นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ประเมินจากการเลือกตั้งซ่อมสงขลา จากการรณรงค์ของพรรค ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นับตั้งมีการเลือกตั้งทางภาคใต้ตลอดระยะเวลา 10 ปี ไม่เคยมีครั้งใด ที่จะถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ใช้อำนาจรัฐ และ อำนาจเงินมากเท่ากับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ไม่เคยมีการเลือกตั้ง ครั้งใดในภาคใต้ที่มีการนำข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือพล เรือน เข้ามามีส่วนในการทำงานรับใช้รัฐบาล หรือพรรคการเมืองของรัฐบาล คือพรรคไทยรักไทย เพื่อให้ประชาชนไปลงคะแนนเสียงให้กับพรรคของรัฐบาลมากเท่ากับการเลือกตั้งครั้งนี้
‘ มีข้าราชการระดับสูงซึ่งไม่มีกำหนดการใดๆ ไปทำงาน ตรมหน้าที่ของตนเอง อยู่ในพื้นที่เกือบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการระดับสูงตั้งแต่ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี ถึงระดับผู้อำนวยการ เกือบทุกกระทรวง ยกเว้นวันที่มีการประชุม ครม.นั้น จะพบว่ามีรัฐมนตรี อ้างว่าลงไปปฏิบัติหน้าที่ราชการในพื้นที่ เขตเลือกตั้งซ่อม เขต3 สงขลา จากการตรวจสอบพบว่าไปน้อยที่สุดคือไป 5 คน แต่วันที่ตรวจสอบว่าไปมากกว่าที่สุดคือมากกว่า 30 คน โดยเฉลี่ยจะมีรัฐมนตรี ลง ไปในพื้นที่เลือกตั้ง จังหวัดสงขลา โดยอ้างว่าไปปฏิบัติหน้าที่ราชการเฉลี่ยวันละ 10 คน ยกเว้นวันที่มีการประชุมครม.’ นายองอาจกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ไม่ได้มีส่วนเข้าไป บงการ ไม่มีส่วนเข้าไป จัดการให้ข้าราชการเหล่านี้ เข้าไปทำงานเพื่อผลของการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดในการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสงขลา เมื่อมีการใช้อำนาจรัฐ รวมทั้งมีการใช้อำนาจเงินกันอย่างมโหฬาร ถ้ารัฐบาลทำถึงขนาดนี้แล้ว หากผลการเลือกตั้งออกมาปรากฏว่ารัฐบาลแพ้ ถือว่ารัฐบาลต้องทบทวนบทบาทของตนเอง
และที่สำคัญที่สุดจะเห็นได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ นายกฯพยายามที่จะพูดและพูดในรายการนายกฯทักษิณคุยกับประชาชน พยยายามจะพูดเรียกร้องให้ประชาฃชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพราะผลประโยชน์ หรือเพราะการถูกซื้อเสียง แต่ความเป็นจริงต้องยอมรับว่า นายกฯ ในฐานที่เป็น นายกฯ และในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ปล่อยให้มีการกระทำที่ผิดต่อกำหมายเลือกตั้ง ในพื้นที่เลือกตั้งซ่อมอย่างต่อเนื่องตลอดมา นับแต่มีการรับสมัครเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจรัฐ และอำนาจเงิน
‘สิ่งที่ท่านายกฯพูดก็ดี พูดในรายการนายกฯทักษิณคุยกับประชาชน ก็ดี หรือพูดสอนคนอื่นในทางการเมือง ว่าต้องทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม หรือจะต้องไม่ซื้อเสียงล้วน แต่สวนทางกับการกระทำของรับบาล กับการกระทำของพรรคการเมืองที่ท่านเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ตลอดเวลา ถือว่าเป็นการพูดอย่างทำอย่าง โดยไม่ละอายแก่ใจ นายกฯพยายามพูดถึงการเมืองที่ดี และพูดว่าการซื้อเสียงไม่ดี แต่รับบาลนี้ก็ทำเกือบทุกอย่าง’ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ กังวลก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในการเลือกต้องซ่อมที่จังหวัดสงขลา จะเกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม อีกเช่นกัน จึงขอให้ กกต.จังหวัดและ กกต.กลาง ควรมีมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้การเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ‘หากการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ก็อาจจะได้มาซึ่งรัฐบาลที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม’นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22/02/47--จบ--
