ปัจจุบันประเทศต่างๆ รวมทั้งไทยหันมาเปิดการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรี (Free Trade Area: FTA) ระหว่างกันมากขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าให้เหลือน้อยที่สุด โดยเฉพาะการลดภาษีระหว่างกันให้เหลือร้อยละ 0 อย่างไรก็ตาม การลดภาษีศุลกากรระหว่างกันมีเกณฑ์การพิจารณาว่าสินค้านั้นต้องมีแหล่งกำเนิดจากประเทศสมาชิกที่ทำ FTA ร่วมกันเท่านั้น การมีเครื่องบ่งชี้ว่าสินค้าที่ค้าขายกันมีแหล่งกำเนิดจากประเทศใดจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้าระหว่างกัน
“กฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า” (Rules of Origin: ROO) เป็นหลักเกณฑ์สำคัญที่ประเทศผู้นำเข้าใช้ในการพิจารณาว่าสินค้าที่นำเข้าจากประเทศคู่ค้ามีแหล่งกำเนิดในประเทศใด ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ที่ทำ FTA กันสามารถกำหนดเกณฑ์การพิจารณาแหล่งกำเนิดสินค้าได้เองซึ่งอาจแตกต่างกันในแต่ละเขตการค้า
โดยทั่วไป หลักเกณฑ์การพิจารณาแหล่งกำเนิดสินค้า แบ่งเป็น 3 เกณฑ์ ดังนี้
1. Wholly Obtained (WO) ถือตามแหล่งผลิตสินค้าเป็นสำคัญ โดยสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศหนึ่ง หมายถึงสินค้าที่ผลิตโดยใช้วัตถุดิบในประเทศนั้นทั้งหมด ได้แก่ สินค้าที่ได้จากธรรมชาติหรือใช้วัตถุดิบในประเทศ 100% เช่น เพชร ไข่มุก ปลา ข้าว และข้าวนึ่ง เป็นต้น
สินค้าที่มีการนำเข้าวัตถุดิบต้นทางบางส่วนหรือทั้งหมดจากต่างประเทศ แต่มีการผลิตในประเทศนั้นทุกขั้นตอนการผลิต เช่น ประเทศ A นำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศมาผลิตเป็นพลาสติกในประเทศ ดังนั้น พลาสติกจึงถือเป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศ A เป็นต้น
2. Substantial Transformation (ST) ถือตามขั้นตอนการผลิตและการแปรรูปสินค้าเป็นสำคัญ โดยสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศหนึ่ง หมายถึง สินค้าที่มี “การแปรสภาพที่เพียงพอ” (Substantial Transformation) ระหว่างวัตถุดิบที่นำเข้ากับสินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตโดยใช้วัตถุดิบดังกล่าวในประเทศนั้น ซึ่งเกณฑ์ที่นิยมใช้ในการพิจารณาว่าสินค้าใดเป็นสินค้าที่มีการแปรสภาพที่เพียงพอ ได้แก่ “เกณฑ์การเปลี่ยนพิกัดอัตราศุลกากร” (Change in Tariff Classification: CTC) เช่น ประเทศ A นำเข้าเส้นด้ายซึ่งอยู่ในพิกัดย่อยที่ 6812.20 มาแปรรูปเป็นผ้า ซึ่งมีพิกัดย่อยเปลี่ยนเป็น 6812.40 ดังนั้น เมื่อประเทศ A ส่งผ้าออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศให้ถือว่าผ้านั้นมีแหล่งกำเนิดจากประเทศ A เป็นต้น
3. Local Value Content (LVC) ถือตามสัดส่วนของต้นทุนการใช้วัตถุดิบในประเทศ (Local Content) ต่อราคาสินค้าส่งออกเป็นสำคัญ (ต้นทุนการใช้วัตถุดิบในประเทศ คำนวณจากผลรวมของราคาวัตถุดิบในประเทศกับต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในประเทศ) ซึ่งหากสินค้าที่ผลิตในประเทศหนึ่งมีสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศมากกว่าหรือเท่ากับสัดส่วนที่กำหนดไว้ ให้ถือว่าสินค้าดังกล่าวมีแหล่งกำเนิดจากประเทศนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า LVC เป็นเกณฑ์ที่ประเทศต่างๆ นิยมใช้อย่างแพร่หลายในการทำ FTA ระหว่างกัน สำหรับเกณฑ์ที่ประเทศไทยใช้เป็นส่วนใหญ่นั้น สินค้าที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศ คือ สินค้าที่มีต้นทุนการใช้วัตถุดิบในประเทศคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของราคาสินค้าส่งออก (f.o.b.)
