นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสหภาพยุโรปจะ
ดำเนินการขยายจำนวนประเทศ สมาชิก (EU Enlargement) เพิ่มขึ้นอีก 10 ประเทศ ได้แก่ ฮังการี
โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ค ลัตเวีย ไซปรัส เอสโตเนีย ลิธัวเนีย สโลวานีย มอลตา และสโลวัค รวมเป็น 25
ประเทศ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2547 เป็นต้นไป โดยในส่วนของสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มนั้น ผลจากการ
ขยายสมาชิกภาพของสหภาพยุโรปดังกล่าว จะส่งผลให้การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยไปยังประเทศ
สมาชิกใหม่ ไม่สามารถส่งออกได้โดยเสรีดังเดิม เนื่องจากสหภาพยุโรปจะขยายการควบคุมโควตานำเข้าสิ่ง
ทอและเครื่องนุ่งห่ม ตามรายการ ที่สหภาพยุโรปมีข้อตกลงกับประเทศต่าง ๆ รวมทั้งไทย ให้ครอบคลุมถึง 10
ประเทศดังกล่าวด้วยตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 ธันวาคม 2547 เป็นเวลา 8 เดือน ก่อนจะยกเลิก
ระบบโควตาภายใต้ความตกลงสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มขององค์การการค้าโลกในปี 2548
ปัจจุบันสหภาพยุโรปควบคุมโควตานำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจากไทย จำนวนทั้งสิ้น 13 รายการ
แบ่งเป็นเครื่องนุ่งห่ม 7 รายการ และสิ่งทอ (เส้นด้ายและผ้าผืน) จำนวน 6 รายการ โดยคาดว่าสหภาพ
ยุโรปจะเริ่มเจรจากับประเทศต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งไทยในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งขณะนี้กรมการค้าต่าง
ประเทศกำลังเตรียมการเจรจากับสหภาพยุโรปเพื่อขอชดเชยปริมาณโควตาตามรายการสินค้าที่ไทยได้รับผล
กระทบ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่อการส่งออกสิ่งทอของไทยไปยังประเทศสมาชิกใหม่ให้มากที่สุด
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ผ่านมาไทยมีการส่งออกสินค้าสิ่งทอและ
เครื่องนุ่งห่มไปยังประเทศสมาชิกใหม่ทั้ง10 ประเทศดังกล่าว ถึงแม้จะมีมูลค่าไม่มากนัก มีสัดส่วนเพียงร้อยละ
0.7 เมื่อเทียบกับการส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มโดยรวมของไทย โดยในปี 2545 มีมูลค่าทั้งสิ้น 35.9
ล้านเหรียญสหรัฐฯ และในช่วง มค. — พย. 2546 ที่ผ่านมา มีมูลค่าส่งออก 28.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ซึ่งมูลค่าดังกล่าวเป็นมูลค่าสินค้าที่อยู่ภายใต้โควตาส่งออกตามข้อตกลง สิ่งทอ ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปคิด
เป็นสัดส่วนถึงประมาณร้อยละ 50 ของมูลค่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปยัง ประเทศสมาชิกใหม่ทั้งหมด
โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ โปแลนด์ ฮังการี สาธารณรัฐเช็ค ไซปรัส เป็นต้น ดังนั้นการขยาย
สมาชิกภาพของสหภาพยุโรปดังกล่าว จึงมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าสิ่งทอของไทยไปยังสมาชิกใหม่พอสมควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการสินค้าที่มีการส่งออกสูง ได้แก่ สินค้าเสื้อยืด (รายการ 4) และ กางเกง (
รายการ 6) จะต้องถูกจำกัดโควตา นำเข้าตามสหภาพยุโรปด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ การส่งออกสิ่งทอของไทยไปยังประเทศที่จะเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของ
สหภาพยุโรปทั้ง 10 ประเทศดังกล่าว ในปัจจุบันยังสามารถส่งออกได้โดยเสรี ดังนั้น ในช่วงนี้จึงเป็น
โอกาสของผู้ส่งออกสิ่งทอไทยที่จะเร่งรัดการส่งออก สิ่งทอไปยังประเทศดังกล่าวให้มากที่สุด ก่อนที่การรวม
สมาชิกสหภาพยุโรปจะมีผลโดยสมบูรณ์ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2547 และไม่สามารถส่งออกได้โดยเสรีอีกต่อไป
