แท็ก
กระทรวงการต่างประเทศ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
การเคหะแห่งชาติ
กระทรวงการคลัง
กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงคมนาคม
กรุงเทพ--13 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
ด้วย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม การเคหะแห่งชาติ และคณะภาคเอกชนประกอบด้วยสมาคมผู้ลงทุนและผู้ประกอบการธุรกิจในต่างประเทศ บริษัท Thai Construction Consortium และสมาคมแฟรนไชส์และเอสเอ็มอีไทย มีกำหนดจะเดินทางไปเยือนประเทศ บาห์เรนเพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย - บาห์เรนครั้งที่ 1 ณ กรุงมานามา ระหว่างวันที่13 - 14 กุมภาพันธ์ 2547 และจะเดินทางไปเยือนประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2547 ในฐานะแขกของรัฐมนตรีต่างประเทศ โดยมีกำหนดการประชุมแนบมาพร้อมนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนวัตถุประสงค์ของการเยือนและกิจกรรมสำคัญในช่วงการเยือน ดังนี้
1. บาห์เรน
1.1 การเข้าร่วมการประชุมและลงนามร่วมกับ H.E. Shaikh Mohammed bin Mubarak Al - Khalifa รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศบาห์เรนในการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-บาห์เรนครั้งที่ 1 ซึ่งเป็น ผลสืบเนื่องจากการเยือนบาห์เรนอย่างเป็นทางการของพตท. ทักษิน ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันที่ 10-11 มิถุนายน 2545 ตลอดจนผลของการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสไทย-บาห์เรน เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2546 ทั้งนี้ คณะ กรรมาธิการร่วมระดับสูงจะเป็นการวางกรอบการส่งเสริมความร่วมมือไทย-บาห์เรนทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเงินและการธนาคาร การค้า ธุรกิจ ก่อสร้าง และการท่องเที่ยว ตลอดจนความร่วมมือด้านน้ำมัน ด้านแรงงานและความร่วมมือภาคเอกชน
1.2 นอกเหนือจากการเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ แล้ว ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย จะเข้าเฝ้าฯ His Majesty King Hamad Bin Isa Al Khalifa กษัตริย์บาห์เรน และเข้าเฝ้าฯ H.H. Shaikh Khalifa bin Salman Al Khalifa นายกรัฐมนตรีบาห์เรน รวมทั้งการหารือทวิภาคีกับ H.E. Shaikh Mohammed bin Mubarak Al - Khalifa รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศบาห์เรน ตลอดจนการพบหารือกับ H.E. Abdulla Hassan Saif รัฐมนตรีกระทรวงคลังและเศรษฐกิจแห่งชาติบาห์เรน อีกด้วย โดยประเด็นที่ทั้งสองประเทศจะหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในเรื่องที่สนใจร่วมกัน อาทิ
กระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง สถานการณ์ในอิรัก และความร่วมมือเอเชีย (ACD) ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี อาทิ การเจรจาเปิดการค้าเสรีไทย-บาห์เรน ความร่วมมือด้านท่องเที่ยว พลังงาน และการจัดงานแสดงสินค้า เป็นต้น
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
2.1 การเข้าพบหารือกับ H.E. Mr. Rashid Abdullah Al Nuaimi รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และคณะ โดยจะมีประเด็นการหารือในเรื่องความร่วมมือด้านพลังงานในโครงการ landbridge ทางภาคใต้ของไทย การส่งเสริมให้นักศึกษาไทยมุสลิมมีโอกาสเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยยูเออี การส่งเสริมแรงงานฝีมือของไทยและธุรกิจการก่อสร้างไทย และการร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลของไทย เป็นต้น
2.2 การเข้าพบหารือกับ H.H.Sheikh Hamdan bin Rashid Al Maktoum รองเจ้าผู้ครองรัฐดูไบและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและอุตสาหกรรม โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก อาทิ การเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกทม. - ดูไบ การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า Thailand Plaza ในดูไบเพื่อ re-export ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา เป็นต้น
กระทรวงการต่างประเทศขอเน้นย้ำว่า การเยือนบาห์เรนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครั้งนี้มีความสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นก้าวย่างครั้งสำคัญของยุทธศาตร์ความสัมพันธ์ไทย-ตะวันออกกลาง ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจของสองประเทศ โดยที่ไทยและประเทศบาห์เรนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่างมีศักยภาพทางภูมิศาสตร์ในด้านการบินและการเดินเรือ และศักยภาพในด้านทรัพยากรธรรมชาติ เช่น พลังงาน ตลอดจนจะทำหน้าที่เป็นประตูสู่การขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคของตนได้ จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและจะเป็นผลที่สร้างสรรต่อพัฒนาการของความสัมพันธ์ของไทยและประเทศในตะวันออกกลางต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ด้วย ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยข้าราชการระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม การเคหะแห่งชาติ และคณะภาคเอกชนประกอบด้วยสมาคมผู้ลงทุนและผู้ประกอบการธุรกิจในต่างประเทศ บริษัท Thai Construction Consortium และสมาคมแฟรนไชส์และเอสเอ็มอีไทย มีกำหนดจะเดินทางไปเยือนประเทศ บาห์เรนเพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย - บาห์เรนครั้งที่ 1 ณ กรุงมานามา ระหว่างวันที่13 - 14 กุมภาพันธ์ 2547 และจะเดินทางไปเยือนประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2547 ในฐานะแขกของรัฐมนตรีต่างประเทศ โดยมีกำหนดการประชุมแนบมาพร้อมนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนวัตถุประสงค์ของการเยือนและกิจกรรมสำคัญในช่วงการเยือน ดังนี้
1. บาห์เรน
1.1 การเข้าร่วมการประชุมและลงนามร่วมกับ H.E. Shaikh Mohammed bin Mubarak Al - Khalifa รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศบาห์เรนในการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-บาห์เรนครั้งที่ 1 ซึ่งเป็น ผลสืบเนื่องจากการเยือนบาห์เรนอย่างเป็นทางการของพตท. ทักษิน ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในวันที่ 10-11 มิถุนายน 2545 ตลอดจนผลของการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสไทย-บาห์เรน เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2546 ทั้งนี้ คณะ กรรมาธิการร่วมระดับสูงจะเป็นการวางกรอบการส่งเสริมความร่วมมือไทย-บาห์เรนทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเงินและการธนาคาร การค้า ธุรกิจ ก่อสร้าง และการท่องเที่ยว ตลอดจนความร่วมมือด้านน้ำมัน ด้านแรงงานและความร่วมมือภาคเอกชน
1.2 นอกเหนือจากการเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ แล้ว ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย จะเข้าเฝ้าฯ His Majesty King Hamad Bin Isa Al Khalifa กษัตริย์บาห์เรน และเข้าเฝ้าฯ H.H. Shaikh Khalifa bin Salman Al Khalifa นายกรัฐมนตรีบาห์เรน รวมทั้งการหารือทวิภาคีกับ H.E. Shaikh Mohammed bin Mubarak Al - Khalifa รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศบาห์เรน ตลอดจนการพบหารือกับ H.E. Abdulla Hassan Saif รัฐมนตรีกระทรวงคลังและเศรษฐกิจแห่งชาติบาห์เรน อีกด้วย โดยประเด็นที่ทั้งสองประเทศจะหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในเรื่องที่สนใจร่วมกัน อาทิ
กระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง สถานการณ์ในอิรัก และความร่วมมือเอเชีย (ACD) ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี อาทิ การเจรจาเปิดการค้าเสรีไทย-บาห์เรน ความร่วมมือด้านท่องเที่ยว พลังงาน และการจัดงานแสดงสินค้า เป็นต้น
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
2.1 การเข้าพบหารือกับ H.E. Mr. Rashid Abdullah Al Nuaimi รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และคณะ โดยจะมีประเด็นการหารือในเรื่องความร่วมมือด้านพลังงานในโครงการ landbridge ทางภาคใต้ของไทย การส่งเสริมให้นักศึกษาไทยมุสลิมมีโอกาสเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยยูเออี การส่งเสริมแรงงานฝีมือของไทยและธุรกิจการก่อสร้างไทย และการร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลของไทย เป็นต้น
2.2 การเข้าพบหารือกับ H.H.Sheikh Hamdan bin Rashid Al Maktoum รองเจ้าผู้ครองรัฐดูไบและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและอุตสาหกรรม โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก อาทิ การเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกทม. - ดูไบ การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า Thailand Plaza ในดูไบเพื่อ re-export ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา เป็นต้น
กระทรวงการต่างประเทศขอเน้นย้ำว่า การเยือนบาห์เรนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ครั้งนี้มีความสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นก้าวย่างครั้งสำคัญของยุทธศาตร์ความสัมพันธ์ไทย-ตะวันออกกลาง ซึ่งจะนำไปสู่การเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจของสองประเทศ โดยที่ไทยและประเทศบาห์เรนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่างมีศักยภาพทางภูมิศาสตร์ในด้านการบินและการเดินเรือ และศักยภาพในด้านทรัพยากรธรรมชาติ เช่น พลังงาน ตลอดจนจะทำหน้าที่เป็นประตูสู่การขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคของตนได้ จึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและจะเป็นผลที่สร้างสรรต่อพัฒนาการของความสัมพันธ์ของไทยและประเทศในตะวันออกกลางต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-