วันนี้(25 ก.พ.47)เวลา 11.30น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นางสาวรังสิมา รอดรัศมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำคณะครูอาจารย์จากจังหวัดสมุทรสงครามจำนวน 100 คนเข้าเยี่ยมชมพรรคประชาธิปัตย์พร้อมฟังคำบรรยายจากแกนนำพรรคฯ โดยมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานกล่าวต้อนรับ
หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวบรรยายถึงความบกพร่องของรัฐบาลในการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวกับการศึกษาจำนวน 2 ฉบับคือ พระราชบัญญัติครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่รัฐบาลดื้อแพ่งไม่ฟังความเห็นของฝ่ายอื่น ทั้งจากส.ว.และฝ่ายค้าน จนทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานคืนมา และฉบับที่ 2 คือ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ ที่มีปัญหาอยู่หลายจุดด้วยกันและขณะนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้สนใจการศึกษาและการปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาวิชาชีพครูอย่างแท้จริง
‘รัฐบาลไม่เชื่อเรื่องการกระจายอำนาจ เชื่อเรื่องการบริหารแบบซีอีโอ เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจว่าเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งเราเคยหวังว่าจะเป็นจุดรองรับการกระจายอำนาจ การบริการสถานศึกษาที่จะมีอำนาจมากขึ้น มันเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะคนทำไม่เชื่อระบบกระจายอำนาจ เชื่อว่าต้องซีอีโอเท่านั้น เหมือนกับโอกาสทางการศึกษาไม่เกิดขึ้น เพราะบังเอิญผู้นำรัฐบาลปัจจุบันไม่เชื่อเรื่องสิทธิเสรีภาพ เชื่อเรื่องอำนาจมากกว่า เพราะฉะนั้นส่วนประกอบหรือองค์ประกอบการปฏิรูปการศึกษาจึงไม่เดินหน้า ผมเชื่อว่าภายในปีนี้จะต้องมีการปรับเงินเดือนครูอย่างแน่นอน เพราะในปีหน้าจะมีการเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งการปรับขึ้นเงินเดือนครั้งนี้ก็เพราะหวังผลตอบแทน ไม่ใช่การขึ้นเงินเดือนเพราะเห็นคุณค่าของวิชาชีพครูอย่างแท้จริง’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
และเมื่อเวลา 12.00น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวบรรยายโดยเล่าถึงในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลว่า ได้มีการกระจายโอกาสทางการศึกษา โดยมีนโยบายขยายโรงเรียนระดับประถมไปในแต่ละอำเภอ และหลังจากนั้นก็เริ่มขยายในส่วนของมหาวิทยาลัยโดยการเปิดเป็นวิทยาเขตในภูมิภาคต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนที่อยู่ห่างไกล ไม่ต้องเดินทางมาเรียนถึงในกรุงเทพ นอกจากนี้นายชวน ยังได้กล่าวถึงโครงการเกษียรอายุก่อนเวลา หรือ เออรี่ลีไทม์ของรัฐบาลว่า อยากให้ผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการคิดให้ดีว่ามีสิ่งได้รองรับหรือยัง เพราะหากยังไม่มีอะไรรองรับ ตนก็ไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นอะไรที่ข้าราชการจะต้องเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25/02/47--จบ--
-สส-
หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวบรรยายถึงความบกพร่องของรัฐบาลในการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวกับการศึกษาจำนวน 2 ฉบับคือ พระราชบัญญัติครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่รัฐบาลดื้อแพ่งไม่ฟังความเห็นของฝ่ายอื่น ทั้งจากส.ว.และฝ่ายค้าน จนทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานคืนมา และฉบับที่ 2 คือ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ ที่มีปัญหาอยู่หลายจุดด้วยกันและขณะนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้สนใจการศึกษาและการปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาวิชาชีพครูอย่างแท้จริง
‘รัฐบาลไม่เชื่อเรื่องการกระจายอำนาจ เชื่อเรื่องการบริหารแบบซีอีโอ เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจว่าเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งเราเคยหวังว่าจะเป็นจุดรองรับการกระจายอำนาจ การบริการสถานศึกษาที่จะมีอำนาจมากขึ้น มันเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะคนทำไม่เชื่อระบบกระจายอำนาจ เชื่อว่าต้องซีอีโอเท่านั้น เหมือนกับโอกาสทางการศึกษาไม่เกิดขึ้น เพราะบังเอิญผู้นำรัฐบาลปัจจุบันไม่เชื่อเรื่องสิทธิเสรีภาพ เชื่อเรื่องอำนาจมากกว่า เพราะฉะนั้นส่วนประกอบหรือองค์ประกอบการปฏิรูปการศึกษาจึงไม่เดินหน้า ผมเชื่อว่าภายในปีนี้จะต้องมีการปรับเงินเดือนครูอย่างแน่นอน เพราะในปีหน้าจะมีการเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งการปรับขึ้นเงินเดือนครั้งนี้ก็เพราะหวังผลตอบแทน ไม่ใช่การขึ้นเงินเดือนเพราะเห็นคุณค่าของวิชาชีพครูอย่างแท้จริง’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
และเมื่อเวลา 12.00น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวบรรยายโดยเล่าถึงในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลว่า ได้มีการกระจายโอกาสทางการศึกษา โดยมีนโยบายขยายโรงเรียนระดับประถมไปในแต่ละอำเภอ และหลังจากนั้นก็เริ่มขยายในส่วนของมหาวิทยาลัยโดยการเปิดเป็นวิทยาเขตในภูมิภาคต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนที่อยู่ห่างไกล ไม่ต้องเดินทางมาเรียนถึงในกรุงเทพ นอกจากนี้นายชวน ยังได้กล่าวถึงโครงการเกษียรอายุก่อนเวลา หรือ เออรี่ลีไทม์ของรัฐบาลว่า อยากให้ผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการคิดให้ดีว่ามีสิ่งได้รองรับหรือยัง เพราะหากยังไม่มีอะไรรองรับ ตนก็ไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นอะไรที่ข้าราชการจะต้องเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 25/02/47--จบ--
-สส-