--กรมการค้าต่างประเทศ กุมภาพันธ์ 2547--
-สส-
ดำเนินการขยายจำนวนประเทศ สมาชิก (EU Enlargement) เพิ่มขึ้นอีก 10 ประเทศ ได้แก่ ฮังการี
โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ค ลัตเวีย ไซปรัส เอสโตเนีย ลิธัวเนีย สโลวานีย มอลตา และสโลวัค รวมเป็น 25
ประเทศ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2547 เป็นต้นไป โดยในส่วนของสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มนั้น ผลจากการ
ขยายสมาชิกภาพของสหภาพยุโรปดังกล่าว จะส่งผลให้การส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยไปยังประเทศ
สมาชิกใหม่ ไม่สามารถส่งออกได้โดยเสรีดังเดิม เนื่องจากสหภาพยุโรปจะขยายการควบคุมโควตานำเข้าสิ่ง
ทอและเครื่องนุ่งห่ม ตามรายการ ที่สหภาพยุโรปมีข้อตกลงกับประเทศต่าง ๆ รวมทั้งไทย ให้ครอบคลุมถึง 10
ประเทศดังกล่าวด้วยตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 ธันวาคม 2547 เป็นเวลา 8 เดือน ก่อนจะยกเลิก
ระบบโควตาภายใต้ความตกลงสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มขององค์การการค้าโลกในปี 2548
ปัจจุบันสหภาพยุโรปควบคุมโควตานำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มจากไทย จำนวนทั้งสิ้น 13 รายการ
แบ่งเป็นเครื่องนุ่งห่ม 7 รายการ และสิ่งทอ (เส้นด้ายและผ้าผืน) จำนวน 6 รายการ โดยคาดว่าสหภาพ
ยุโรปจะเริ่มเจรจากับประเทศต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งไทยในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งขณะนี้กรมการค้าต่าง
ประเทศกำลังเตรียมการเจรจากับสหภาพยุโรปเพื่อขอชดเชยปริมาณโควตาตามรายการสินค้าที่ไทยได้รับผล
กระทบ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่อการส่งออกสิ่งทอของไทยไปยังประเทศสมาชิกใหม่ให้มากที่สุด
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ผ่านมาไทยมีการส่งออกสินค้าสิ่งทอและ
เครื่องนุ่งห่มไปยังประเทศสมาชิกใหม่ทั้ง10 ประเทศดังกล่าว ถึงแม้จะมีมูลค่าไม่มากนัก มีสัดส่วนเพียงร้อยละ
0.7 เมื่อเทียบกับการส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มโดยรวมของไทย โดยในปี 2545 มีมูลค่าทั้งสิ้น 35.9
ล้านเหรียญสหรัฐฯ และในช่วง มค. — พย. 2546 ที่ผ่านมา มีมูลค่าส่งออก 28.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ซึ่งมูลค่าดังกล่าวเป็นมูลค่าสินค้าที่อยู่ภายใต้โควตาส่งออกตามข้อตกลง สิ่งทอ ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปคิด
เป็นสัดส่วนถึงประมาณร้อยละ 50 ของมูลค่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปยัง ประเทศสมาชิกใหม่ทั้งหมด
โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ โปแลนด์ ฮังการี สาธารณรัฐเช็ค ไซปรัส เป็นต้น ดังนั้นการขยาย
สมาชิกภาพของสหภาพยุโรปดังกล่าว จึงมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าสิ่งทอของไทยไปยังสมาชิกใหม่พอสมควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการสินค้าที่มีการส่งออกสูง ได้แก่ สินค้าเสื้อยืด (รายการ 4) และ กางเกง (
รายการ 6) จะต้องถูกจำกัดโควตา นำเข้าตามสหภาพยุโรปด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ การส่งออกสิ่งทอของไทยไปยังประเทศที่จะเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของ
สหภาพยุโรปทั้ง 10 ประเทศดังกล่าว ในปัจจุบันยังสามารถส่งออกได้โดยเสรี ดังนั้น ในช่วงนี้จึงเป็น
โอกาสของผู้ส่งออกสิ่งทอไทยที่จะเร่งรัดการส่งออก สิ่งทอไปยังประเทศดังกล่าวให้มากที่สุด ก่อนที่การรวม
สมาชิกสหภาพยุโรปจะมีผลโดยสมบูรณ์ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2547 และไม่สามารถส่งออกได้โดยเสรีอีกต่อไป
--กรมการค้าต่างประเทศ กุมภาพันธ์ 2547--
-สส-