นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ช่วยผุ้สมัครหาเสียงและได้กล่าวดจมตีพรรคประชาธิปัตย์ในระหว่างปราศรัยตนเห็นว่าพรรคไทยรักไทยก็ยังมีพฤติกรรมโจมตีพรรคการเมืองอื่น และพูดอย่างทำอย่างตลอดเวลา ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าประชาธิปัตย์เอาแต่ด่า แต่ความเป็นจริงก็ปรากฏชัดเจน ในการปราศรัยของพรรคไทยรักไทย ค่ำวานนี้ว่า ได้มีการพูดด่าพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ตลอดเวลา ใช้ถ่อยคำเสียดสี หยาบคาย โดยไม่ได้พูดถึงนโยบายที่เป็นชิ้นเป็นอัน ถ้านายกฯว่าคนอื่นเอาแต่ด่าเป็นเรื่องไม่ดีไม่ถูกต้อง นายกฯก็ไม่ควรทำ ในสิ่งที่ไปด่าคนอื่นไว้ ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล ก็น่าจะมีนโยบายของรัฐบาลมาปราศรัย มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ปรากฎว่า เมื่อขึ้นเวทีปราศรัยทีไรกลับด่ามากกว่าพรรคประชาธิปัตย์
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุว่า ถ้าประชาชนอยากยากจนก็ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ตนอยากเตือนความจำนายกฯว่าคนที่รวยที่สุดคนหนึ่งในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ชื่อทักษิณ ไม่ใช่หรือ ไม่เห็นท่านจนเลย และทุกวันนี้เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นรัฐบาลเอง ก็ยิ่งรวยยิ่งขึ้น จากการพยายามทุจริตเชิงนโยบายและมีผลประโยชน์ ทับซ้อน ในหลายกรณี เช่นการออกพรก.ภาษีสรรพสามิต เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทตนเอง กรณีไอทีวี เป็นต้น ขณะที่ชาวบ้านกลับมีแต่จนลง มีหนี้เพิ่มขึ้น ตัวเลขของทางราชการก็ระบุชัดว่าในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล หนี้สินครัวเรือนมีประมาณ 30,000 ล้านบาท ขณะที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 80,000 กว่าล้านบาท
นายองอาจ กล่าวว่า ตลอด 58 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้พิสูจน์แล้วว่าทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถยืนหยัดทางการเมืองได้ยาวนานเช่นนี้ และพรรคยังได้เข้ามาแบกรับการทำงานหลังจากเกิดวิกฤติต่างๆ ทั้งทาง การเมือง เศรษฐกิจ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ประชาชน โดยเฉพาะชาวภาคใต้ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ตลอดมา ส่วนที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทยระบุพื้นที่ภาคใต้เป็นเพชรแต่ประชาธิปัตย์ กลับเจียรไนไม่เป็น มีแต่จ้องขโมยเพชรนั้น พรรคยอมรับว่าภาคใต้เป็นเพชรจริง เพราะมีคุณค่าอยู่ในตัวเอง ไม่ยอมให้ใครมาขโมยหรือมาทำลายเพชร ขณะที่นายกฯ อ้างว่าจะมาเจียรไนเพชร หรือภาคใต้นั้นภายใน 3 ปี ให้มีคุณค่าขึ้นมานั้น ตนอยากถามว่ารัฐบาลเจียรไนภาคใต้มา 3 ปี แล้ว ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ถ้ามีฝีมือจริง 3 ปีก็ต้องเห็นผลบ้างแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเจียรไนอย่างไร จนภาคใต้จะลุกเป็นไฟ จนค่ายทหารถูกปล้นปืน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองถูกฆ่าตายทุกวัน
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะพยายามใช้อำนาจรัฐและทุ่มเทเงินทองลงในพื้นที่มากเท่าไร่ก็ตาม คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกที่ถูกต้องของคนภาคใต้ได้ ดังนันตนจึงเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้คนสงขลาจะสอนพรรคไทยรักไทย ให้สำนึกว่าเงินไม่สามารถซื้อคนใต้ได้ ซึ่งในวันที่ 22 กุมพาพันธ์ นี้จะเป็นการพิสูจน์ธาตุแท้ของคนใต้อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังตั้งข้อสังเกตว่าทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงได้เรียกประชุมผู้ว่าราชการทั้ง 14 จังหวัด ในวันที่ นายกฯเดินทางมาปราศรัยและใกล้วันเลือกตั้งทั้งที่ไม่มีกำหนดการมาก่อนหน้านี้ ไม่มีเหตุผลอื่นใด ที่ต้องการแสดงอำนาจต่อราชการให้เห็นและเกรงกลัว แต่เพื่อให้ราชการมาทำตามคำสั่งซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคไทยรักไทยต้องการใช้อำนาจหน้าที่บีบข้าราชการทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อสนับสนุนผู้สมัคร ทั้งนี้ตนเห็นว่าเป็นการกระทำที่พูดอย่างทำอย่าง ในการที่พรรคไทยรักไทยต้องการหาคะแนนเสียงให้ชนะพรรคประชาธิปัตย์ถึง 5,000 คะแนน ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียกร้องให้ข้าราชการอย่าไปหวาดกลัวอำนาจหรือการสั่งการที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นเพียงคำขู่ ตนขอให้ข้าราชการพึงระลึกอยู่เสมอว่าเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัวไม่ใช่เป็น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20/02/47--จบ--
