ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.อยู่ระหว่างพิจารณาการใช้มาตรฐาน Basel 2 ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (
ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.อยู่ระหว่างเตรียมนำมาตรฐานการกำกับดูแลสถาบันการเงินฉบับใหม่ของธนาคาร
เพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) หรือ Basel 2 มาใช้ในการกำกับสถาบันการเงินไทย โดย
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาและตัวมาตรฐานใหม่ที่จะเหมาะสมกับระบบการเงินของไทย และคาด
ว่าภายในเดือน มิ.ย.47 จะสามารถประกาศอย่างเป็นทางการได้เกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะนำมาตรฐานมาใช้
และรายละเอียดของมาตรฐานดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวถึงแนวนโยบายทางการเงินของ
ธปท.ในปี 47 ว่า ธปท.เน้นดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญใน 4 เรื่อง คือ 1) ดูแลฐานะด้านต่าง
ประเทศให้มั่นคง 2) ดูแลไม่ให้เกิดการเก็งกำไรในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนสร้างปัญหาต่อระบบการเงินและ
เศรษฐกิจ 3) ดูแลด้านหนี้ครัวเรือนไม่ให้เพิ่มสูงมาก และ 4) ติดตามเครื่องชี้ที่อาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจ
ฟองสบู่ ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งมีความผันผวนในขณะนี้ ธปท.มีแนวทางการติดตามความเปลี่ยนแปลง
ของค่าเงินหลักของโลกและค่าเงินในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด โดยพยายามสร้างเสถียรภาพค่าเงินบาทให้มากที่สุด
(โลกวันนี้)
2. ก.คลังเตรียมนำ พ.ร.บ.การจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝากเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ผู้
ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้หารือกับ ก.คลังในเรื่องการจัดตั้งสถาบัน
ประกันเงินฝากให้เป็นรูปธรรม ซึ่งมีความคืบหน้าค่อนข้างมาก โดย ก.คลังจะนำแนวทางการจัดตั้ง และ
พ.ร.บ.การจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝากเข้าพิจารณาใน ครม. ภายในเดือน ก.พ.นี้ หลังจากนั้นจะนำเข้าสู่
การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ซึ่งเมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว ธปท.จะทยอยออกมาตรการ
ในการประกันเงินฝากทีละขั้นตอน และค่อยๆ ลดการประกันเงินฝากทั้งจำนวนของทุกสถาบันการเงินลง คาด
ว่าจะต้องใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 4 ปี จึงจะสามารถลดการประกันเงินฝากได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ แนวทาง
ของสถาบันประกันเงินฝาก จะให้ความคุ้มครองเงินฝากวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อสถาบันการเงินต่อบัญชี
โดยมีอัตราการประกันเงินฝากที่ลดหลั่นกันไปตามวงเงิน และมีอัตราขั้นต่ำที่จะคุ้มครองเงินฝากร้อยละ 10
สำหรับเงินฝากที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท (ผู้จัดการรายวัน)
3. แคลเปอร์สถอนการลงทุนจากไทยและอินเดีย สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า คณะ
กรรมการการลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือ แคลเปอร์ส ได้ลงมติที่จะ
ถอนการลงทุนจากไทยและอินเดีย และตัดชื่อทั้งสองประเทศออกจากบัญชีรายชื่อตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกที่สามารถ
เข้าไปลงทุนได้ เนื่องจากไทยและอินเดียได้คะแนนมาตรฐานการลงทุนจากแคลเปอร์สในปี 47 เท่ากัน 1.99
ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐาน 2.00 ที่เป็นคะแนนบ่งบอกว่าตลาดเกิดใหม่แห่งนั้นมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และสื่อมวลชนมี
อิสระเสรี และตลาดทุนมีโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตามนโยบายการลงทุนของแคลเปอร์ส จะมีการ
กระจายเม็ดเงินลงทุนในตลาดเกิดใหม่มากถึง 1.64 แสน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือประมาณ 5.65 ล้านล้าน
บาท (กรุงเทพธุรกิจ)
4. ธ.เอบีเอ็นแอมโร ขายหุ้น ธ.เอเชีย เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับรูปแบบของ ธพ.ตามแผน
พัฒนาระบบสถาบันการเงิน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ ธ.เอบีเอ็น แอมโร
จะขายหุ้นใหญ่ใน ธ.เอเชียนั้น เป็นไปตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ที่ ธพ.จะต้องเหลือเพียงสถานะ
เดียว ดังนั้น ธ.เอบีเอ็น แอมโร จึงไม่สามารถคงหุ้นใน ธ.เอเชียไว้ได้ ทั้งนี้ การขายหุ้นของ ธ.เอบีเอ็น
แอมโร เป็นที่ชัดเจนแล้ว แต่ยังไม่มีการยื่นแผนอย่างเป็นทางการมายัง ธปท. และในวันนี้ (19 ก.พ.47)
ธ.เอเชียจะเข้าหารือกับ ธปท.เกี่ยวกับการคงสถานะและการดำเนินงานในอนาคต (ผู้จัดการรายวัน)
5. เออาร์ทีปรับยุทธศาสตร์การจัดการสินเชื่อและเครดิตให้กับสมาชิกเพื่อแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงาน
ประธานกรรมการบริหาร บริษัทรวมค้าปลีกเข้มแข็ง จำกัด (เออาร์ที) เปิดเผยว่า การทำงานของเออาร์ที
ซึ่งมีนโยบายหลักในการช่วยเหลือธุรกิจค้าปลีกโชวห่วยของไทยจากการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติ ใน
ช่วงที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และมีปัญหาในการปฏิบัติงานมาก โดยไม่ได้รับการสนับสนุน
จากสถาบันการเงินและภาครัฐอย่างจริงจังตามที่มีการวางแผนไว้ ทำให้ต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ใหม่ โดยเอ
อาร์ทีได้เข้าดูแลการให้วงเงินสินเชื่อและเครดิตกับสมาชิกเองทั้งหมด ภายใต้การสนับสนุนจากบรรษัทเงินทุน
อุตสาหกรรมขนาดย่อม รวมทั้งเป็นผู้ช่วยจัดหาแหล่งเงินทุนให้กับสมาชิกด้วย อนึ่ง เออาร์ทีมี งปม.ที่ใช้หมุน
เวียนในกิจการประมาณ 100 ล.บาท ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจาก งปม.เดิมที่ได้รับจากรัฐบาลในครั้งแรกจำนวน
395 ล.บาท ซึ่งหลังจากเออาร์ทีเข้ามาดำเนินการด้านสินเชื่อกับสมาชิกเอง สามารถหาสมาชิกและให้เครดิต
แล้วกว่า 1,000 รายภายในเดือน ม.ค.47 เปรียบเทียบกับก่อนหน้าที่เออาร์ทีจะเข้ามาดำเนินการ มีสมาชิก
ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพียง 600 กว่ารายนับตั้งแต่เปิดตัวเออาร์ที ซึ่งถือเป็นอัตราที่น้อยมาก
(ผู้จัดการรายวัน)
6. ไทยพร้อมลงทุนในกองทุนเอเชียบอนด์ 2 จำนวน 1,000 ล.ดอลลาร์ สรอ. นรม. เปิด
เผยว่า รัฐบาลไทยพร้อมที่จะลงทุนในการจัดตั้งกองทุนพันธบัตรเอเชีย 2 (เอเชียบอนด์ 2) จำนวนเงิน
1,000 ล.ดอลลาร์ สรอ. โดยจะใช้เงินจากเงินกองทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งความคืบหน้าในการจัดตั้ง
กองทุนดังกล่าวจะมีการหารือกันในกลุ่มสมาชิก 11 ประเทศในเดือน เม.ย.47 ซึ่งอินเดียได้ยืนยันการลงทุน
แล้วจำนวน 1,000 ล.ดอลลาร์ สรอ. เช่นกัน (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. นักธูรกิจชั้นนำของ สรอ.เชื่อว่าเศรษฐกิจของ สรอ.ในปีนี้จะดีขึ้นแต่ยังระมัดระวังในการจ้าง
งานเพิ่ม รายงานจากโบคา เรตัน มลรัฐฟลอริด้าของ สรอ.เมื่อ 18 ก.พ.47 สภาธุรกิจของ สรอ.รายงาน
