ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. นักธุรกิจเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยโดยรวมเติบโตในเกณฑ์ดี รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศ
ไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงการที่ ธปท.ได้จัดโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจและธุรกิจระหว่าง ธปท.กับ
นักธุรกิจ ซึ่งผลสรุปพบว่า นักธุรกิจเห็นว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมเติบโตได้ดีตามที่ทางการคาดการณ์ไว้ อัตรา
ดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำจะส่งผลดีต่อธุรกิจ แต่ต้องระวังมิให้เกิดภาวะฟองสบู่ สำหรับภาวะของ
ธุรกิจที่ดำเนินอยู่ส่วนใหญ่เป็นไปด้วยดี อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ปริมาณการผลิตและยอดขายขยายตัว
ในเกณฑ์ดี สอดรับกับความต้องการและคำสั่งซื้อที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง (แนวหน้า)
2. ผลการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในเดือน ม.ค.47 สูงกว่าเป้าหมาย 21.23% อธิบดีกรม
สรรพากร เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในเดือน ม.ค.47 มีจำนวนทั้งสิ้น 24,810.04 ล.บาท
สูงกว่าเป้าหมาย 4,344.54 ล.บาท หรือ 21.23% และสูงกว่าปีก่อน 13.59% เป็นผลจากการเติบโตของ
เศรษฐกิจและการปรับปรุงการบริหารการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต โดยสินค้าที่มีอัตราการจัดเก็บภาษีสูง
กว่าเป้าหมายมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ ภาษีรถยนต์ ภาษียาสูบ และภาษีเบียร์ (โลกวันนี้)
3. ผู้ประกอบการ ธพ.มองภาคอสังหาริมทรัพย์อาจเกิดภาวะฟองสบู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
ธ.นครหลวงไทย กล่าวว่า ในขณะนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวในอัตราที่สูงและเร็วมาก ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าจะ
เกิดภาวะฟองสบู่ แม้ว่ายังไม่มีตัวเลขที่ชี้ชัดถึงปริมาณอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับความต้องการ
ของผู้บริโภคก็ตาม แต่ที่เห็นได้ชัดคือขณะนี้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในระบบมากขึ้น ซึ่งการที่ภาครัฐร่วม
มือกับภาคเอกชนในการจัดทำดัชนีชี้วัด อาจไม่ทันกับสถานการณ์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของภาคอสังหาริมทรัพย์
ดังนั้น ในส่วนของ ธพ.จำเป็นต้องปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อย่างระมัดระวังมากขึ้น
(กรุงเทพธุรกิจ)
4. คาดว่าหุ้นรัฐวิสาหกิจจะสามารถดึงดูดนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น กรรมการผู้จัดการบริษัท
ทริสเรทติ้ง จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนกำลังตื่นตัวและคาดหวังว่าหุ้นรัฐวิสาหกิจจำนวนมากที่กำลังจะเข้า
ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูง เพราะในปีที่ผ่านมา นักลงทุนได้
กำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในอัตราที่สูงมาก จึงเชื่อมั่นว่าหุ้นรัฐวิสาหกิจจะสร้างความคึกคักและดึงดูด
นักลงทุนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทิศทางของตลาดหุ้นในปี 47 คาดว่าดัชนีหลักทรัพย์ยังปรับตัวขึ้นต่อแต่ไม่มาก
นัก เนื่องจากตลาดหุ้นเริ่มมีสัญญาณอิ่มตัว เนื่องจากที่ผ่านมาดัชนีเติบโตรวดเร็วมากจากระดับ 300 จุดเมื่อต้นปี
46 มาถึง 700 จุดในปัจจุบัน ส่วนการเติบโตของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ (แนวหน้า)
5. ต.ล.ท.เตรียมศึกษาปรับปรุงแนวทางการกำหนดวงเงินการซื้อขายหุ้นของนักลงทุน รองผู้
จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการ
กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับการกำหนดวงเงินซื้อขายหุ้นของนักลงทุนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
โดยนอกเหนือจากการวางหลักประกัน 10% ของวงเงินการซื้อขายแล้ว ยังมีแนวคิดที่จะกำหนดวงเงินซื้อขาย
ใหม่ โดยอาจจะให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นได้เพียง 4 เท่าของหลักประกัน จากเดิมที่สามารถซื้อหุ้นได้ 10
เท่าของหลักประกัน หรือขึ้นอยู่กับวงเงินที่โบรกเกอร์อนุมัติ ทั้งนี้ จะต้องศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นด้วย
(โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. สรอ.ขาดดุลการค้าในเดือนธ.ค. มากกว่าที่คาดไว้ รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 13 ก.พ.
