เช่น ไนจีเรีย แอฟริกาใต้ ไอเวอรี่โคสต์ เซเนกัล อิหร่าน
การส่งออกข้าวในเดือนมกราคม 2547 แม้ว่าปริมาณการส่งออกจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่มูลค่าการส่งออกสูงขึ้น จากการที่ราคาข้าวส่งออก ของไทยได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะข้าว
หอมมะลิไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาข้าวชนิดนี้แม้จะอยู่ในระดับสูงแต่ความต้องการ ของตลาดต่างประเทศยังมิ
ได้ลดลง ส่วนหนึ่งเนื่องจากผู้ซื้อและผู้บริโภคต่างประเทศ มีความมั่นใจในคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยภายใต้
มาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้มีมาตรการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดตลอดมา
ส่งผลให้ตลาดในประเทศมีความมั่นใจในเสถียรภาพของราคา ข้าวหอมมะลิไทยมากขึ้น โดยราคาส่งออกข้าว
หอมมะลิไทยในเดือนมกราคม 2547 มีราคาส่งออกตันละ 553 เหรียญสหรัฐฯเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน
ที่มีราคาเฉลี่ยตันละ 368 เหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาตันละ 9,250 บาท สูง
กว่าปีก่อนตันละ 3,350 บาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จะเร่งดำเนินการผลักดันให้มีการส่งออกข้าวตาม
เป้าหมายและยุทธศาสตร์ที่กำหนด ไว้โดยเฉพาะการออกมาตรการสนับสนุนผู้ส่งออกให้มีความสามารถในการ
แข่งขันมากขึ้น เช่นสนับสนุนให้ประมูลข้าวในนามของรัฐบาลและร่วมมือกับผู้ส่งออกโดยเดินทางไปเจรจาขยาย
ตลาดข้าวและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในต่างประเทศทุกภูมิภาค รวมทั้งการสนับสนุนให้เอกชนแสวงหา
ตลาดใหม่ๆ โดยให้สิ่งจูงใจต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการส่งออกที่ได้กำหนดไว้ 8.0 ล้านตันมูลค่า 1,900
ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2547
--กรมการค้าต่างประเทศ กุมภาพันธ์ 2547--
-สส-
เดือนมกราคม 2547 ว่าสามารถส่งออกข้าวได้ส่งออกข้าวแล้ว 0.55 ล้านตัน มูลค่า 146 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปริมาณลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.3 แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 การที่ปริมาณข้าวส่งออกใน
เดือนมกราคม 2547 ลดลงส่วนหนึ่งมาจากได้มีการเร่งส่งมอบข้าวให้ผู้ซื้อต่างประเทศเป็นจำนวนมากในเดือน
ที่ผ่านมาโดยได้ส่งออกสูงถึง 0.84 ล้านตัน อนึ่งการส่งออกข้าวในเดือนมกราคมดังกล่าวเป็นการส่งออกข้าว
หอมมะลิไทย 0.16 ล้านตันมูลค่า 72 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือคิดเป็นร้อยละ 30 และ 49 ของปริมาณมูลค่า
การส่งออกทั้งหมด สำหรับตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญในช่วงเดือนนี้ส่วนใหญ่เป็นตลาดในแถบแอฟริกา และ
ตะวันออกกลาง เช่น ไนจีเรีย แอฟริกาใต้ ไอเวอรี่โคสต์ เซเนกัล อิหร่าน
การส่งออกข้าวในเดือนมกราคม 2547 แม้ว่าปริมาณการส่งออกจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
แต่มูลค่าการส่งออกสูงขึ้น จากการที่ราคาข้าวส่งออก ของไทยได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะข้าว
หอมมะลิไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาข้าวชนิดนี้แม้จะอยู่ในระดับสูงแต่ความต้องการ ของตลาดต่างประเทศยังมิ
ได้ลดลง ส่วนหนึ่งเนื่องจากผู้ซื้อและผู้บริโภคต่างประเทศ มีความมั่นใจในคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยภายใต้
มาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้มีมาตรการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดตลอดมา
ส่งผลให้ตลาดในประเทศมีความมั่นใจในเสถียรภาพของราคา ข้าวหอมมะลิไทยมากขึ้น โดยราคาส่งออกข้าว
หอมมะลิไทยในเดือนมกราคม 2547 มีราคาส่งออกตันละ 553 เหรียญสหรัฐฯเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน
ที่มีราคาเฉลี่ยตันละ 368 เหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาตันละ 9,250 บาท สูง
กว่าปีก่อนตันละ 3,350 บาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จะเร่งดำเนินการผลักดันให้มีการส่งออกข้าวตาม
เป้าหมายและยุทธศาสตร์ที่กำหนด ไว้โดยเฉพาะการออกมาตรการสนับสนุนผู้ส่งออกให้มีความสามารถในการ
แข่งขันมากขึ้น เช่นสนับสนุนให้ประมูลข้าวในนามของรัฐบาลและร่วมมือกับผู้ส่งออกโดยเดินทางไปเจรจาขยาย
ตลาดข้าวและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในต่างประเทศทุกภูมิภาค รวมทั้งการสนับสนุนให้เอกชนแสวงหา
ตลาดใหม่ๆ โดยให้สิ่งจูงใจต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการส่งออกที่ได้กำหนดไว้ 8.0 ล้านตันมูลค่า 1,900
ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2547
--กรมการค้าต่างประเทศ กุมภาพันธ์ 2547--
-สส-