ผลสำรวจความเห็นของนักธุรกิจชั้นนำจำนวน 70 คน ปรากฎว่าร้อยละ 76 คาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัว
ระหว่างร้อยละ 3.6 และ 4.5 ในขณะที่ผลสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือน ต.ค.46 มีเพียงร้อยละ 55 ที่คาดว่า
เศรษฐกิจในปี 47 จะขยายตัวเกินร้อยละ 3.0 และเกือบทุกคนไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจของ สรอ.ยังอยู่ในภาวะ
ถดถอย แต่อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพในการผลิตและความไม่แน่ใจในอนาคตของธุรกิจทำให้มี
เพียงร้อยละ 31 ที่วางแผนจะเพิ่มอัตราการจ้างงานในปีนี้ ในขณะที่ผลสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือน ต.ค.46 มี
เพียงร้อยละ 14 ที่กล่าวเช่นนี้ อัตราการว่างงานของ สรอ.ในเดือน ม.ค.47 ลดลงเหลือร้อยละ 5.6 ต่ำ
สุดในรอบ 2 ปี แต่จำนวนงานที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เดือน ก.ย.46 มีเพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ต้องการเพื่อให้
อัตราการว่างงานอยู่ในระดับคงที่ โดยร้อยละ 83 ของผู้ถูกสำรวจคาดว่าอัตราการว่างงานในปีนี้จะลดลง
เหลืออยู่ระหว่างร้อยละ 5 และ 5.5 (รอยเตอร์)
2. ยอดการสร้างบ้านใหม่ของ สรอ. ในเดือน ม.ค.47 ลดลงร้อยละ 7.9 รายงานจากวอชิงตัน
เมื่อ 18 ก.พ.47 ก.พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ยอดการสร้างบ้านใหม่ของ สรอ. ในเดือน ม.ค.47 มี
จำนวน 1.903 ล้านหลัง ลดลงจากจำนวน 2.067 ล้านหลังในเดือนก่อนที่เป็นระดับสูงที่สุดตั้งแต่เดือน
ก.พ.27 หรือลดลงร้อยละ 7.9 (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) ทั้งนี้ ยอดการสร้างบ้านใหม่ในเดือน ม.ค.เป็น
ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ผลสำรวจรอยเตอร์ได้คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 2.0
ล้านหลัง ขณะเดียวกัน จำนวนการอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้ก่อสร้างในเดือน
ม.ค.47 ก็ลดลงร้อยละ 2.8 อยู่ที่จำนวน 1.899 ล้านหลัง จากจำนวน 1.953 ล้านหลังในเดือนก่อน สอด
คล้องกับที่นักวิเคราะห์ได้ประมาณการไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่ในอาศัยของ สรอ. ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน
มาอยู่ในภาวะรุ่งเรือง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองลดลงอยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2503 มา แต่เริ่ม
ขยับสูงขึ้นเล็กน้อยในเดือนก่อน จากการที่การฟื้นตัวทางเศรษบกิจของ สรอ.มีแนวโน้มที่แข็งแกร่งขึ้น และคาด
การณ์ต่อไปว่า ธุรกรรมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในปี 47 จะอ่อนแอลงเล็กน้อยจากปี 46 แต่ก็ยังคงมีภาพรวมที่ยังคง
แข็งแกร่งอยู่ (รอยเตอร์)
3. ยอดหนี้ของสรอ. สูงถึง 7 ล้าน ล้านดอลลาร์ สรอ. สูงสุดเป็นครั้งแรก รายงานจากวอชิงตัน
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 47 ก. คลัง สรอ.เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะของสรอ. เมื่อวันพุธที่ผ่านมาสูงถึง
7.015 ล้าน ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจาก 6.983 ล้าน ล้าน ดอลลาร์ สรอ. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อยู่ใน
ระดับที่สภาคองเกรสกำหนดไว้ไม่ให้เกินกว่านี้ (รอยเตอร์)
4. สหภาพยุโรปเห็นควรให้เพิ่มความยืดหยุ่นในข้อตกลงการขาดดุล งปม. ของประเทศสมาชิก
รายงานจากลอนดอนเมื่อวันที่ 18 ก.พ.47 Patrica Hewitt รัฐมนตรีการค้าของอังกฤษเปิดเผยว่า ที่
