อุตสาหกรรมยา
อุตสาหกรรมยาเป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ จึงนับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบ
ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการบริโภค
1. การผลิตและการจำหน่ายในประเทศ
ปริมาณการผลิตยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีประมาณ 6,196.1 ตัน ขยายตัวจากไตรมาส
เดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.9 สาเหตุสำคัญเนื่องมาจากมีการผลิตยาน้ำ และยาเม็ด เพิ่มขึ้น และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณ
การผลิตยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ขยายตัวร้อยละ 3 โดยสาเหตุสำคัญเนื่องมาจากมีการผลิตยาน้ำ เพิ่มขึ้น สำหรับปริมาณการ
จำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีประมาณ 5,417.3 ตัน ขยายตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ร้อยละ 8 สาเหตุสำคัญเนื่องมาจาก มีการจำหน่ายยาเม็ด และยาน้ำเพิ่มขึ้น และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปริมาณการ
จำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ขยายตัวร้อยละ 3.2 ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากมีการจำหน่ายยาเม็ด และยาน้ำเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ปริมาณการผลิตและจำหน่ายยาและเภสัชภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หรือไตรมาสก่อน
สาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานพยาบาลภาครัฐหันมาใช้ยา
ที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศ หน่วย : ตัน
2545 2546
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4
ปริมาณการผลิต 5,049.3 5,219.9 5,907.5 5,692.2 6,067.8 5,530.5 6,015.8 6,196.1
% เมื่อเทียบกับQ 3 ปี 2546 (3.0)
% เมื่อเทียบกับQ 4 ปี 2545 (8.9)
ปริมาณการจำหน่าย 5,132.1 4,522.9 5,313.6 5,016.5 5,151.3 4,810.6 5,248.6 5,417.3
% เมื่อเทียบกับ Q 3 ปี 2546 (3.2)
% เมื่อเทียบกับ Q 4 ปี 2545 (8.0)
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จำนวนโรงงาน 34 โรงงาน
: ไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น
ปริมาณการผลิตยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศแยกตามรายผลิตภัณฑ์ หน่วย : ตัน
ประเภท 2545 2546
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4
ยาเม็ด 795.2 833.4 867.5 916.2 1,001.00 979.9 1,106.60 1,110.50
ยาน้ำ 2,543.40 2,489.80 2,868.20 2,953.70 3,120.10 2,771.20 2,948.60 3,214.80
ยาแคปซูล 127 144.9 165.1 140.8 145.1 116.1 152.4 120.1
ยาฉีด 73.7 80 109.5 145.4 133 89.7 105.1 83.4
ยาแดงทิงเจอร์ไอโอดีน 23 26.2 18.5 11 20.2 15.8 21.2 24.8
ยาครีม 376.8 359 436.8 485.5 411.8 346.8 467 501.9
ยาผง 710.2 863.6 1,027.90 610.6 897.6 885 870.9 789.6
พลาสเตอร์และเทปปิดแผล 400 423 414 429 339 326 344 351
รวม 5,049.30 5,219.90 5,907.50 5,692.20 6,067.80 5,530.50 6,015.80 6,196.10
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จำนวนโรงงาน 34 โรงงาน
: ไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น
ปริมาณการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศแยกตามรายผลิตภัณฑ์ หน่วย : ตัน
ประเภท 2545 2546
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4
ยาเม็ด 837.3 774 891.5 850.2 943 904.2 1,066.50 1,119.80
ยาน้ำ 3,344.00 2,752.60 3,247.60 3,151.00 3,278.70 2,968.20 3,174.60 3,254.90
ยาแคปซูล 139.8 115.7 178.2 145.6 146.9 126 178.7 159.4
ยาฉีด 62.4 64.8 81.1 108.1 87.4 71.4 75.4 84.2
ยาแดงทิงเจอร์ไอโอดีน 22.8 22.7 18.1 16.9 17.2 17.2 20.4 22.4
ยาครีม 424.8 372.4 483 416 389.8 399.9 398.1 394.9
ยาผง 178 303.7 291.1 198.7 120.3 155.7 176.9 224.7
พลาสเตอร์และเทปปิดแผล 123 117 123 130 168 168 158 157
รวม 5,132.10 4,522.90 5,313.60 5,016.50 5,151.30 4,810.60 5,248.60 5,417.30
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จำนวนโรงงาน 34 โรงงาน : ไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น
2. การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีมูลค่า 5,129.5 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส
เดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.1 สาเหตุสำคัญมาจากมีการนำเข้ายารักษาโรค ที่เป็นยาสำเร็จรูปราคาแพงที่ไม่สามารถผลิตได้ใน
ประเทศ และเคมีปรุงแต่งที่ใช้คุมกำเนิด เพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมลดลงร้อยละ
0.9 โดยสาเหตุสำคัญเนื่องจาก มีการนำเข้ายาสำเร็จรูปลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ผลิตยาในประเทศเริ่มผลิตยาที่สามารถแข่งขัน
กับยานำเข้าราคาแพงได้หลายประเภท และมีราคาถูกกว่ายานำเข้า สำหรับตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ที่สำคัญในไตรมาส
ที่ 4 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการนำเข้าจากประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม
2,384.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 46.5 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