47 รัฐบาล สรอ.เปิดเผยว่าในเดือนธ.ค. 46 สรอ.ขาดดุลการค้าถึง 42.5 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. หรือ
เกือบร้อยละ 11 สูงเป็นประวัติการณ์และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะขาดดุลการค้าเพียง 40.0 พัน ล.
ดอลลาร์ สรอ. ส่งผลให้การขาดดุลการค้าทั้งปี 46 ของสรอ. สูงเป็นประวัติการณ์ ที่ระดับ 489.4 พัน ล.
ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นจากปี 45 ถึงร้อยละ 17 ซึ่งการขาดดุลการค้าทั้งปี 46 รวมการขาดดุลการค้า
จากสหภาพยุโรป และจีน จำนวน 94.3 และ124 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ.ตามลำดับ นอกจากนั้นการขาด
ดุลการค้าอย่างรวดเร็วได้เพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์สรอ.ในด้านเงินเฟ้อ ปัจจุบันสรอ.ต้องจ่ายเงินมาก
ขึ้นเพื่อซื้อสินค้านำเข้า อย่างไรก็ตาม นายอลันกรีนสแปน ประธานธ.กลาง สรอ. ดูเหมือนว่าจะไม่วิตกต่อค่า
เงินดอลลาร์ สรอ. ที่อ่อนค่าลง การนำเข้าในเดือน ธ.ค.ยังคงสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 132.8 พัน ล.
ดอลลาร์ สรอ. และเมื่อรวมทั้งปี 46 สูงถึง 1.51ล้าน ล้าน ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เนื่อง
จากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันและสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ สำหรับสินค้าทุนอาทิ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และ
เครื่องบินโดยสารรวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ทีวี และยารักษาโรคยังคงเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (รอยเตอร์)
2. กรีนสแปนสนับสนุนการขยายเวลาการตัดลดภาษี รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 12 ก.พ.47
ประธาน ธ.กลาง สรอ.ได้กล่าวสนับสนุนการขยายเวลาการตัดลดภาษีของประธานาธิบดีบุช แต่กล่าวเสริมว่า
ควรมีการตัดลดรายจ่ายส่วนอื่นด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ภาระหนี้สินของประเทศเพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่ขึ้นดำรง
ตำแหน่งประธานาธิบดีบุช ได้เสนอให้มีการตัดลดภาษีไปแล้วจำนวน 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ.เป็นระยะ
เวลากว่า 10 ปี ซึ่งถ้าหากไม่มีการต่ออายุ การตัดลดภาษีจะสิ้นสุดในปี 53 ในแถลงการณ์ในรายงานนโยบาย
การเงินประจำครึ่งปี กรีนสแปนได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของการใช้ข้อบังคับในการใช้จ่ายของรัฐบาลซึ่งระบุ
ให้รัฐบาลต้องลดรายจ่ายส่วนอื่นเพื่อชดเชยรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นมา เพื่อให้งบประมาณรายจ่ายของประเทศอยู่ใน
ระดับเท่าเดิม และได้เสนอให้รัฐบาลเพิ่มอายุคนที่จะได้รับสวัสดิการสังคมและค่ารักษาพยาบาลและเปลี่ยนการ
ปรับเพิ่มสวัสดิการจากเดิมที่ปรับตามดัชนีราคาผู้บริโภคมาเป็นดัชนีเงินเฟ้อซึ่งเพิ่มในอัตราที่ช้ากว่าแทน (รอยเตอร์)
3. อังกฤษ เยอรมัน และฝรั่งเศส จัดประชุมเพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปพุธนี้ รายงาน
จากลอนดอนเมื่อวันที่ 15 ก.พ.47 Jack Straw รมว. ต่างประเทศ ของอังกฤษ กล่าวว่า สามผู้นำของ
สหภาพยุโรป ได้แก่ นายกรัฐมนตรี Tony Blair ของอังกฤษ นายกรัฐมนตรี Gerhard Schroeder ของ
เยอรมัน และ ประธานาธิบดี Jacques Chirac ของฝรั่งเศส มีกำหนดจัดประชุมขึ้นในวันพุธนี้ที่กรุงเบอร์ลิน
โดยหัวข้อหลักของการประชุมเป็นการหาข้อสรุปเกี่ยวกับการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ได้กับ
ทุกประเทศในกลุ่ม EU เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของสหภาพยุโรป รวมถึงนโยบายด้านการต่างประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธว่าการจัดประชุมครั้งนี้ไม่ได้เป็นความพยายามที่จะประสานรอยร้าวระหว่างสามชาติ