ประชุม 3 ประเทศมหาอำนาจของสหภาพยุโรป ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ซึ่งจัดการประชุมที่กรุง
เบอร์ลินของเยอรมันในวันนี้ เห็นชอบให้มีการแก้ไขข้อตกลงการขาดดุล งปม. ของประเทศสมาชิกสหภาพ
ยุโรปให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งนี้ เพราะในระยะหลายปีมานี้ ฝรั่งเศสและเยอรมันได้ละเมิดข้อตกลงดัง
กล่าวที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกมี งปม.ขาดดุลได้ไม่เกินร้อยละ 3 ซึ่งทั้งสองประเทศมักจะอ้างว่าต้องใช้จ่าย
งบประมาณมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ จึงทำให้ งปม.ของประเทศขาดดุลเกินกว่าร้อยละ 3
นอกจากนี้ ข้อสรุปของการประชุมครั้งนี้ยังมีความต้องการให้เพิ่มขีดความสามารถของประชาชนในการเริ่มต้น
ทำธุรกิจและเติบโตขึ้นในยุโรป รวมถึงขจัดปัญหาระบบการทำงานที่ล่าช้า และเพิ่มการจัดทำวิจัยและพัฒนาให้
มากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ จะต้องมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้อย่างเคร่งครัด และเมื่อเกิดปัญหา
เศรษฐกิจตกต่ำหรือการเติบโตลดลง รัฐจะต้องมีนโยบายต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที
(รอยเตอร์)
5. อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้ในเดือน ม.ค.47 ลดลงร้อยละ 3.3 รายงานจากโซล เมื่อ
19 ก.พ.47 สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้ในเดือน ม.ค.47
ลดลงร้อยละ 3.3 จากที่ลดลงร้อยละ 3.5 ในเดือนก่อน (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) นับว่าอยู่ในระดับต่ำเป็น
เดือนที่ 2 และอยู่ในระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน เม.ย.46 โดยจำนวนการจ้างงานในเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้นจำนวน
22.59 ล้านคน จากจำนวน 22.28 ล้านคนในเดือน ธ.ค.46 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4
นอกจากนี้ ภาวะการส่งออกของเกาหลีใต้ที่ขยายตัวถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะการส่งออกไปยัง
ประเทศจีน ก็เป็นสิ่งช่วยสนับสนุนให้เกาหลีใต้ (ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ
4 ในทวีปเอเชีย) ก้าวพ้นจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเมื่อปลายปีก่อน แต่ผู้กำหนดนโยบายการเงินยังคง
กังวลเกี่ยวกับการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นได้ ทั้งนี้
ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ (Roh Moo-hyun) ได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาว่า รัฐบาล
เลือกที่จะดำเนินนโยบายด้านการสร้างงานในประเทศเป็นลำดับแรกของปีนี้ แต่สมาชิกฝ่ายค้านและองค์กรภาค
เอกชนคาดว่าตลาดแรงงานของเกาหลีใต้ยังไม่น่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในปีนี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้
ประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้จะขยายตัวมากกว่าร้อยละ 5 ในปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่ประมาณการ
ไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.9 ในปี 46 แต่การบริโภคภาคเอกชนในประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้นในปลายปี 47 (รอยเตอร์)
6. ราคาน้ำมันดิบสรอ. เพิ่มขึ้นเหนือระดับบาร์เรลละ 35 ดอลลาร์ สรอ. รายงานจากนิวยอร์ก
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 47 ราคาน้ำมันสรอ. เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากคาดว่าสต็อกน้ำมันสรอ.