3. การส่งออก
การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีมูลค่า 1,151 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของ
ปีก่อน ร้อยละ 0.4 สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ลดลง และเมื่อเทียบกับ
ไตรมาสก่อน การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมลดลง ร้อยละ 10.6 สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกวัคซีนใช้เป็นยาสำหรับมนุษย์
และสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ลดลง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะความต้องการวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคในตลาดโลกลดลงกว่าช่วงต้นปีและกลางปี สำหรับตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญใน
ไตรมาสที่ 4 ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา เบลเยียม พม่า และมาเลเซีย โดยการส่งออกไปประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 612.4
ล้านบาท หรือร้อยละ 53.2 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ทั้งหมด
มูลค่าการนำเข้า - ส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม หน่วย : ล้านบาท
2545 2546
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4
นำเข้า 3,861.40 4,160.70 4,221.20 4,834.10 5,055.20 5,425.40 5,178.40 5,129.50
%? เมื่อเทียบกับ Q 3 ปี 2546 (-0.9)
%? เมื่อเทียบกับ Q 4 ปี 2545 -6.1
ส่งออก 1,039.00 883 1,049.50 1,155.40 1,172.20 1,223.80 1,287.70 1,151.00
%? เมื่อเทียบกับ Q 3 ปี 2546 (-10.6)
%? เมื่อเทียบกับ Q 4 ปี 2545 (-0.4)
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : ปี 2546 เป็นตัวเลขเบื้องต้น
4. สรุป
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุเนื่องมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ หันมาใช้ยา
ที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการนำเข้ายาสำเร็จรูป
ราคาแพงที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ แต่การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมหดตัวลง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ
ผ้าพันแผล และสำลี และวัคซีนที่ใช้เป็นยาสำหรับมนุษย์ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากตลาดมีความต้องการวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค และ
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคลดลงกว่าในช่วงต้นและกลางปี
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2547 คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศ จะขยายตัวเพิ่มขึ้น
จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 เนื่องจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ มีความต้องการใช้ยาจาก
ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการพยายามหาตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น
ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะหดตัวลง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศเริ่มที่จะผลิตยาที่สามารถแข่งขันกับยานำเข้าได้หลายประเภท
2. การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีมูลค่า 5,129.5 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส
เดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.1 สาเหตุสำคัญมาจากมีการนำเข้ายารักษาโรค ที่เป็นยาสำเร็จรูปราคาแพงที่ไม่สามารถผลิตได้
ในประเทศ และเคมีปรุงแต่งที่ใช้คุมกำเนิด เพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมลดลงร้อยละ
0.9 โดยสาเหตุสำคัญเนื่องจาก มีการนำเข้ายาสำเร็จรูปลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ผลิตยาในประเทศเริ่มผลิตยาที่สามารถแข่งขัน
กับยานำเข้าราคาแพงได้หลายประเภท และมีราคาถูกกว่ายานำเข้า สำหรับตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ที่สำคัญในไตรมาส
ที่ 4 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการนำเข้าจากประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม
2,384.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 46.5 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
3.การส่งออก
การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีมูลค่า 1,151 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของ
ปีก่อน ร้อยละ 0.4 สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ลดลง และเมื่อเทียบกับ
ไตรมาสก่อน การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมลดลง ร้อยละ 10.6 สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกวัคซีนใช้เป็นยาสำหรับมนุษย์
และสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ลดลง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะความต้องการวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค และ
