นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. แปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจ จนเป็นสาเหตุให้กลุ่มผู้ที่ไม่เเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวออกมาชุมนุมประท้วงคัดค้านว่า ตนอยากให้รัฐบาลทำความเข้าใจแนวทางการแปรรูปให้ชัดเจน เพราะความห่วงใยของประชาชนและของพนักงาน กฟผ.ยังมีสูงมาก ในขณะที่ยังไม่เห็นเป้าหมายที่ชัดเจนของการแปรรูป
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายกฯ พูดอย่างเดียวว่าจะนำ กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อประโยชน์ในการบริหารการเงินและทรัพย์สิน ซึ่งผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับรัฐส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็จะตกอยู่กับผู้ที่เข้ามาซื้อหุ้น ทั้งนี้ การแปรรูปในอดีตจะต้องเอาเรื่องประสิทธิภาพและการบริการประชาชนเป็นตัวตั้ง โดยเฉพาะกิจการผูกขาดจะต้องมีการกำหนดกติกาการกำกับดูแล และการประกอบกิจการให้ชัด แต่รัฐบาลยังไม่ได้สานต่อในเรื่องเหล่านี้ หรือทำให้ประชาชนและพนักงานมีความมั่นใจ นอกจากนี้เห็นว่าคำชี้แจงของนายกฯ ยังคลาดเคลื่อนและสับสนอยู่ เช่น ที่บอกว่าต่อไปนี้เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วหนี้ที่เป็นอยู่จะไม่เป็นหนี้สาธารณะก็ไม่เป็นความจริง เพราะตราบใดที่รัฐบาลยังถือหุ้นข้างมาก ก็ยังเป็นหนี้สาธารณะอยู่
‘ช่วงหลังของการแปรรูปกิจการสาธารณะหลายอย่าง จะมีกิจการของต่างชาติและกลุ่มทุนใหญ่ในประเทศซึ่งมีผลประโยชน์ทางการเมือง และผลประโยชน์อื่นแฝงอยู่เข้ามีบทบาทมาก ดังนั้นนายกฯ ควรจะใช้เวลาตรงนี้สร้างความเข้าใจและยอมรับความเห็น ความห่วงใยกันทุกฝ่าย ไม่ใช่พูดข่มขู่อย่างเดียว ถ้านายกฯ ยังเห็นว่าใครก็ตามที่เห็นไม่ตรงกันเป็นคนไม่รักชาติ ก็เป็นเรื่องยากที่จะใช้เหตุผลในการอธิบายกระบวนการสาธารณะและกระบวนการประชาธิปไตย’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 02/03/47--จบ--
-สส-
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายกฯ พูดอย่างเดียวว่าจะนำ กฟผ.เข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อประโยชน์ในการบริหารการเงินและทรัพย์สิน ซึ่งผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับรัฐส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็จะตกอยู่กับผู้ที่เข้ามาซื้อหุ้น ทั้งนี้ การแปรรูปในอดีตจะต้องเอาเรื่องประสิทธิภาพและการบริการประชาชนเป็นตัวตั้ง โดยเฉพาะกิจการผูกขาดจะต้องมีการกำหนดกติกาการกำกับดูแล และการประกอบกิจการให้ชัด แต่รัฐบาลยังไม่ได้สานต่อในเรื่องเหล่านี้ หรือทำให้ประชาชนและพนักงานมีความมั่นใจ นอกจากนี้เห็นว่าคำชี้แจงของนายกฯ ยังคลาดเคลื่อนและสับสนอยู่ เช่น ที่บอกว่าต่อไปนี้เมื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วหนี้ที่เป็นอยู่จะไม่เป็นหนี้สาธารณะก็ไม่เป็นความจริง เพราะตราบใดที่รัฐบาลยังถือหุ้นข้างมาก ก็ยังเป็นหนี้สาธารณะอยู่
‘ช่วงหลังของการแปรรูปกิจการสาธารณะหลายอย่าง จะมีกิจการของต่างชาติและกลุ่มทุนใหญ่ในประเทศซึ่งมีผลประโยชน์ทางการเมือง และผลประโยชน์อื่นแฝงอยู่เข้ามีบทบาทมาก ดังนั้นนายกฯ ควรจะใช้เวลาตรงนี้สร้างความเข้าใจและยอมรับความเห็น ความห่วงใยกันทุกฝ่าย ไม่ใช่พูดข่มขู่อย่างเดียว ถ้านายกฯ ยังเห็นว่าใครก็ตามที่เห็นไม่ตรงกันเป็นคนไม่รักชาติ ก็เป็นเรื่องยากที่จะใช้เหตุผลในการอธิบายกระบวนการสาธารณะและกระบวนการประชาธิปไตย’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 02/03/47--จบ--
-สส-