เมื่อเวลา 08.00น.ที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 ซึ่งเป็นจุดนับคะแนนการเลือกตั้งซ่อม เขต 3 จังหวัดสงขลา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ปธ.ศูนย์อำนวยการเตรียมการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ผลคะแนนการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ ซึ่งล่าสุด นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนำ นายทวีศักดิ์ ทวีรัตน์ ผู้สมัคร จากพรรคไทยรักไทย อยู่กว่า 20,000 คะแนนว่า ผลคะแนนที่ออกมาล่าสุดคาดว่า พรรคประชาธิปัตย์ชนะอย่างแน่นอน ซึ่งตนก็ขอขอบคุณในทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนชาวสงขลามอบให้ผู้สมัครของพรรค
ต่อข้อถามที่ว่า ความมั่นใจที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร พล.ต.สนั่น กล่าว่า ประชาชนชาวใต้ไม่ชอบวิธีการใช้อำนาจคุกคาม ตลอดจนการใช้เงินเข้ามาซื้อเสียงของฝ่ายตรงข้าม เพราะวิธีการดังกล่าวถือเป็นการดูถูกประชาชนภาคใต้อย่างยิ่ง
เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดการเลือกตั้งในสนามใหญ่ในปี 48 หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า มั่นใจมากขึ้น เพราะสังเกตได้ว่าขณะนี้ประชาชนได้เข้าใจการดำเนินนโยบายที่ล้มเหลวของรัฐบาลมากขึ้น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาธิปัตย์จะลงไปยึด 3 เก้าอี้ภาคใต้ของพรรคไทยรักไทยมาเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้
ขณะที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ 90 กว่า% แล้วได้รับการเลือกตั้งถึงผลการเลือกตั้งจะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องขอขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดสงขลา ทั้งผู้สนับสนุนและผู้ให้กำลังใจ ตนคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้หนักหน่วงที่สุด เท่าที่มีการเลือกตั้งในภาคใต้มา มีการแข่งขันและต่อสู้กันหลายรูปแบบ หลายเรื่อง นึกไม่ถึงว่าขู่ต่อสู้จะนำมาใช้ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าชาวจังหวัดสงขลาไม่เข้มแข็งจริงๆ ท่านอาจหวั่นไหวต่ออำนาจรัฐที่เข้ามาหลายรูปแบบ และหวั่นไหวกับอามิสสินจ้าง รางวัลที่มีการหยิบยื่นให้
นายบัญญัติ กล่าวว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึง 3 สิ่งคือ 1.ความเชื่อมั่นไว้วาใจกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชาวจังหวัดสงขลา ยังมีอยู่และขณะนี้ก็ยังดีขึ้นเรื่อยๆ 2.ความล้มเหลวของรัฐบาลในหลายเรื่องโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3. อำนาจรัฐที่เข้ามาในพื้นที่มีการนำเงินมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งประชาชนก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เขากดดันต่อสิ่งนี้และสะท้อนให้เห็นในลักษณะการให้บทเรียน
‘เมื่อคืนหลายครั้งเมื่อคะแนนหมายเลขหนึ่ง ออกมาในลักษณะติดๆกัน เราจะได้ยินเสียวทั้งผู้หญิง ผู้ชายตะโกนออกมาในลักษณะที่คล้ายๆกันว่าเงินมีอีกไหมขนมาอีกซิ มีเงินมากก็ขนมาอีกซิ คำพูดเช่นนี้สะท้อนความรู้สึก ไม่พึงพอใจอย่างยิ่งที่มีความพยายามนำเงินมาใช้ในการซื้อเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้’ นายบัญญัติกล่าวและว่า รัฐบาลจะต้องทบทวนทีท่า ของตนเองและการบริหารบ้านเมือง ในบางนโยบายใหม่
ต่อข้อถามที่ว่าความหวังของพรรคไทยรักไทยที่จะได้ 20 ที่นั่งในภาคใต้นั้นนายบัญญัติ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้แท้จริงแล้วการพูดถึง 20 ที่นั่ง ก็คือการโฆษณาชวนเชื่อ สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นจากึคนที่รู้เท่าไม่ถึงการและขณะนี้กลายเป็นลบไปแล้วสำหรับรัฐบาลที่อาจหาญพูดจาขนาดนี้ สำหรับการเลือกตั้งปี 48 นั้น ตนมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนเสียง มากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอนแต่จะบอกได้มาน้อยแค่ไหนนั้นคงจะพูดลำบากอยู่
