นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยชี้แจงให้ประชาชนเห็นแนวทางการหาเสียงที่ผิดปกติ ของพรรคคู่แข่ง ที่ใช้กลยุทธ ในการหาเสียงแบบหนักข้อขึ้นทุกวัน โดยนายจุรินทร์ ชี้ให้เห็นว่า เรื่องแรกเป็นการใช้อำนาจเงินและอำนาจรัฐ ข่มขู่ทหาร ตำรวจ และข้าราชการในพื้นที่ให้ช่วยหาเสียง หากใครไม่ให้ความร่วมมือจะถูกขึ้นบัญชีดำ เรื่องที่สอง มีข้าราชการในพื้นที่บางคน ทำตัวไม่เหมาะสม และวางตัวไม่เป็นกลางในทางการกเมือง ช่วยพรรคคู่แข่งหาเสียง ซึ่งขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือร้องเรียน ให้กกต.พิจารณา ข้าราชการที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสมนี้แล้ว จำนวน5 คน สามมีการใช้ตัวรัฐมนตรี ต่อรองกับพี่น้องชาวมุสลิม โดยบอกว่าถ้าการเลเอกตตั้งครั้งนี้พรรคไทยรักไทยแพ้จะถูกปรับออกจากรัฐบาลเพราะฉะนั้น เพราะฉะนั้นพี่น้องมุสลิมต้องเลือกพรรคไทยรักไทย แต่โดยส่วนตัวตนเห็นว่าพรรคไทยรักไทยจะไม่ปรับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ออกแน่นอนเพราะ 1. นายกฯต้องการหาเสียงกับมุสลิม โดยใช้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นตัวต่อรอง เพื่อให้เห็นว่าพรรคไทยรักไทยให้ความสำคัญกับชาวมุสลิม 2. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อยู่ในฐานะผู้มีอุปการคุณของนายกฯ จากกรณีแก้สัญญาสัมปทานสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจากเหตุผลนี้ตนเชื่อว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จะไม่ถูกปรับออกแน่นอน และ4.สาเหตุที่ให้เลือกพรรคไทยรักไทยเพราะนายกฯทักษิณดีขึ้น โดยให้เหตุผลว่าพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้เศรษฐกิจพัง ซึ่งความเป็นจริงเศรษฐกิจในสมัยพล.อ.ชวลิต เป็นนายกฯ โยมี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นรองนายกฯ
นายจุรินทร์ ชี้ให้เห็นว่า3 ปีที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้คนจนจนลง และมีคนรวยบางกลุ่มเท่านั้นที่รวยขึ้น นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังชี้ถึงเหตุผลที่ไม่ควรเลือกผู้สมัครจากพรรครัฐบาล ว่า 1. เพราะรัฐบาลมีเสียงมากเกินความจำเป็นแล้ว 2.ถ้าเลือกคนฝ่ายรัฐบาลอาจเกิดเผด็จการในการบริหารประเทศ 3. เรื่องการทุจริต รัฐบาลชุดนี้มีเรื่องการทุจริตมาก และเป็นการทุจริตที่หนักข้อขึ้นทุกวัน ถ้าเลือกคนของพรรคไทยรักไทยเข้าไปเป็นรัฐบาล ก็จะเป็นการเพิ่มอีกหนึ่งเสียงเพื่อเข้าไปทุจริตคอรัปชั่น หรือเพิ่มอีกหนึ่งเสียงเพื่อไปยกมือสนับสนุนการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาล
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าอยากจะฝากไปบอกผู้สมัครพรรคไทยรักไทย ที่เคยสอบตกในสนามเลือกตั้งครั้งนี้มาแล้วว่า จะตกอีกครั้งหนึ่งคงไม่เป็นไร มีโอกาสสมัครใหม่เป็นคนที่ 3 เพราะจากลงพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะใน ม.สงขลานครินทร์ ก็ได้รับการยืนยันว่าอย่างไรก็จเลือกพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว
นายสุวรรณ กู้สุจริต กล่าวปราศรัยโดยเน้นถึงความล้มเหลวของนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะด้านการแก้ปัญหาใต้ที่เป็นผลจากการที่รัฐบาลได้ยุบศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.และพตท.43
ด้านวิทยา แก้วภารดรัย ได้กล่าวปราศรัยโดยระบุถึงการรุกคืบผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างบริษัทในเครือนายกฯ กับผลประโยชน์ของประเทศ นอกจากนี้นายวิทยา ยังได้กล่าวว่าเชื่อว่าหากหมด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว ประชาชนจะไม่ได้ยินชื่อพรรคไทยรักไทย เพราะระบบเฒ่าแก่ หรือซีอีโอ จะไม่มีเฒ่าหรือรองเฒ่าแก่ แต่จะมีเฒ่าแก่เท่านั้นที่จะเป็นหัวหน้าได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13/02/47--จบ--
-สส-
นายจุรินทร์ ชี้ให้เห็นว่า3 ปีที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้คนจนจนลง และมีคนรวยบางกลุ่มเท่านั้นที่รวยขึ้น นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังชี้ถึงเหตุผลที่ไม่ควรเลือกผู้สมัครจากพรรครัฐบาล ว่า 1. เพราะรัฐบาลมีเสียงมากเกินความจำเป็นแล้ว 2.ถ้าเลือกคนฝ่ายรัฐบาลอาจเกิดเผด็จการในการบริหารประเทศ 3. เรื่องการทุจริต รัฐบาลชุดนี้มีเรื่องการทุจริตมาก และเป็นการทุจริตที่หนักข้อขึ้นทุกวัน ถ้าเลือกคนของพรรคไทยรักไทยเข้าไปเป็นรัฐบาล ก็จะเป็นการเพิ่มอีกหนึ่งเสียงเพื่อเข้าไปทุจริตคอรัปชั่น หรือเพิ่มอีกหนึ่งเสียงเพื่อไปยกมือสนับสนุนการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาล
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าอยากจะฝากไปบอกผู้สมัครพรรคไทยรักไทย ที่เคยสอบตกในสนามเลือกตั้งครั้งนี้มาแล้วว่า จะตกอีกครั้งหนึ่งคงไม่เป็นไร มีโอกาสสมัครใหม่เป็นคนที่ 3 เพราะจากลงพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะใน ม.สงขลานครินทร์ ก็ได้รับการยืนยันว่าอย่างไรก็จเลือกพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว
นายสุวรรณ กู้สุจริต กล่าวปราศรัยโดยเน้นถึงความล้มเหลวของนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะด้านการแก้ปัญหาใต้ที่เป็นผลจากการที่รัฐบาลได้ยุบศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.และพตท.43
ด้านวิทยา แก้วภารดรัย ได้กล่าวปราศรัยโดยระบุถึงการรุกคืบผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างบริษัทในเครือนายกฯ กับผลประโยชน์ของประเทศ นอกจากนี้นายวิทยา ยังได้กล่าวว่าเชื่อว่าหากหมด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว ประชาชนจะไม่ได้ยินชื่อพรรคไทยรักไทย เพราะระบบเฒ่าแก่ หรือซีอีโอ จะไม่มีเฒ่าหรือรองเฒ่าแก่ แต่จะมีเฒ่าแก่เท่านั้นที่จะเป็นหัวหน้าได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13/02/47--จบ--
-สส-