จากตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก ที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เริ่มคลี่คลายลงไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์โรคชาร์ส ปัญหาความไม่สงบภายในอิรักที่ลดความรุนแรงลง ประกอบกับสามารถจับคุม ซัสดัม ฮุสเซน ได้ รวมทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในแถบ ภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวดีขึ้น เป็นผลจากปัจจัยหลายประการ คือ การส่งออกที่แข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของบรรดาประเทศอุตสาหกรรมรายใหญ่ การฟื้นตัวและอุปสงค์จากทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ และแรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเริ่มกระเตื้องขึ้น หลังจากที่อยู่ในภาวะซบเซามาเป็นเวลาหลายปี เช่นเดียวกันกับภาวะเศรษฐกิจประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนเช่นกัน เป็นผลให้นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกในปี 2546 ขยายตัวอยู่ที่ระดับ 3.2 และปรับตัวเป็นร้อยละ 4.1 ในปี 2547
สําหรับภาคอุตสาหกรรม จากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production Index: MPI) ที่จัดทําโดยสํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมอุตสาหกรรม 50 กลุ่ม (ในระดับ ISIC 4 หลัก) พบว่า ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ 9.5 ซึ่งดัชนีเฉลี่ยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีค่า 130.57 เทียบกับ 119.23 ในไตรมาสเดียวกันของปี 2545 โดยมีอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เป็นอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ดัชนีการส่งสินค้า (Shipment Index) เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม อัตราการใช้กําลังการผลิตในภาค อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการแปรรูป ผลไม้และผัก และ อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ล้วนมีอัตราการใช้กําลังการผลิตในระดับสูงขึ้น ดัชนีอื่นๆ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภค ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ดัชนีชี้นําและดัชนีพ้องทางเศรษฐกิจ ที่จัดทําโดยหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็มีการปรับตัวในระดับที่ดีขึ้นเช่นกัน
สรุปภาวะอุตสาหกรรมในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม
เหล็กและเหล็กกล้า
ปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2546 มีประมาณ 2,827,185 เมตริกตัน (ไม่รวมผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูปและท่อเหล็ก) ลดลงเล็กน้อยคือร้อยละ 0.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตลดลงมากที่สุด คือ เหล็กแผ่นรีดเย็น ลดลงร้อยละ 11.04 รองลงมาคือ เหล็กแผ่นเคลือบ ลดลงร้อยละ 2.00 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น ร้อยละ 28.93
ยานยนต์
เมื่อพิจารณาในไตรมาสที่สี่ของปี 2546 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2545 ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.05 และ 27.18 ตามลำดับ และหากเปรียบเทียบกับไตรมาสที่สามของปีเดียวกัน ทั้งปริมาณการผลิตและการจำหน่ายปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 3.85 และ 15.81 ตามลำดับ จากการขยายตัวทั้งการผลิตและการจำหน่ายของอุตสาหกรรมรถยนต์เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาในทุกกลุ่มประเภทรถยนต์ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาพคล่องทางการเงินที่เอื้ออำนวย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของค่ายรถยนต์ นอกจากนี้ การส่งออกยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
รถจักรยานยนต์
เมื่อพิจารณาในไตรมาสที่สี่ของปี 2546 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.42 และ 11.40 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการผลิตรถจักรยานยนต์แบบครอบครัว และแบบสปอร์ตเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.90 และ 11.02 ตามลำดับ ในส่วนการจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.10 แต่แบบสปอร์ตลดลงร้อยละ 35.61
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ภาวะการผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยปรับตัวดีขึ้นมาก จากรายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมพบว่า ในไตรมาสที่ 4 ปี 2546 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สำหรับภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยจากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พบว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 19.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39.3 โดยเฉพาะในกลุ่ม Monolithic Integrated circuit และ Other Integrated circuit
เคมีภัณฑ์
ไตรมาส 4 ปี 2546 การส่งออกเคมีภัณฑ์อินทรีย์มีมูลค่า 3,602.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.30 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35.18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ผลิตภัณฑ์พลาสติก
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2546 ผลิตภัณฑ์พลาสติกมีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 327.90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 0.21 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.84 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง สหราชอาณาจักร กลุ่มประเทศในอาเชียน และออสเตรเลีย
ปิโตรเคมี
ปี 2546 อุตสาหกรรมปิโตรเคมีอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น อันเป็นผลจากการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัว รวมทั้งการส่งออกไปยังประเทศจีนจำนวนมาก ผู้ผลิตยังคงมีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 4 ปี 2546 ผู้ผลิตมีการใช้กำลังการผลิตเกือบเต็มที่ ทั้งนี้ ไม่มีโรงงานใดปิดเพื่อการซ่อมบำรุงในช่วงดังกล่าวเลย
กระดาษและเยื่อกระดาษ
ภาวะอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษของไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2546 เมื่อดูตัวเลขทั้งดัชนีผลผลิต , อัตราการใช้กำลังการผลิต และปริมาณการผลิต พบว่ามีค่าลดลง โดยที่ปริมาณการผลิตลดลงจากไตรมาสที่แล้ว 252,927 ตัน เป็น 247,400 ตันหรือลดลงเล็กน้อยคิดเป็นร้อยละ 2.1
เซรามิกส์
การผลิตและจำหน่ายเซรามิกที่ใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง ซึ่งได้แก่ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการของตลาดในประเทศ และผลจากปัจจัย ต่าง ๆ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยที่อยู่ในระดับต่ำ
ปูนซีเมนต์
การผลิตปูนซีเมนต์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 มีปริมาณการผลิตรวม 16.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 5.63 เนื่องจากเศรษฐกิจการก่อสร้างขยายตัว อันเป็นผลมาจากนโยบาย รัฐบาลที่มุ่งฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับที่ต่ำ
สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2546 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการส่งออกสิ่งทอเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและส่งออก ตลอดจนมาตรการภาครัฐฯ ผ่านโครงการต่างๆ
ไม้และเครื่องเรือนไม้
ภาวะของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนของไทยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 ยังมีอัตราการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการปรับตัวลงเล็กน้อยหากเปรียบเทียบกับปีก่อน จากผลการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมในภาคก่อสร้างและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ความต้องการใช้ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ไม้ประเภทต่าง ๆ มีปริมาณความต้องการเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ความต้องการจากตลาดต่างประเทศยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ยา
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุเนื่องมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ หันมาใช้ยาที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้น
ยางและผลิตภัณฑ์ยาง
การส่งออกยางแปรรูปขั้นต้นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีมูลค่า 807 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 6
รองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังมีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นในกลุ่มของอุตสาหกรรมรองเท้าและหนังดิบและหนังฟอกแต่ในส่วนของเครื่องใช้เดินทางลดลง ในส่วนของปริมาณการผลิตหนังดิบและหนังฟอกมีลดลงเล็กน้อย แต่ปริมาณการผลิตของอุตสาหกรรมรองเท้าและกระเป๋า เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
อัญมณีและเครื่องประดับ
อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 มีการผลิตลดลง และมีปัญหาการตลาดของพลอยสีส้มทำให้ไทยส่งออกได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกโดยรวมยังคงมีการขยายตัวถึงกว่าร้อยละ 16
อาหาร
ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2546 ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณร้อยละ 1.81 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ของปี 2546 ร้อยละ 4.35 เป็นผลจากการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นวัตถุดิบและใช้ในประเทศ
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-
สําหรับภาคอุตสาหกรรม จากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production Index: MPI) ที่จัดทําโดยสํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมอุตสาหกรรม 50 กลุ่ม (ในระดับ ISIC 4 หลัก) พบว่า ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2546 ร้อยละ 9.5 ซึ่งดัชนีเฉลี่ยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีค่า 130.57 เทียบกับ 119.23 ในไตรมาสเดียวกันของปี 2545 โดยมีอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เป็นอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ดัชนีการส่งสินค้า (Shipment Index) เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม อัตราการใช้กําลังการผลิตในภาค อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการแปรรูป ผลไม้และผัก และ อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ ล้วนมีอัตราการใช้กําลังการผลิตในระดับสูงขึ้น ดัชนีอื่นๆ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภค ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ดัชนีชี้นําและดัชนีพ้องทางเศรษฐกิจ ที่จัดทําโดยหน่วยงานต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็มีการปรับตัวในระดับที่ดีขึ้นเช่นกัน
สรุปภาวะอุตสาหกรรมในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม
เหล็กและเหล็กกล้า
ปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2546 มีประมาณ 2,827,185 เมตริกตัน (ไม่รวมผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูปและท่อเหล็ก) ลดลงเล็กน้อยคือร้อยละ 0.39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตลดลงมากที่สุด คือ เหล็กแผ่นรีดเย็น ลดลงร้อยละ 11.04 รองลงมาคือ เหล็กแผ่นเคลือบ ลดลงร้อยละ 2.00 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ ผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น ร้อยละ 28.93
ยานยนต์
เมื่อพิจารณาในไตรมาสที่สี่ของปี 2546 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2545 ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.05 และ 27.18 ตามลำดับ และหากเปรียบเทียบกับไตรมาสที่สามของปีเดียวกัน ทั้งปริมาณการผลิตและการจำหน่ายปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 3.85 และ 15.81 ตามลำดับ จากการขยายตัวทั้งการผลิตและการจำหน่ายของอุตสาหกรรมรถยนต์เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาในทุกกลุ่มประเภทรถยนต์ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาพคล่องทางการเงินที่เอื้ออำนวย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของค่ายรถยนต์ นอกจากนี้ การส่งออกยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