ด้านนายถาวร เสนเนียม ผู้อำนวยการศูนย์การเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเป็นตัวชี้วัดความเสื่อมของนายกฯ และเป็นความล้มเหลวนโยบายของรัฐบาล นายถาวร กล่าวยังอีกว่า ในช่วงแรกที่ประชาชนชื่นชอบพรรคไทยรักไทย ก็เป็นผลจากการที่รัฐบาลพยายามบอกข้อมูลในด้านดีให้ประชาชนได้รับรู้ แต่ต่อมาเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้นำเสนอข้อมูลอีกด้าน ประชาชนก็เริ่มรับรู้เข้าใจและให้บทเรียนกับนายกฯจากการเลือกตั้งครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจในการเลือกตั้งในปี 48 มากขึ้นหรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า มีความมั่นใจมากขึ้น แต่ทั้งนี้อยากให้ประชาชนรับฟังข้อมูลอีกด้าน ทั้งจากนักวิชาการและจากฝ่ายค้านเพื่อทำความเข้าใจ อย่างไรก็ตามคิดว่าการเลือกตั้งปี 48 นายกฯจะเจ็บปวดมากกว่านี้ เพราะจากที่ตั้งเป้าไว้ว่า จะได้ 400 เสียงในสภาก็อาจกลับมาเป็นเสียงข้างน้อยได้ นอกจากนี้นายกฯจะต้องเจ็บปวดว่า เงินและอำนาจรัฐไม่สามารถทำอะไรคนใต้ได้
“ขอให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าใจว่า เงินที่เอาฟาดหัวพี่น้องประชาชนนั้น พี่น้องสามารถเอามาตบหน้าคนที่ดูถูกพี่น้องประชาชนได้ สิ่งที่เราอยากทำมากที่สุดคือ การตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ว่า ทำไม่นายกฯถึงรวยได้ จาก 60,000 กว่าล้าน เป็น 400,000 กว่าล้าน ถ้าผมมีอำนาจสามารถอภิปรายนายกฯได้ ผมก็จะกระฉากกากนายกฯให้ประชาชนทั้งประเทศได้ดูว่า เขารวย 400,000 กว่าล้านนั้นได้อย่างไร ”
สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปของการเลือกตั้งมีผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 78,334 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 121,784คน คิดเป็นร้อยละ 64.32 ส่วนผลการนับคะแนนล่าสุด เมื่อเวลา 08.00น. นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนำ นายทวีศักดิ์ ทวีรัตน์ ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยอยู่กว่า 20,000 คะแนน อย่างไรก็ตามคาดว่า ผลการนับคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 11.00น.
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23/02/47--จบ--
-สส-
ต่อข้อถามที่ว่า ความมั่นใจที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร พล.ต.สนั่น กล่าว่า ประชาชนชาวใต้ไม่ชอบวิธีการใช้อำนาจคุกคาม ตลอดจนการใช้เงินเข้ามาซื้อเสียงของฝ่ายตรงข้าม เพราะวิธีการดังกล่าวถือเป็นการดูถูกประชาชนภาคใต้อย่างยิ่ง
เมื่อถามว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดการเลือกตั้งในสนามใหญ่ในปี 48 หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า มั่นใจมากขึ้น เพราะสังเกตได้ว่าขณะนี้ประชาชนได้เข้าใจการดำเนินนโยบายที่ล้มเหลวของรัฐบาลมากขึ้น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาธิปัตย์จะลงไปยึด 3 เก้าอี้ภาคใต้ของพรรคไทยรักไทยมาเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้
ขณะที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ 90 กว่า% แล้วได้รับการเลือกตั้งถึงผลการเลือกตั้งจะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องขอขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดสงขลา ทั้งผู้สนับสนุนและผู้ให้กำลังใจ ตนคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้หนักหน่วงที่สุด เท่าที่มีการเลือกตั้งในภาคใต้มา มีการแข่งขันและต่อสู้กันหลายรูปแบบ หลายเรื่อง นึกไม่ถึงว่าขู่ต่อสู้จะนำมาใช้ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าชาวจังหวัดสงขลาไม่เข้มแข็งจริงๆ ท่านอาจหวั่นไหวต่ออำนาจรัฐที่เข้ามาหลายรูปแบบ และหวั่นไหวกับอามิสสินจ้าง รางวัลที่มีการหยิบยื่นให้