เกี่ยวกับสงครามในประเทศอิรัก แต่ข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นจากการประชุมครั้งนี้จะส่งผลให้มีการตัดสินใจง่ายขึ้น
ในการขยายขอบเขตของสหภาพยุโรป ในการพิจารณาให้ประเทศที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์กว่า 10 ประเทศ เข้า
ร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของสหภาพยุโรปในเดือน พ.ค.นี้หรือไม่ (รอยเตอร์)
4. รอยเตอร์คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันของสิงคโปร์ลดลงร้อยละ 4.0 ในเดือน
ม.ค.47 รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 13 ก.พ.47 ผลสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่
ใช่น้ำมันจะลดลงร้อยละ 4.0 ในเดือน ม.ค.47 เทียบต่อเดือน (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) เนื่องจากมีช่วงวัน
หยุดของธุรกิจในเทศกาลตรุษจีน และหากเทียบต่อปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บาง
คนมีความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันในเดือน ม.ค.47 ที่อาจจะลดลงเมื่อเทียบจาก
ปีก่อน โดยในปี 46 ตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 31 อย่างไรก็ตาม ก็มีแนวโน้มในด้านดี โดยในเดือน
ก.พ.47 คาดว่าสิงคโปร์จะมียอดการส่งออกสูงขึ้นเนื่องจากความต้องการสินค้าหมวดอิเล็กทรอนิกส์จาก
ประเทศจีนและทั่วโลกฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์คาดว่า ในปี 47 สิงคโปร์จะมีอัตราการเติบโตทาง
เศรษฐกิจระหว่างร้อยละ 3.0-5.0 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับร้อยละ 0.8 จากปีก่อน (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 16/2/47 13/2/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 38.919 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.7445/39.0385 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.8750 - 1.2800 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 755.18/27.74 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,500/7,600 7,500/7,600 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 28.74 28.58 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. นักธุรกิจเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยโดยรวมเติบโตในเกณฑ์ดี รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศ
ไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงการที่ ธปท.ได้จัดโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจและธุรกิจระหว่าง ธปท.กับ
นักธุรกิจ ซึ่งผลสรุปพบว่า นักธุรกิจเห็นว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมเติบโตได้ดีตามที่ทางการคาดการณ์ไว้ อัตรา
ดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำจะส่งผลดีต่อธุรกิจ แต่ต้องระวังมิให้เกิดภาวะฟองสบู่ สำหรับภาวะของ
ธุรกิจที่ดำเนินอยู่ส่วนใหญ่เป็นไปด้วยดี อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ปริมาณการผลิตและยอดขายขยายตัว
ในเกณฑ์ดี สอดรับกับความต้องการและคำสั่งซื้อที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง (แนวหน้า)
2. ผลการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในเดือน ม.ค.47 สูงกว่าเป้าหมาย 21.23% อธิบดีกรม
สรรพากร เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในเดือน ม.ค.47 มีจำนวนทั้งสิ้น 24,810.04 ล.บาท
สูงกว่าเป้าหมาย 4,344.54 ล.บาท หรือ 21.23% และสูงกว่าปีก่อน 13.59% เป็นผลจากการเติบโตของ
เศรษฐกิจและการปรับปรุงการบริหารการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต โดยสินค้าที่มีอัตราการจัดเก็บภาษีสูง
กว่าเป้าหมายมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ ภาษีรถยนต์ ภาษียาสูบ และภาษีเบียร์ (โลกวันนี้)