รถจักรยานยนต์
เมื่อพิจารณาในไตรมาสที่สี่ของปี 2546 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.42 และ 11.40 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการผลิตรถจักรยานยนต์แบบครอบครัว และแบบสปอร์ตเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.90 และ 11.02 ตามลำดับ ในส่วนการจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบบครอบครัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.10 แต่แบบสปอร์ตลดลงร้อยละ 35.61
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ภาวะการผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยปรับตัวดีขึ้นมาก จากรายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมพบว่า ในไตรมาสที่ 4 ปี 2546 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สำหรับภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยจากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พบว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 19.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39.3 โดยเฉพาะในกลุ่ม Monolithic Integrated circuit และ Other Integrated circuit
เคมีภัณฑ์
ไตรมาส 4 ปี 2546 การส่งออกเคมีภัณฑ์อินทรีย์มีมูลค่า 3,602.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.30 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35.18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ผลิตภัณฑ์พลาสติก
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2546 ผลิตภัณฑ์พลาสติกมีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 327.90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 0.21 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.84 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง สหราชอาณาจักร กลุ่มประเทศในอาเชียน และออสเตรเลีย
ปิโตรเคมี
ปี 2546 อุตสาหกรรมปิโตรเคมีอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น อันเป็นผลจากการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัว รวมทั้งการส่งออกไปยังประเทศจีนจำนวนมาก ผู้ผลิตยังคงมีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 4 ปี 2546 ผู้ผลิตมีการใช้กำลังการผลิตเกือบเต็มที่ ทั้งนี้ ไม่มีโรงงานใดปิดเพื่อการซ่อมบำรุงในช่วงดังกล่าวเลย
กระดาษและเยื่อกระดาษ
ภาวะอุตสาหกรรมเยื่อกระดาษของไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2546 เมื่อดูตัวเลขทั้งดัชนีผลผลิต , อัตราการใช้กำลังการผลิต และปริมาณการผลิต พบว่ามีค่าลดลง โดยที่ปริมาณการผลิตลดลงจากไตรมาสที่แล้ว 252,927 ตัน เป็น 247,400 ตันหรือลดลงเล็กน้อยคิดเป็นร้อยละ 2.1
เซรามิกส์
การผลิตและจำหน่ายเซรามิกที่ใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง ซึ่งได้แก่ กระเบื้องปูพื้น บุผนัง และเครื่องสุขภัณฑ์ ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการของตลาดในประเทศ และผลจากปัจจัย ต่าง ๆ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยที่อยู่ในระดับต่ำ
ปูนซีเมนต์
การผลิตปูนซีเมนต์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 มีปริมาณการผลิตรวม 16.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 5.63 เนื่องจากเศรษฐกิจการก่อสร้างขยายตัว อันเป็นผลมาจากนโยบาย รัฐบาลที่มุ่งฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับที่ต่ำ
สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2546 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการส่งออกสิ่งทอเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและส่งออก ตลอดจนมาตรการภาครัฐฯ ผ่านโครงการต่างๆ
ไม้และเครื่องเรือนไม้
ภาวะของอุตสาหกรรมไม้และเครื่องเรือนของไทยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 ยังมีอัตราการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการปรับตัวลงเล็กน้อยหากเปรียบเทียบกับปีก่อน จากผลการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมในภาคก่อสร้างและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ความต้องการใช้ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ไม้ประเภทต่าง ๆ มีปริมาณความต้องการเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ความต้องการจากตลาดต่างประเทศยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ยา
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุเนื่องมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ หันมาใช้ยาที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้น
ยางและผลิตภัณฑ์ยาง
การส่งออกยางแปรรูปขั้นต้นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีมูลค่า 807 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 6
รองเท้าและผลิตภัณฑ์หนัง
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนอุตสาหกรรมรองเท้าและเครื่องหนังมีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นในกลุ่มของอุตสาหกรรมรองเท้าและหนังดิบและหนังฟอกแต่ในส่วนของเครื่องใช้เดินทางลดลง ในส่วนของปริมาณการผลิตหนังดิบและหนังฟอกมีลดลงเล็กน้อย แต่ปริมาณการผลิตของอุตสาหกรรมรองเท้าและกระเป๋า เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
อัญมณีและเครื่องประดับ
อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 มีการผลิตลดลง และมีปัญหาการตลาดของพลอยสีส้มทำให้ไทยส่งออกได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกโดยรวมยังคงมีการขยายตัวถึงกว่าร้อยละ 16
อาหาร
ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2546 ภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณร้อยละ 1.81 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ของปี 2546 ร้อยละ 4.35 เป็นผลจากการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นวัตถุดิบและใช้ในประเทศ
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-