นายบัญญัติ กล่าวว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึง 3 สิ่งคือ 1.ความเชื่อมั่นไว้วาใจกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชาวจังหวัดสงขลา ยังมีอยู่และขณะนี้ก็ยังดีขึ้นเรื่อยๆ 2.ความล้มเหลวของรัฐบาลในหลายเรื่องโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3. อำนาจรัฐที่เข้ามาในพื้นที่มีการนำเงินมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งประชาชนก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า เขากดดันต่อสิ่งนี้และสะท้อนให้เห็นในลักษณะการให้บทเรียน
‘เมื่อคืนหลายครั้งเมื่อคะแนนหมายเลขหนึ่ง ออกมาในลักษณะติดๆกัน เราจะได้ยินเสียวทั้งผู้หญิง ผู้ชายตะโกนออกมาในลักษณะที่คล้ายๆกันว่าเงินมีอีกไหมขนมาอีกซิ มีเงินมากก็ขนมาอีกซิ คำพูดเช่นนี้สะท้อนความรู้สึก ไม่พึงพอใจอย่างยิ่งที่มีความพยายามนำเงินมาใช้ในการซื้อเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้’ นายบัญญัติกล่าวและว่า รัฐบาลจะต้องทบทวนทีท่า ของตนเองและการบริหารบ้านเมือง ในบางนโยบายใหม่
ต่อข้อถามที่ว่าความหวังของพรรคไทยรักไทยที่จะได้ 20 ที่นั่งในภาคใต้นั้นนายบัญญัติ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้แท้จริงแล้วการพูดถึง 20 ที่นั่ง ก็คือการโฆษณาชวนเชื่อ สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นจากึคนที่รู้เท่าไม่ถึงการและขณะนี้กลายเป็นลบไปแล้วสำหรับรัฐบาลที่อาจหาญพูดจาขนาดนี้ สำหรับการเลือกตั้งปี 48 นั้น ตนมั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนเสียง มากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอนแต่จะบอกได้มาน้อยแค่ไหนนั้นคงจะพูดลำบากอยู่
ด้านนายถาวร เสนเนียม ผู้อำนวยการศูนย์การเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเป็นตัวชี้วัดความเสื่อมของนายกฯ และเป็นความล้มเหลวนโยบายของรัฐบาล นายถาวร กล่าวยังอีกว่า ในช่วงแรกที่ประชาชนชื่นชอบพรรคไทยรักไทย ก็เป็นผลจากการที่รัฐบาลพยายามบอกข้อมูลในด้านดีให้ประชาชนได้รับรู้ แต่ต่อมาเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้นำเสนอข้อมูลอีกด้าน ประชาชนก็เริ่มรับรู้เข้าใจและให้บทเรียนกับนายกฯจากการเลือกตั้งครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจในการเลือกตั้งในปี 48 มากขึ้นหรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า มีความมั่นใจมากขึ้น แต่ทั้งนี้อยากให้ประชาชนรับฟังข้อมูลอีกด้าน ทั้งจากนักวิชาการและจากฝ่ายค้านเพื่อทำความเข้าใจ อย่างไรก็ตามคิดว่าการเลือกตั้งปี 48 นายกฯจะเจ็บปวดมากกว่านี้ เพราะจากที่ตั้งเป้าไว้ว่า จะได้ 400 เสียงในสภาก็อาจกลับมาเป็นเสียงข้างน้อยได้ นอกจากนี้นายกฯจะต้องเจ็บปวดว่า เงินและอำนาจรัฐไม่สามารถทำอะไรคนใต้ได้
“ขอให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าใจว่า เงินที่เอาฟาดหัวพี่น้องประชาชนนั้น พี่น้องสามารถเอามาตบหน้าคนที่ดูถูกพี่น้องประชาชนได้ สิ่งที่เราอยากทำมากที่สุดคือ การตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ว่า ทำไม่นายกฯถึงรวยได้ จาก 60,000 กว่าล้าน เป็น 400,000 กว่าล้าน ถ้าผมมีอำนาจสามารถอภิปรายนายกฯได้ ผมก็จะกระฉากกากนายกฯให้ประชาชนทั้งประเทศได้ดูว่า เขารวย 400,000 กว่าล้านนั้นได้อย่างไร ”
สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไปของการเลือกตั้งมีผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 78,334 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 121,784คน คิดเป็นร้อยละ 64.32 ส่วนผลการนับคะแนนล่าสุด เมื่อเวลา 08.00น. นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนำ นายทวีศักดิ์ ทวีรัตน์ ผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยอยู่กว่า 20,000 คะแนน อย่างไรก็ตามคาดว่า ผลการนับคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 11.00น.
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23/02/47--จบ--
-สส-