3. ผู้ประกอบการ ธพ.มองภาคอสังหาริมทรัพย์อาจเกิดภาวะฟองสบู่ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
ธ.นครหลวงไทย กล่าวว่า ในขณะนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวในอัตราที่สูงและเร็วมาก ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าจะ
เกิดภาวะฟองสบู่ แม้ว่ายังไม่มีตัวเลขที่ชี้ชัดถึงปริมาณอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับความต้องการ
ของผู้บริโภคก็ตาม แต่ที่เห็นได้ชัดคือขณะนี้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในระบบมากขึ้น ซึ่งการที่ภาครัฐร่วม
มือกับภาคเอกชนในการจัดทำดัชนีชี้วัด อาจไม่ทันกับสถานการณ์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของภาคอสังหาริมทรัพย์
ดังนั้น ในส่วนของ ธพ.จำเป็นต้องปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อย่างระมัดระวังมากขึ้น
(กรุงเทพธุรกิจ)
4. คาดว่าหุ้นรัฐวิสาหกิจจะสามารถดึงดูดนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น กรรมการผู้จัดการบริษัท
ทริสเรทติ้ง จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนกำลังตื่นตัวและคาดหวังว่าหุ้นรัฐวิสาหกิจจำนวนมากที่กำลังจะเข้า
ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูง เพราะในปีที่ผ่านมา นักลงทุนได้
กำไรจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในอัตราที่สูงมาก จึงเชื่อมั่นว่าหุ้นรัฐวิสาหกิจจะสร้างความคึกคักและดึงดูด
นักลงทุนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทิศทางของตลาดหุ้นในปี 47 คาดว่าดัชนีหลักทรัพย์ยังปรับตัวขึ้นต่อแต่ไม่มาก
นัก เนื่องจากตลาดหุ้นเริ่มมีสัญญาณอิ่มตัว เนื่องจากที่ผ่านมาดัชนีเติบโตรวดเร็วมากจากระดับ 300 จุดเมื่อต้นปี
46 มาถึง 700 จุดในปัจจุบัน ส่วนการเติบโตของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ (แนวหน้า)
5. ต.ล.ท.เตรียมศึกษาปรับปรุงแนวทางการกำหนดวงเงินการซื้อขายหุ้นของนักลงทุน รองผู้
จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการ
กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับการกำหนดวงเงินซื้อขายหุ้นของนักลงทุนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
โดยนอกเหนือจากการวางหลักประกัน 10% ของวงเงินการซื้อขายแล้ว ยังมีแนวคิดที่จะกำหนดวงเงินซื้อขาย
ใหม่ โดยอาจจะให้นักลงทุนสามารถซื้อขายหุ้นได้เพียง 4 เท่าของหลักประกัน จากเดิมที่สามารถซื้อหุ้นได้ 10
เท่าของหลักประกัน หรือขึ้นอยู่กับวงเงินที่โบรกเกอร์อนุมัติ ทั้งนี้ จะต้องศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นด้วย
(โลกวันนี้)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. สรอ.ขาดดุลการค้าในเดือนธ.ค. มากกว่าที่คาดไว้ รายงานจากวอชิงตันเมื่อวันที่ 13 ก.พ.
47 รัฐบาล สรอ.เปิดเผยว่าในเดือนธ.ค. 46 สรอ.ขาดดุลการค้าถึง 42.5 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. หรือ
เกือบร้อยละ 11 สูงเป็นประวัติการณ์และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะขาดดุลการค้าเพียง 40.0 พัน ล.
ดอลลาร์ สรอ. ส่งผลให้การขาดดุลการค้าทั้งปี 46 ของสรอ. สูงเป็นประวัติการณ์ ที่ระดับ 489.4 พัน ล.
ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นจากปี 45 ถึงร้อยละ 17 ซึ่งการขาดดุลการค้าทั้งปี 46 รวมการขาดดุลการค้า
จากสหภาพยุโรป และจีน จำนวน 94.3 และ124 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ.ตามลำดับ นอกจากนั้นการขาด
ดุลการค้าอย่างรวดเร็วได้เพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์สรอ.ในด้านเงินเฟ้อ ปัจจุบันสรอ.ต้องจ่ายเงินมาก
ขึ้นเพื่อซื้อสินค้านำเข้า อย่างไรก็ตาม นายอลันกรีนสแปน ประธานธ.กลาง สรอ. ดูเหมือนว่าจะไม่วิตกต่อค่า
เงินดอลลาร์ สรอ. ที่อ่อนค่าลง การนำเข้าในเดือน ธ.ค.ยังคงสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 132.8 พัน ล.
