แท็ก
เวียดนาม
กรุงเทพ--16 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ได้ให้การช่วยเหลือเรือไทย 4 ลำ ซึ่งถูกทางการเวียดนามจับกุม เนื่องจากรุกล้ำน่านน้ำเวียดนามเพื่อลักลอบทำประมง นั้น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2547 นายทวีป ตระกูลมณี ผู้แทนเจ้าของเรือ ได้เข้าพบนายสมปอง สงวนบรรพ์ กงสุลใหญ่ ฯ และแจ้งว่าจังหวัดเกียงยางได้มีคำสั่งปล่อยเรือทั้ง 4 ลำพร้อมลูกเรือทั้งหมดแล้ว โดยเรือได้ออกเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2547 และได้ขอบคุณสถานกงสุลใหญ่ฯ ที่ได้ให้การช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว ดังนี้
1. สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดให้ล่ามประจำสถานกงสุลใหญ่ฯ เดินทางไปยังจังหวัดเกียงยางร่วมกับนายทวีปฯ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2547 เพื่อช่วยแปลและประสานงานกับหน่วยงานของจังหวัดเกียงยางเกี่ยวกับเรื่องการชำระค่าปรับเรือ ค่าดูแลลูกเรือและการขอซื้อคืนอุปกรณ์จับปลาต่างๆ
2. ทางจังหวัดเกียงยางได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าของเรือเป็นอย่างดี โดยยึดอุปกรณ์เรือเพียงบางส่วนและขายคืนในอัตราราคาที่เหมาะสม สำหรับอุปกรณ์นำร่องจับปลาที่มีราคาแพง เช่นเครื่องโซน่า ทางจังหวัดก็มิได้ยึดแต่อย่างใด
3. ระหว่างที่เรือถูกจับกุม จังหวัดเกียงยางได้จัดให้ลูกเรือพักบนเรือ โดยจัดอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของยังชีพอื่น ๆ ให้ลูกเรือเป็นอย่างดี
4. นายทวีปฯ ได้ชำระค่าปรับเรือที่ละเมิดน่านน้ำเวียดนาม ค่าเลี้ยงดูลูกเรือ ค่านำร่องเข้า-ออกจังหวัดเกียงยาง และค่าซื้อคืนอุปกรณ์เรือ รวมเป็นเงิน 960 ล้านด่อง
ทั้งนี้ นายทวีปฯ เชื่อว่าจังหวัดเกียงยางได้ให้ความร่วมมือในการดูแลลูกเรือเป็นอย่างดี และปล่อยเรือและลูกเรือกลับประเทศไทยในระยะเวลาอันสั้น รวมทั้งไม่ยึดอุปกรณ์เรือที่มีราคาแพง และขายคืนอุปกรณ์เรือในราคาที่เหมาะสม เป็นผลมาจากการที่กงสุลใหญ่ฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเกียงยาง (ผู้ว่าราชการจังหวัด) เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วซึ่งได้มีการหยิบยกเรื่องการจับกุมเรือ 4 ลำดังกล่าวขึ้นหารือด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ตามที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ได้ให้การช่วยเหลือเรือไทย 4 ลำ ซึ่งถูกทางการเวียดนามจับกุม เนื่องจากรุกล้ำน่านน้ำเวียดนามเพื่อลักลอบทำประมง นั้น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2547 นายทวีป ตระกูลมณี ผู้แทนเจ้าของเรือ ได้เข้าพบนายสมปอง สงวนบรรพ์ กงสุลใหญ่ ฯ และแจ้งว่าจังหวัดเกียงยางได้มีคำสั่งปล่อยเรือทั้ง 4 ลำพร้อมลูกเรือทั้งหมดแล้ว โดยเรือได้ออกเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2547 และได้ขอบคุณสถานกงสุลใหญ่ฯ ที่ได้ให้การช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว ดังนี้
1. สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดให้ล่ามประจำสถานกงสุลใหญ่ฯ เดินทางไปยังจังหวัดเกียงยางร่วมกับนายทวีปฯ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2547 เพื่อช่วยแปลและประสานงานกับหน่วยงานของจังหวัดเกียงยางเกี่ยวกับเรื่องการชำระค่าปรับเรือ ค่าดูแลลูกเรือและการขอซื้อคืนอุปกรณ์จับปลาต่างๆ
2. ทางจังหวัดเกียงยางได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าของเรือเป็นอย่างดี โดยยึดอุปกรณ์เรือเพียงบางส่วนและขายคืนในอัตราราคาที่เหมาะสม สำหรับอุปกรณ์นำร่องจับปลาที่มีราคาแพง เช่นเครื่องโซน่า ทางจังหวัดก็มิได้ยึดแต่อย่างใด
3. ระหว่างที่เรือถูกจับกุม จังหวัดเกียงยางได้จัดให้ลูกเรือพักบนเรือ โดยจัดอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของยังชีพอื่น ๆ ให้ลูกเรือเป็นอย่างดี
4. นายทวีปฯ ได้ชำระค่าปรับเรือที่ละเมิดน่านน้ำเวียดนาม ค่าเลี้ยงดูลูกเรือ ค่านำร่องเข้า-ออกจังหวัดเกียงยาง และค่าซื้อคืนอุปกรณ์เรือ รวมเป็นเงิน 960 ล้านด่อง
ทั้งนี้ นายทวีปฯ เชื่อว่าจังหวัดเกียงยางได้ให้ความร่วมมือในการดูแลลูกเรือเป็นอย่างดี และปล่อยเรือและลูกเรือกลับประเทศไทยในระยะเวลาอันสั้น รวมทั้งไม่ยึดอุปกรณ์เรือที่มีราคาแพง และขายคืนอุปกรณ์เรือในราคาที่เหมาะสม เป็นผลมาจากการที่กงสุลใหญ่ฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเกียงยาง (ผู้ว่าราชการจังหวัด) เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วซึ่งได้มีการหยิบยกเรื่องการจับกุมเรือ 4 ลำดังกล่าวขึ้นหารือด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-