-สส-
‘ มีข้าราชการระดับสูงซึ่งไม่มีกำหนดการใดๆ ไปทำงาน ตรมหน้าที่ของตนเอง อยู่ในพื้นที่เกือบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการระดับสูงตั้งแต่ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี ถึงระดับผู้อำนวยการ เกือบทุกกระทรวง ยกเว้นวันที่มีการประชุม ครม.นั้น จะพบว่ามีรัฐมนตรี อ้างว่าลงไปปฏิบัติหน้าที่ราชการในพื้นที่ เขตเลือกตั้งซ่อม เขต3 สงขลา จากการตรวจสอบพบว่าไปน้อยที่สุดคือไป 5 คน แต่วันที่ตรวจสอบว่าไปมากกว่าที่สุดคือมากกว่า 30 คน โดยเฉลี่ยจะมีรัฐมนตรี ลง ไปในพื้นที่เลือกตั้ง จังหวัดสงขลา โดยอ้างว่าไปปฏิบัติหน้าที่ราชการเฉลี่ยวันละ 10 คน ยกเว้นวันที่มีการประชุมครม.’ นายองอาจกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ไม่ได้มีส่วนเข้าไป บงการ ไม่มีส่วนเข้าไป จัดการให้ข้าราชการเหล่านี้ เข้าไปทำงานเพื่อผลของการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดในการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสงขลา เมื่อมีการใช้อำนาจรัฐ รวมทั้งมีการใช้อำนาจเงินกันอย่างมโหฬาร ถ้ารัฐบาลทำถึงขนาดนี้แล้ว หากผลการเลือกตั้งออกมาปรากฏว่ารัฐบาลแพ้ ถือว่ารัฐบาลต้องทบทวนบทบาทของตนเอง
และที่สำคัญที่สุดจะเห็นได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ นายกฯพยายามที่จะพูดและพูดในรายการนายกฯทักษิณคุยกับประชาชน พยยายามจะพูดเรียกร้องให้ประชาฃชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพราะผลประโยชน์ หรือเพราะการถูกซื้อเสียง แต่ความเป็นจริงต้องยอมรับว่า นายกฯ ในฐานที่เป็น นายกฯ และในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ปล่อยให้มีการกระทำที่ผิดต่อกำหมายเลือกตั้ง ในพื้นที่เลือกตั้งซ่อมอย่างต่อเนื่องตลอดมา นับแต่มีการรับสมัครเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจรัฐ และอำนาจเงิน
‘สิ่งที่ท่านายกฯพูดก็ดี พูดในรายการนายกฯทักษิณคุยกับประชาชน ก็ดี หรือพูดสอนคนอื่นในทางการเมือง ว่าต้องทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม หรือจะต้องไม่ซื้อเสียงล้วน แต่สวนทางกับการกระทำของรับบาล กับการกระทำของพรรคการเมืองที่ท่านเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ตลอดเวลา ถือว่าเป็นการพูดอย่างทำอย่าง โดยไม่ละอายแก่ใจ นายกฯพยายามพูดถึงการเมืองที่ดี และพูดว่าการซื้อเสียงไม่ดี แต่รับบาลนี้ก็ทำเกือบทุกอย่าง’ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ กังวลก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในการเลือกต้องซ่อมที่จังหวัดสงขลา จะเกิดขึ้นที่จังหวัดนครปฐม อีกเช่นกัน จึงขอให้ กกต.จังหวัดและ กกต.กลาง ควรมีมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้การเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ‘หากการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม ก็อาจจะได้มาซึ่งรัฐบาลที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม’นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22/02/47--จบ--
-สส-