ดอลลาร์ สรอ. และเมื่อรวมทั้งปี 46 สูงถึง 1.51ล้าน ล้าน ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 เนื่อง
จากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันและสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ สำหรับสินค้าทุนอาทิ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และ
เครื่องบินโดยสารรวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ทีวี และยารักษาโรคยังคงเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (รอยเตอร์)
2. กรีนสแปนสนับสนุนการขยายเวลาการตัดลดภาษี รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 12 ก.พ.47
ประธาน ธ.กลาง สรอ.ได้กล่าวสนับสนุนการขยายเวลาการตัดลดภาษีของประธานาธิบดีบุช แต่กล่าวเสริมว่า
ควรมีการตัดลดรายจ่ายส่วนอื่นด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ภาระหนี้สินของประเทศเพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่ขึ้นดำรง
ตำแหน่งประธานาธิบดีบุช ได้เสนอให้มีการตัดลดภาษีไปแล้วจำนวน 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ.เป็นระยะ
เวลากว่า 10 ปี ซึ่งถ้าหากไม่มีการต่ออายุ การตัดลดภาษีจะสิ้นสุดในปี 53 ในแถลงการณ์ในรายงานนโยบาย
การเงินประจำครึ่งปี กรีนสแปนได้กล่าวย้ำถึงความสำคัญของการใช้ข้อบังคับในการใช้จ่ายของรัฐบาลซึ่งระบุ
ให้รัฐบาลต้องลดรายจ่ายส่วนอื่นเพื่อชดเชยรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นมา เพื่อให้งบประมาณรายจ่ายของประเทศอยู่ใน
ระดับเท่าเดิม และได้เสนอให้รัฐบาลเพิ่มอายุคนที่จะได้รับสวัสดิการสังคมและค่ารักษาพยาบาลและเปลี่ยนการ
ปรับเพิ่มสวัสดิการจากเดิมที่ปรับตามดัชนีราคาผู้บริโภคมาเป็นดัชนีเงินเฟ้อซึ่งเพิ่มในอัตราที่ช้ากว่าแทน (รอยเตอร์)
3. อังกฤษ เยอรมัน และฝรั่งเศส จัดประชุมเพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปพุธนี้ รายงาน
จากลอนดอนเมื่อวันที่ 15 ก.พ.47 Jack Straw รมว. ต่างประเทศ ของอังกฤษ กล่าวว่า สามผู้นำของ
สหภาพยุโรป ได้แก่ นายกรัฐมนตรี Tony Blair ของอังกฤษ นายกรัฐมนตรี Gerhard Schroeder ของ
เยอรมัน และ ประธานาธิบดี Jacques Chirac ของฝรั่งเศส มีกำหนดจัดประชุมขึ้นในวันพุธนี้ที่กรุงเบอร์ลิน
โดยหัวข้อหลักของการประชุมเป็นการหาข้อสรุปเกี่ยวกับการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ได้กับ
ทุกประเทศในกลุ่ม EU เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของสหภาพยุโรป รวมถึงนโยบายด้านการต่างประเทศด้วย
อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธว่าการจัดประชุมครั้งนี้ไม่ได้เป็นความพยายามที่จะประสานรอยร้าวระหว่างสามชาติ
เกี่ยวกับสงครามในประเทศอิรัก แต่ข้อตกลงที่จะเกิดขึ้นจากการประชุมครั้งนี้จะส่งผลให้มีการตัดสินใจง่ายขึ้น
ในการขยายขอบเขตของสหภาพยุโรป ในการพิจารณาให้ประเทศที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์กว่า 10 ประเทศ เข้า
ร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของสหภาพยุโรปในเดือน พ.ค.นี้หรือไม่ (รอยเตอร์)
4. รอยเตอร์คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันของสิงคโปร์ลดลงร้อยละ 4.0 ในเดือน
ม.ค.47 รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 13 ก.พ.47 ผลสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่
ใช่น้ำมันจะลดลงร้อยละ 4.0 ในเดือน ม.ค.47 เทียบต่อเดือน (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) เนื่องจากมีช่วงวัน
หยุดของธุรกิจในเทศกาลตรุษจีน และหากเทียบต่อปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บาง
คนมีความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันในเดือน ม.ค.47 ที่อาจจะลดลงเมื่อเทียบจาก
ปีก่อน โดยในปี 46 ตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 31 อย่างไรก็ตาม ก็มีแนวโน้มในด้านดี โดยในเดือน
ก.พ.47 คาดว่าสิงคโปร์จะมียอดการส่งออกสูงขึ้นเนื่องจากความต้องการสินค้าหมวดอิเล็กทรอนิกส์จาก
ประเทศจีนและทั่วโลกฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์คาดว่า ในปี 47 สิงคโปร์จะมีอัตราการเติบโตทาง
เศรษฐกิจระหว่างร้อยละ 3.0-5.0 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับร้อยละ 0.8 จากปีก่อน (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 16/2/47 13/2/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 38.919 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.7445/39.0385 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.8750 - 1.2800 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 755.18/27.74 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,500/7,600 7,500/7,600 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 28.74 28.58 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-