ซึ่งเป็นผู้ใช้พลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลกลดลง โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบล่วงหน้าในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 26
เซนต์หรือร้อยละ 0.7 อยู่ที่ระดับ 35.45 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล เกือบถึงระดับบาร์เรลละ 36 ดอลลาร์
สรอ. ซึ่งเป็นระดับราคาในเดือนม.ค. เมื่อกลุ่ม OPEC ประกาศจะลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงเพื่อให้ราคา
น้ำมันมีเสถียรภาพ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 19/2/47 18/2/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.02 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.8359/39.1305 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.8750 - 1.2800 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 742.33/19.91 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,550/7,650 7,600/7,700 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 29.59 29.57 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. ธปท.อยู่ระหว่างพิจารณาการใช้มาตรฐาน Basel 2 ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (
ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.อยู่ระหว่างเตรียมนำมาตรฐานการกำกับดูแลสถาบันการเงินฉบับใหม่ของธนาคาร
เพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) หรือ Basel 2 มาใช้ในการกำกับสถาบันการเงินไทย โดย
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาและตัวมาตรฐานใหม่ที่จะเหมาะสมกับระบบการเงินของไทย และคาด
ว่าภายในเดือน มิ.ย.47 จะสามารถประกาศอย่างเป็นทางการได้เกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะนำมาตรฐานมาใช้
และรายละเอียดของมาตรฐานดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวถึงแนวนโยบายทางการเงินของ
ธปท.ในปี 47 ว่า ธปท.เน้นดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญใน 4 เรื่อง คือ 1) ดูแลฐานะด้านต่าง
ประเทศให้มั่นคง 2) ดูแลไม่ให้เกิดการเก็งกำไรในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนสร้างปัญหาต่อระบบการเงินและ
เศรษฐกิจ 3) ดูแลด้านหนี้ครัวเรือนไม่ให้เพิ่มสูงมาก และ 4) ติดตามเครื่องชี้ที่อาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจ
ฟองสบู่ ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งมีความผันผวนในขณะนี้ ธปท.มีแนวทางการติดตามความเปลี่ยนแปลง
ของค่าเงินหลักของโลกและค่าเงินในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด โดยพยายามสร้างเสถียรภาพค่าเงินบาทให้มากที่สุด
(โลกวันนี้)
2. ก.คลังเตรียมนำ พ.ร.บ.การจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝากเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ผู้
ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้หารือกับ ก.คลังในเรื่องการจัดตั้งสถาบัน
ประกันเงินฝากให้เป็นรูปธรรม ซึ่งมีความคืบหน้าค่อนข้างมาก โดย ก.คลังจะนำแนวทางการจัดตั้ง และ
พ.ร.บ.การจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝากเข้าพิจารณาใน ครม. ภายในเดือน ก.พ.นี้ หลังจากนั้นจะนำเข้าสู่
การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ซึ่งเมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว ธปท.จะทยอยออกมาตรการ
ในการประกันเงินฝากทีละขั้นตอน และค่อยๆ ลดการประกันเงินฝากทั้งจำนวนของทุกสถาบันการเงินลง คาด
ว่าจะต้องใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 4 ปี จึงจะสามารถลดการประกันเงินฝากได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ แนวทาง
ของสถาบันประกันเงินฝาก จะให้ความคุ้มครองเงินฝากวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อสถาบันการเงินต่อบัญชี
โดยมีอัตราการประกันเงินฝากที่ลดหลั่นกันไปตามวงเงิน และมีอัตราขั้นต่ำที่จะคุ้มครองเงินฝากร้อยละ 10
สำหรับเงินฝากที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท (ผู้จัดการรายวัน)