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคในตลาดโลกลดลงกว่าช่วงต้นปีและกลางปี สำหรับตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญในไตรมาสที่ 4 ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา เบลเยียม พม่า และมาเลเซีย โดยการส่งออกไปประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 612.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.2 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ทั้งหมด
มูลค่าการนำเข้า - ส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม หน่วย : ล้านบาท
2545 2546
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4
นำเข้า 3,861.4 4,160.7 4,221.2 4,834.1 5,055.2 5,425.4 5,178.4 5,129.5
%เมื่อเทียบกับ Q 3 ปี 2546 (-0.9)
% เมื่อเทียบกับ Q 4 ปี 2545 (6.1)
ส่งออก 1,039.0 883.0 1,049.5 1,155.4 1,172.2 1,223.8 1,287.7 1,151.0
%เมื่อเทียบกับ Q 3 ปี 2546 (-10.6)
% เมื่อเทียบกับ Q 4 ปี 2545 (-0.4)
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : ปี 2546 เป็นตัวเลขเบื้องต้น
4.สรุป
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุเนื่องมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ หันมาใช้ยา
ที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการนำเข้ายาสำเร็จรูป
ราคาแพงที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ แต่การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมหดตัวลง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ
ผ้าพันแผล และสำลี และวัคซีนที่ใช้เป็นยาสำหรับมนุษย์ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากตลาดมีความต้องการวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคลดลงกว่าในช่วงต้นและกลางปี
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2547 คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศ จะขยายตัวเพิ่มขึ้น
จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 เนื่องจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ มีความต้องการใช้ยาจาก
ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการพยายามหาตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น
ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะหดตัวลง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศเริ่มที่จะผลิตยาที่สามารถแข่งขันกับยานำเข้าได้หลายประเภท
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-
อุตสาหกรรมยาเป็นอุตสาหกรรมที่ผลิตปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและสุขภาพของมนุษย์ จึงนับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบ
ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ทั้งด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการบริโภค
1. การผลิตและการจำหน่ายในประเทศ
ปริมาณการผลิตยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีประมาณ 6,196.1 ตัน ขยายตัวจากไตรมาส
เดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.9 สาเหตุสำคัญเนื่องมาจากมีการผลิตยาน้ำ และยาเม็ด เพิ่มขึ้น และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ปริมาณ
การผลิตยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ขยายตัวร้อยละ 3 โดยสาเหตุสำคัญเนื่องมาจากมีการผลิตยาน้ำ เพิ่มขึ้น สำหรับปริมาณการ
จำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีประมาณ 5,417.3 ตัน ขยายตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ร้อยละ 8 สาเหตุสำคัญเนื่องมาจาก มีการจำหน่ายยาเม็ด และยาน้ำเพิ่มขึ้น และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปริมาณการ
จำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ขยายตัวร้อยละ 3.2 ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากมีการจำหน่ายยาเม็ด และยาน้ำเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ปริมาณการผลิตและจำหน่ายยาและเภสัชภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หรือไตรมาสก่อน
สาเหตุส่วนหนึ่งเนื่องมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานพยาบาลภาครัฐหันมาใช้ยา
ที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศ หน่วย : ตัน
2545 2546
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4
ปริมาณการผลิต 5,049.3 5,219.9 5,907.5 5,692.2 6,067.8 5,530.5 6,015.8 6,196.1
% เมื่อเทียบกับQ 3 ปี 2546 (3.0)
% เมื่อเทียบกับQ 4 ปี 2545 (8.9)
ปริมาณการจำหน่าย 5,132.1 4,522.9 5,313.6 5,016.5 5,151.3 4,810.6 5,248.6 5,417.3
% เมื่อเทียบกับ Q 3 ปี 2546 (3.2)
% เมื่อเทียบกับ Q 4 ปี 2545 (8.0)
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จำนวนโรงงาน 34 โรงงาน
: ไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น
ปริมาณการผลิตยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศแยกตามรายผลิตภัณฑ์ หน่วย : ตัน
ประเภท 2545 2546
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4
ยาเม็ด 795.2 833.4 867.5 916.2 1,001.00 979.9 1,106.60 1,110.50
ยาน้ำ 2,543.40 2,489.80 2,868.20 2,953.70 3,120.10 2,771.20 2,948.60 3,214.80
ยาแคปซูล 127 144.9 165.1 140.8 145.1 116.1 152.4 120.1