-สส-
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุว่า ถ้าประชาชนอยากยากจนก็ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ตนอยากเตือนความจำนายกฯว่าคนที่รวยที่สุดคนหนึ่งในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ชื่อทักษิณ ไม่ใช่หรือ ไม่เห็นท่านจนเลย และทุกวันนี้เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นรัฐบาลเอง ก็ยิ่งรวยยิ่งขึ้น จากการพยายามทุจริตเชิงนโยบายและมีผลประโยชน์ ทับซ้อน ในหลายกรณี เช่นการออกพรก.ภาษีสรรพสามิต เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทตนเอง กรณีไอทีวี เป็นต้น ขณะที่ชาวบ้านกลับมีแต่จนลง มีหนี้เพิ่มขึ้น ตัวเลขของทางราชการก็ระบุชัดว่าในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล หนี้สินครัวเรือนมีประมาณ 30,000 ล้านบาท ขณะที่พรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาลหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 80,000 กว่าล้านบาท
นายองอาจ กล่าวว่า ตลอด 58 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้พิสูจน์แล้วว่าทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถยืนหยัดทางการเมืองได้ยาวนานเช่นนี้ และพรรคยังได้เข้ามาแบกรับการทำงานหลังจากเกิดวิกฤติต่างๆ ทั้งทาง การเมือง เศรษฐกิจ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ประชาชน โดยเฉพาะชาวภาคใต้ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ตลอดมา ส่วนที่หัวหน้าพรรคไทยรักไทยระบุพื้นที่ภาคใต้เป็นเพชรแต่ประชาธิปัตย์ กลับเจียรไนไม่เป็น มีแต่จ้องขโมยเพชรนั้น พรรคยอมรับว่าภาคใต้เป็นเพชรจริง เพราะมีคุณค่าอยู่ในตัวเอง ไม่ยอมให้ใครมาขโมยหรือมาทำลายเพชร ขณะที่นายกฯ อ้างว่าจะมาเจียรไนเพชร หรือภาคใต้นั้นภายใน 3 ปี ให้มีคุณค่าขึ้นมานั้น ตนอยากถามว่ารัฐบาลเจียรไนภาคใต้มา 3 ปี แล้ว ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ถ้ามีฝีมือจริง 3 ปีก็ต้องเห็นผลบ้างแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเจียรไนอย่างไร จนภาคใต้จะลุกเป็นไฟ จนค่ายทหารถูกปล้นปืน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองถูกฆ่าตายทุกวัน
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะพยายามใช้อำนาจรัฐและทุ่มเทเงินทองลงในพื้นที่มากเท่าไร่ก็ตาม คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกที่ถูกต้องของคนภาคใต้ได้ ดังนันตนจึงเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้คนสงขลาจะสอนพรรคไทยรักไทย ให้สำนึกว่าเงินไม่สามารถซื้อคนใต้ได้ ซึ่งในวันที่ 22 กุมพาพันธ์ นี้จะเป็นการพิสูจน์ธาตุแท้ของคนใต้อีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังตั้งข้อสังเกตว่าทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงได้เรียกประชุมผู้ว่าราชการทั้ง 14 จังหวัด ในวันที่ นายกฯเดินทางมาปราศรัยและใกล้วันเลือกตั้งทั้งที่ไม่มีกำหนดการมาก่อนหน้านี้ ไม่มีเหตุผลอื่นใด ที่ต้องการแสดงอำนาจต่อราชการให้เห็นและเกรงกลัว แต่เพื่อให้ราชการมาทำตามคำสั่งซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคไทยรักไทยต้องการใช้อำนาจหน้าที่บีบข้าราชการทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อสนับสนุนผู้สมัคร ทั้งนี้ตนเห็นว่าเป็นการกระทำที่พูดอย่างทำอย่าง ในการที่พรรคไทยรักไทยต้องการหาคะแนนเสียงให้ชนะพรรคประชาธิปัตย์ถึง 5,000 คะแนน ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียกร้องให้ข้าราชการอย่าไปหวาดกลัวอำนาจหรือการสั่งการที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นเพียงคำขู่ ตนขอให้ข้าราชการพึงระลึกอยู่เสมอว่าเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัวไม่ใช่เป็น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20/02/47--จบ--
-สส-