แม้การทำ FTA จะทำให้อุปสรรคด้านภาษีลดลง แต่ผู้ส่งออกที่ต้องการใช้สิทธิ์จากการลดภาษีภายใต้ FTA จำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของแหล่งกำเนิดสินค้าอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้ประเทศคู่ค้าปฏิเสธการลดภาษี ทั้งนี้ ผู้ส่งออกสามารถขอรับหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าได้ที่กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
การพิจารณาแหล่งกำเนิดสินค้าโดยใช้ LVC ภายใต้ FTA ระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ
ประเทศ/กลุ่มประเทศ LVC หนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า
AFTA ร้อยละ 40 ของราคาสินค้าส่งออก Form D
สำหรับสินค้าทุกรายการที่อยู่ในข้อตกลง
การลดอัตราภาษีศุลกากรระหว่างกัน
บาห์เรน ร้อยละ 40 ของราคาสินค้าส่งออก Form FTA
สำหรับสินค้าในรายการเร่งลดภาษี
(Early Harvest) จำนวน 626 รายการ
ซึ่งมีการลดอัตราภาษีศุลกากรเหลือร้อยละ 0
และ ร้อยละ 3 ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2545
เป็นต้นมา
จีน ร้อยละ 40 ของราคาสินค้าส่งออก สำหรับสินค้า Form E ตามกรอบ
ในพิกัดอัตราศุลกากรตอนที่ 07 และ 08 ได้แก่ ความร่วมมือ
ผักและผลไม้ทุกชนิด ซึ่งมีการลดอัตราภาษีเหลือ ASEAN - จีน
ร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546 เป็นต้นมา
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กุมภาพันธ์ 2547--
-พห-
“กฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า” (Rules of Origin: ROO) เป็นหลักเกณฑ์สำคัญที่ประเทศผู้นำเข้าใช้ในการพิจารณาว่าสินค้าที่นำเข้าจากประเทศคู่ค้ามีแหล่งกำเนิดในประเทศใด ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ที่ทำ FTA กันสามารถกำหนดเกณฑ์การพิจารณาแหล่งกำเนิดสินค้าได้เองซึ่งอาจแตกต่างกันในแต่ละเขตการค้า
โดยทั่วไป หลักเกณฑ์การพิจารณาแหล่งกำเนิดสินค้า แบ่งเป็น 3 เกณฑ์ ดังนี้
1. Wholly Obtained (WO) ถือตามแหล่งผลิตสินค้าเป็นสำคัญ โดยสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศหนึ่ง หมายถึงสินค้าที่ผลิตโดยใช้วัตถุดิบในประเทศนั้นทั้งหมด ได้แก่ สินค้าที่ได้จากธรรมชาติหรือใช้วัตถุดิบในประเทศ 100% เช่น เพชร ไข่มุก ปลา ข้าว และข้าวนึ่ง เป็นต้น
สินค้าที่มีการนำเข้าวัตถุดิบต้นทางบางส่วนหรือทั้งหมดจากต่างประเทศ แต่มีการผลิตในประเทศนั้นทุกขั้นตอนการผลิต เช่น ประเทศ A นำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศมาผลิตเป็นพลาสติกในประเทศ ดังนั้น พลาสติกจึงถือเป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศ A เป็นต้น