ยาฉีด 73.7 80 109.5 145.4 133 89.7 105.1 83.4
ยาแดงทิงเจอร์ไอโอดีน 23 26.2 18.5 11 20.2 15.8 21.2 24.8
ยาครีม 376.8 359 436.8 485.5 411.8 346.8 467 501.9
ยาผง 710.2 863.6 1,027.90 610.6 897.6 885 870.9 789.6
พลาสเตอร์และเทปปิดแผล 400 423 414 429 339 326 344 351
รวม 5,049.30 5,219.90 5,907.50 5,692.20 6,067.80 5,530.50 6,015.80 6,196.10
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จำนวนโรงงาน 34 โรงงาน
: ไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น
ปริมาณการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศแยกตามรายผลิตภัณฑ์ หน่วย : ตัน
ประเภท 2545 2546
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4
ยาเม็ด 837.3 774 891.5 850.2 943 904.2 1,066.50 1,119.80
ยาน้ำ 3,344.00 2,752.60 3,247.60 3,151.00 3,278.70 2,968.20 3,174.60 3,254.90
ยาแคปซูล 139.8 115.7 178.2 145.6 146.9 126 178.7 159.4
ยาฉีด 62.4 64.8 81.1 108.1 87.4 71.4 75.4 84.2
ยาแดงทิงเจอร์ไอโอดีน 22.8 22.7 18.1 16.9 17.2 17.2 20.4 22.4
ยาครีม 424.8 372.4 483 416 389.8 399.9 398.1 394.9
ยาผง 178 303.7 291.1 198.7 120.3 155.7 176.9 224.7
พลาสเตอร์และเทปปิดแผล 123 117 123 130 168 168 158 157
รวม 5,132.10 4,522.90 5,313.60 5,016.50 5,151.30 4,810.60 5,248.60 5,417.30
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
หมายเหตุ : จำนวนโรงงาน 34 โรงงาน : ไตรมาสที่ 4 ปี 2546 เป็นตัวเลขประมาณการเบื้องต้น
2. การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีมูลค่า 5,129.5 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส
เดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.1 สาเหตุสำคัญมาจากมีการนำเข้ายารักษาโรค ที่เป็นยาสำเร็จรูปราคาแพงที่ไม่สามารถผลิตได้ใน
ประเทศ และเคมีปรุงแต่งที่ใช้คุมกำเนิด เพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมลดลงร้อยละ
0.9 โดยสาเหตุสำคัญเนื่องจาก มีการนำเข้ายาสำเร็จรูปลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ผลิตยาในประเทศเริ่มผลิตยาที่สามารถแข่งขัน
กับยานำเข้าราคาแพงได้หลายประเภท และมีราคาถูกกว่ายานำเข้า สำหรับตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ที่สำคัญในไตรมาส
ที่ 4 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการนำเข้าจากประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม
2,384.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 46.5 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
3. การส่งออก
การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีมูลค่า 1,151 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของ
ปีก่อน ร้อยละ 0.4 สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ลดลง และเมื่อเทียบกับ
ไตรมาสก่อน การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมลดลง ร้อยละ 10.6 สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกวัคซีนใช้เป็นยาสำหรับมนุษย์
และสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ลดลง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะความต้องการวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคในตลาดโลกลดลงกว่าช่วงต้นปีและกลางปี สำหรับตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญใน
ไตรมาสที่ 4 ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา เบลเยียม พม่า และมาเลเซีย โดยการส่งออกไปประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 612.4
ล้านบาท หรือร้อยละ 53.2 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ทั้งหมด
มูลค่าการนำเข้า - ส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม หน่วย : ล้านบาท
2545 2546
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4
นำเข้า 3,861.40 4,160.70 4,221.20 4,834.10 5,055.20 5,425.40 5,178.40 5,129.50
%? เมื่อเทียบกับ Q 3 ปี 2546 (-0.9)
%? เมื่อเทียบกับ Q 4 ปี 2545 -6.1
ส่งออก 1,039.00 883 1,049.50 1,155.40 1,172.20 1,223.80 1,287.70 1,151.00
%? เมื่อเทียบกับ Q 3 ปี 2546 (-10.6)
%? เมื่อเทียบกับ Q 4 ปี 2545 (-0.4)
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : ปี 2546 เป็นตัวเลขเบื้องต้น
4. สรุป
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุเนื่องมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ หันมาใช้ยา
ที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการนำเข้ายาสำเร็จรูป
ราคาแพงที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ แต่การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมหดตัวลง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ
ผ้าพันแผล และสำลี และวัคซีนที่ใช้เป็นยาสำหรับมนุษย์ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากตลาดมีความต้องการวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค และ
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคลดลงกว่าในช่วงต้นและกลางปี
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2547 คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศ จะขยายตัวเพิ่มขึ้น
จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 เนื่องจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ มีความต้องการใช้ยาจาก
ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการพยายามหาตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น
ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะหดตัวลง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศเริ่มที่จะผลิตยาที่สามารถแข่งขันกับยานำเข้าได้หลายประเภท
2. การนำเข้า
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีมูลค่า 5,129.5 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส
เดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.1 สาเหตุสำคัญมาจากมีการนำเข้ายารักษาโรค ที่เป็นยาสำเร็จรูปราคาแพงที่ไม่สามารถผลิตได้
ในประเทศ และเคมีปรุงแต่งที่ใช้คุมกำเนิด เพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน การนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมลดลงร้อยละ
0.9 โดยสาเหตุสำคัญเนื่องจาก มีการนำเข้ายาสำเร็จรูปลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ผลิตยาในประเทศเริ่มผลิตยาที่สามารถแข่งขัน
กับยานำเข้าราคาแพงได้หลายประเภท และมีราคาถูกกว่ายานำเข้า สำหรับตลาดนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ที่สำคัญในไตรมาส
ที่ 4 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งการนำเข้าจากประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม
2,384.2 ล้านบาท หรือร้อยละ 46.5 ของมูลค่าการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมทั้งหมด
3.การส่งออก
การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 มีมูลค่า 1,151 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของ
ปีก่อน ร้อยละ 0.4 สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ลดลง และเมื่อเทียบกับ
ไตรมาสก่อน การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมลดลง ร้อยละ 10.6 สาเหตุสำคัญมาจากการส่งออกวัคซีนใช้เป็นยาสำหรับมนุษย์
และสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ ผ้าพันแผล และสำลี ลดลง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะความต้องการวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค และ
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคในตลาดโลกลดลงกว่าช่วงต้นปีและกลางปี สำหรับตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่สำคัญในไตรมาสที่ 4 ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา เบลเยียม พม่า และมาเลเซีย โดยการส่งออกไปประเทศดังกล่าวมีมูลค่ารวม 612.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.2 ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม ทั้งหมด
มูลค่าการนำเข้า - ส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม หน่วย : ล้านบาท
2545 2546
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2 Q3 Q4
นำเข้า 3,861.4 4,160.7 4,221.2 4,834.1 5,055.2 5,425.4 5,178.4 5,129.5
%เมื่อเทียบกับ Q 3 ปี 2546 (-0.9)
% เมื่อเทียบกับ Q 4 ปี 2545 (6.1)
ส่งออก 1,039.0 883.0 1,049.5 1,155.4 1,172.2 1,223.8 1,287.7 1,151.0
%เมื่อเทียบกับ Q 3 ปี 2546 (-10.6)
% เมื่อเทียบกับ Q 4 ปี 2545 (-0.4)
ที่มา : กระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : ปี 2546 เป็นตัวเลขเบื้องต้น
4.สรุป
ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 ปริมาณการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุเนื่องมาจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ หันมาใช้ยา
ที่ผลิตจากในประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับการนำเข้าผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการนำเข้ายาสำเร็จรูป
ราคาแพงที่ไม่สามารถผลิตได้ในประเทศ แต่การส่งออกผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมหดตัวลง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดแวดดิ้ง ผ้ากอซ
ผ้าพันแผล และสำลี และวัคซีนที่ใช้เป็นยาสำหรับมนุษย์ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากตลาดมีความต้องการวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับป้องกันเชื้อโรคลดลงกว่าในช่วงต้นและกลางปี
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2547 คาดว่าการผลิตและการจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมในประเทศ จะขยายตัวเพิ่มขึ้น
จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2546 เนื่องจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ มีความต้องการใช้ยาจาก
ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการพยายามหาตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น
ส่วนการนำเข้าคาดว่าจะหดตัวลง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศเริ่มที่จะผลิตยาที่สามารถแข่งขันกับยานำเข้าได้หลายประเภท
--ศูนย์ประสานการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4375 , 0-2644-8604--
-พห-