3. แคลเปอร์สถอนการลงทุนจากไทยและอินเดีย สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า คณะ
กรรมการการลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือ แคลเปอร์ส ได้ลงมติที่จะ
ถอนการลงทุนจากไทยและอินเดีย และตัดชื่อทั้งสองประเทศออกจากบัญชีรายชื่อตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกที่สามารถ
เข้าไปลงทุนได้ เนื่องจากไทยและอินเดียได้คะแนนมาตรฐานการลงทุนจากแคลเปอร์สในปี 47 เท่ากัน 1.99
ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐาน 2.00 ที่เป็นคะแนนบ่งบอกว่าตลาดเกิดใหม่แห่งนั้นมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และสื่อมวลชนมี
อิสระเสรี และตลาดทุนมีโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตามนโยบายการลงทุนของแคลเปอร์ส จะมีการ
กระจายเม็ดเงินลงทุนในตลาดเกิดใหม่มากถึง 1.64 แสน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือประมาณ 5.65 ล้านล้าน
บาท (กรุงเทพธุรกิจ)
4. ธ.เอบีเอ็นแอมโร ขายหุ้น ธ.เอเชีย เป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับรูปแบบของ ธพ.ตามแผน
พัฒนาระบบสถาบันการเงิน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ ธ.เอบีเอ็น แอมโร
จะขายหุ้นใหญ่ใน ธ.เอเชียนั้น เป็นไปตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ที่ ธพ.จะต้องเหลือเพียงสถานะ
เดียว ดังนั้น ธ.เอบีเอ็น แอมโร จึงไม่สามารถคงหุ้นใน ธ.เอเชียไว้ได้ ทั้งนี้ การขายหุ้นของ ธ.เอบีเอ็น
แอมโร เป็นที่ชัดเจนแล้ว แต่ยังไม่มีการยื่นแผนอย่างเป็นทางการมายัง ธปท. และในวันนี้ (19 ก.พ.47)
ธ.เอเชียจะเข้าหารือกับ ธปท.เกี่ยวกับการคงสถานะและการดำเนินงานในอนาคต (ผู้จัดการรายวัน)
5. เออาร์ทีปรับยุทธศาสตร์การจัดการสินเชื่อและเครดิตให้กับสมาชิกเพื่อแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงาน
ประธานกรรมการบริหาร บริษัทรวมค้าปลีกเข้มแข็ง จำกัด (เออาร์ที) เปิดเผยว่า การทำงานของเออาร์ที
ซึ่งมีนโยบายหลักในการช่วยเหลือธุรกิจค้าปลีกโชวห่วยของไทยจากการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติ ใน
ช่วงที่ผ่านมายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร และมีปัญหาในการปฏิบัติงานมาก โดยไม่ได้รับการสนับสนุน
จากสถาบันการเงินและภาครัฐอย่างจริงจังตามที่มีการวางแผนไว้ ทำให้ต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ใหม่ โดยเอ
อาร์ทีได้เข้าดูแลการให้วงเงินสินเชื่อและเครดิตกับสมาชิกเองทั้งหมด ภายใต้การสนับสนุนจากบรรษัทเงินทุน
อุตสาหกรรมขนาดย่อม รวมทั้งเป็นผู้ช่วยจัดหาแหล่งเงินทุนให้กับสมาชิกด้วย อนึ่ง เออาร์ทีมี งปม.ที่ใช้หมุน
เวียนในกิจการประมาณ 100 ล.บาท ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจาก งปม.เดิมที่ได้รับจากรัฐบาลในครั้งแรกจำนวน
395 ล.บาท ซึ่งหลังจากเออาร์ทีเข้ามาดำเนินการด้านสินเชื่อกับสมาชิกเอง สามารถหาสมาชิกและให้เครดิต
แล้วกว่า 1,000 รายภายในเดือน ม.ค.47 เปรียบเทียบกับก่อนหน้าที่เออาร์ทีจะเข้ามาดำเนินการ มีสมาชิก
ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพียง 600 กว่ารายนับตั้งแต่เปิดตัวเออาร์ที ซึ่งถือเป็นอัตราที่น้อยมาก
(ผู้จัดการรายวัน)
6. ไทยพร้อมลงทุนในกองทุนเอเชียบอนด์ 2 จำนวน 1,000 ล.ดอลลาร์ สรอ. นรม. เปิด
เผยว่า รัฐบาลไทยพร้อมที่จะลงทุนในการจัดตั้งกองทุนพันธบัตรเอเชีย 2 (เอเชียบอนด์ 2) จำนวนเงิน
1,000 ล.ดอลลาร์ สรอ. โดยจะใช้เงินจากเงินกองทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งความคืบหน้าในการจัดตั้ง
กองทุนดังกล่าวจะมีการหารือกันในกลุ่มสมาชิก 11 ประเทศในเดือน เม.ย.47 ซึ่งอินเดียได้ยืนยันการลงทุน
แล้วจำนวน 1,000 ล.ดอลลาร์ สรอ. เช่นกัน (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. นักธูรกิจชั้นนำของ สรอ.เชื่อว่าเศรษฐกิจของ สรอ.ในปีนี้จะดีขึ้นแต่ยังระมัดระวังในการจ้าง
งานเพิ่ม รายงานจากโบคา เรตัน มลรัฐฟลอริด้าของ สรอ.เมื่อ 18 ก.พ.47 สภาธุรกิจของ สรอ.รายงาน
ผลสำรวจความเห็นของนักธุรกิจชั้นนำจำนวน 70 คน ปรากฎว่าร้อยละ 76 คาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัว
ระหว่างร้อยละ 3.6 และ 4.5 ในขณะที่ผลสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือน ต.ค.46 มีเพียงร้อยละ 55 ที่คาดว่า
เศรษฐกิจในปี 47 จะขยายตัวเกินร้อยละ 3.0 และเกือบทุกคนไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจของ สรอ.ยังอยู่ในภาวะ
ถดถอย แต่อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพในการผลิตและความไม่แน่ใจในอนาคตของธุรกิจทำให้มี
เพียงร้อยละ 31 ที่วางแผนจะเพิ่มอัตราการจ้างงานในปีนี้ ในขณะที่ผลสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือน ต.ค.46 มี
เพียงร้อยละ 14 ที่กล่าวเช่นนี้ อัตราการว่างงานของ สรอ.ในเดือน ม.ค.47 ลดลงเหลือร้อยละ 5.6 ต่ำ
สุดในรอบ 2 ปี แต่จำนวนงานที่เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เดือน ก.ย.46 มีเพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ต้องการเพื่อให้
อัตราการว่างงานอยู่ในระดับคงที่ โดยร้อยละ 83 ของผู้ถูกสำรวจคาดว่าอัตราการว่างงานในปีนี้จะลดลง
เหลืออยู่ระหว่างร้อยละ 5 และ 5.5 (รอยเตอร์)
2. ยอดการสร้างบ้านใหม่ของ สรอ. ในเดือน ม.ค.47 ลดลงร้อยละ 7.9 รายงานจากวอชิงตัน
เมื่อ 18 ก.พ.47 ก.พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ยอดการสร้างบ้านใหม่ของ สรอ. ในเดือน ม.ค.47 มี
จำนวน 1.903 ล้านหลัง ลดลงจากจำนวน 2.067 ล้านหลังในเดือนก่อนที่เป็นระดับสูงที่สุดตั้งแต่เดือน
ก.พ.27 หรือลดลงร้อยละ 7.9 (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) ทั้งนี้ ยอดการสร้างบ้านใหม่ในเดือน ม.ค.เป็น
ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ผลสำรวจรอยเตอร์ได้คาดการณ์ว่าจะลดลงอยู่ที่ระดับ 2.0
ล้านหลัง ขณะเดียวกัน จำนวนการอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้ก่อสร้างในเดือน
ม.ค.47 ก็ลดลงร้อยละ 2.8 อยู่ที่จำนวน 1.899 ล้านหลัง จากจำนวน 1.953 ล้านหลังในเดือนก่อน สอด
คล้องกับที่นักวิเคราะห์ได้ประมาณการไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่ในอาศัยของ สรอ. ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่าน
มาอยู่ในภาวะรุ่งเรือง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองลดลงอยู่ในระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2503 มา แต่เริ่ม
ขยับสูงขึ้นเล็กน้อยในเดือนก่อน จากการที่การฟื้นตัวทางเศรษบกิจของ สรอ.มีแนวโน้มที่แข็งแกร่งขึ้น และคาด
การณ์ต่อไปว่า ธุรกรรมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในปี 47 จะอ่อนแอลงเล็กน้อยจากปี 46 แต่ก็ยังคงมีภาพรวมที่ยังคง
แข็งแกร่งอยู่ (รอยเตอร์)
3. ยอดหนี้ของสรอ. สูงถึง 7 ล้าน ล้านดอลลาร์ สรอ. สูงสุดเป็นครั้งแรก รายงานจากวอชิงตัน
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 47 ก. คลัง สรอ.เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะของสรอ. เมื่อวันพุธที่ผ่านมาสูงถึง
7.015 ล้าน ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจาก 6.983 ล้าน ล้าน ดอลลาร์ สรอ. เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อยู่ใน
ระดับที่สภาคองเกรสกำหนดไว้ไม่ให้เกินกว่านี้ (รอยเตอร์)
4. สหภาพยุโรปเห็นควรให้เพิ่มความยืดหยุ่นในข้อตกลงการขาดดุล งปม. ของประเทศสมาชิก
รายงานจากลอนดอนเมื่อวันที่ 18 ก.พ.47 Patrica Hewitt รัฐมนตรีการค้าของอังกฤษเปิดเผยว่า ที่
ประชุม 3 ประเทศมหาอำนาจของสหภาพยุโรป ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ซึ่งจัดการประชุมที่กรุง
เบอร์ลินของเยอรมันในวันนี้ เห็นชอบให้มีการแก้ไขข้อตกลงการขาดดุล งปม. ของประเทศสมาชิกสหภาพ
ยุโรปให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งนี้ เพราะในระยะหลายปีมานี้ ฝรั่งเศสและเยอรมันได้ละเมิดข้อตกลงดัง
กล่าวที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกมี งปม.ขาดดุลได้ไม่เกินร้อยละ 3 ซึ่งทั้งสองประเทศมักจะอ้างว่าต้องใช้จ่าย
งบประมาณมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ จึงทำให้ งปม.ของประเทศขาดดุลเกินกว่าร้อยละ 3
นอกจากนี้ ข้อสรุปของการประชุมครั้งนี้ยังมีความต้องการให้เพิ่มขีดความสามารถของประชาชนในการเริ่มต้น
ทำธุรกิจและเติบโตขึ้นในยุโรป รวมถึงขจัดปัญหาระบบการทำงานที่ล่าช้า และเพิ่มการจัดทำวิจัยและพัฒนาให้
มากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ จะต้องมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้อย่างเคร่งครัด และเมื่อเกิดปัญหา
เศรษฐกิจตกต่ำหรือการเติบโตลดลง รัฐจะต้องมีนโยบายต่าง ๆ ในการแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที
(รอยเตอร์)
5. อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้ในเดือน ม.ค.47 ลดลงร้อยละ 3.3 รายงานจากโซล เมื่อ
19 ก.พ.47 สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานของเกาหลีใต้ในเดือน ม.ค.47
ลดลงร้อยละ 3.3 จากที่ลดลงร้อยละ 3.5 ในเดือนก่อน (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) นับว่าอยู่ในระดับต่ำเป็น
เดือนที่ 2 และอยู่ในระดับต่ำที่สุดตั้งแต่เดือน เม.ย.46 โดยจำนวนการจ้างงานในเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้นจำนวน
22.59 ล้านคน จากจำนวน 22.28 ล้านคนในเดือน ธ.ค.46 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4
นอกจากนี้ ภาวะการส่งออกของเกาหลีใต้ที่ขยายตัวถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะการส่งออกไปยัง
ประเทศจีน ก็เป็นสิ่งช่วยสนับสนุนให้เกาหลีใต้ (ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ
4 ในทวีปเอเชีย) ก้าวพ้นจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเมื่อปลายปีก่อน แต่ผู้กำหนดนโยบายการเงินยังคง
กังวลเกี่ยวกับการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นได้ ทั้งนี้
ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ (Roh Moo-hyun) ได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลเมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาว่า รัฐบาล
เลือกที่จะดำเนินนโยบายด้านการสร้างงานในประเทศเป็นลำดับแรกของปีนี้ แต่สมาชิกฝ่ายค้านและองค์กรภาค
เอกชนคาดว่าตลาดแรงงานของเกาหลีใต้ยังไม่น่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในปีนี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้
ประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้จะขยายตัวมากกว่าร้อยละ 5 ในปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่ประมาณการ
ไว้ว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.9 ในปี 46 แต่การบริโภคภาคเอกชนในประเทศจะฟื้นตัวดีขึ้นในปลายปี 47 (รอยเตอร์)
6. ราคาน้ำมันดิบสรอ. เพิ่มขึ้นเหนือระดับบาร์เรลละ 35 ดอลลาร์ สรอ. รายงานจากนิวยอร์ก
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 47 ราคาน้ำมันสรอ. เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากคาดว่าสต็อกน้ำมันสรอ.
ซึ่งเป็นผู้ใช้พลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลกลดลง โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบล่วงหน้าในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 26
เซนต์หรือร้อยละ 0.7 อยู่ที่ระดับ 35.45 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล เกือบถึงระดับบาร์เรลละ 36 ดอลลาร์
สรอ. ซึ่งเป็นระดับราคาในเดือนม.ค. เมื่อกลุ่ม OPEC ประกาศจะลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงเพื่อให้ราคา
น้ำมันมีเสถียรภาพ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 19/2/47 18/2/47 31/12/46 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.02 39.622 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.8359/39.1305 39.4435/39.7378 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.8750 - 1.2800 1.2800 - 1.3000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 742.33/19.91 772.15/41.74 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,550/7,650 7,600/7,700 7,700/7,800 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 29.59 29.57 28.66 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 16.99*/14.59* 16.99*/14.59* 17.29*/14.39 ปตท.
* ปรับเลด เมื่อ 10 ม.ค.47 ตามนโยบายรักษาเสถึยรภาพราคาน้ำมันของรัฐบาล
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-