2. Substantial Transformation (ST) ถือตามขั้นตอนการผลิตและการแปรรูปสินค้าเป็นสำคัญ โดยสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศหนึ่ง หมายถึง สินค้าที่มี “การแปรสภาพที่เพียงพอ” (Substantial Transformation) ระหว่างวัตถุดิบที่นำเข้ากับสินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตโดยใช้วัตถุดิบดังกล่าวในประเทศนั้น ซึ่งเกณฑ์ที่นิยมใช้ในการพิจารณาว่าสินค้าใดเป็นสินค้าที่มีการแปรสภาพที่เพียงพอ ได้แก่ “เกณฑ์การเปลี่ยนพิกัดอัตราศุลกากร” (Change in Tariff Classification: CTC) เช่น ประเทศ A นำเข้าเส้นด้ายซึ่งอยู่ในพิกัดย่อยที่ 6812.20 มาแปรรูปเป็นผ้า ซึ่งมีพิกัดย่อยเปลี่ยนเป็น 6812.40 ดังนั้น เมื่อประเทศ A ส่งผ้าออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศให้ถือว่าผ้านั้นมีแหล่งกำเนิดจากประเทศ A เป็นต้น
3. Local Value Content (LVC) ถือตามสัดส่วนของต้นทุนการใช้วัตถุดิบในประเทศ (Local Content) ต่อราคาสินค้าส่งออกเป็นสำคัญ (ต้นทุนการใช้วัตถุดิบในประเทศ คำนวณจากผลรวมของราคาวัตถุดิบในประเทศกับต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในประเทศ) ซึ่งหากสินค้าที่ผลิตในประเทศหนึ่งมีสัดส่วนการใช้วัตถุดิบในประเทศมากกว่าหรือเท่ากับสัดส่วนที่กำหนดไว้ ให้ถือว่าสินค้าดังกล่าวมีแหล่งกำเนิดจากประเทศนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า LVC เป็นเกณฑ์ที่ประเทศต่างๆ นิยมใช้อย่างแพร่หลายในการทำ FTA ระหว่างกัน สำหรับเกณฑ์ที่ประเทศไทยใช้เป็นส่วนใหญ่นั้น สินค้าที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศ คือ สินค้าที่มีต้นทุนการใช้วัตถุดิบในประเทศคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของราคาสินค้าส่งออก (f.o.b.)
แม้การทำ FTA จะทำให้อุปสรรคด้านภาษีลดลง แต่ผู้ส่งออกที่ต้องการใช้สิทธิ์จากการลดภาษีภายใต้ FTA จำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของแหล่งกำเนิดสินค้าอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้ประเทศคู่ค้าปฏิเสธการลดภาษี ทั้งนี้ ผู้ส่งออกสามารถขอรับหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าได้ที่กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
การพิจารณาแหล่งกำเนิดสินค้าโดยใช้ LVC ภายใต้ FTA ระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ
ประเทศ/กลุ่มประเทศ LVC หนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า
AFTA ร้อยละ 40 ของราคาสินค้าส่งออก Form D
สำหรับสินค้าทุกรายการที่อยู่ในข้อตกลง
การลดอัตราภาษีศุลกากรระหว่างกัน
บาห์เรน ร้อยละ 40 ของราคาสินค้าส่งออก Form FTA
สำหรับสินค้าในรายการเร่งลดภาษี
(Early Harvest) จำนวน 626 รายการ
ซึ่งมีการลดอัตราภาษีศุลกากรเหลือร้อยละ 0
และ ร้อยละ 3 ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2545
เป็นต้นมา
จีน ร้อยละ 40 ของราคาสินค้าส่งออก สำหรับสินค้า Form E ตามกรอบ
ในพิกัดอัตราศุลกากรตอนที่ 07 และ 08 ได้แก่ ความร่วมมือ
ผักและผลไม้ทุกชนิด ซึ่งมีการลดอัตราภาษีเหลือ ASEAN - จีน
ร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546 เป็นต้นมา
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย กุมภาพันธ์ 2547--
-พห-