กรุงเทพ--3 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2547 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังศาสตราจารย์ Dr. Ahmed Mohamed Ahmed Al Tayeb อธิการบดีมหาวิทยาลัย Al-Azhar ประเทศอียิปต์ และคณะเข้าเยี่ยมคารวะที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งสาขาของมหาวิทยาลัยดังกล่าวในประเทศไทย สรุปได้ดังนี้
1. อธิการบดีมหาวิทยาลัย Al-Azhar เห็นด้วยในหลักการต่อข้อเสนอของฝ่ายไทยที่จะตั้งสาขาของมหาวิทยาลัย Al-Azhar ที่ประเทศไทย ซึ่งอาจจะเริ่มจากการตั้งสาขาเล็กๆในมหาวิทยาลัยทางภาคใต้และพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยอิสลามเต็มรูปแบบต่อไป
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ตัวแทนมหาวิทยาลัย Al-Azhar ทราบถึงการเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ของบาห์เรนและเข้าพบนายกรัฐมนตรีของประเทศบาห์เรน รวมถึงการเข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยได้รับการแจ้งย้ำจากผู้นำของสองประเทศดังกล่าวว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกด้านในการจัดตั้งสาขาของมหาวิทยาลัย Al-Azharในประเทศไทย โดยเฉพาะความช่วยเหลือด้านหลักสูตรการศึกษาที่แต่ละประเทศมีความเชี่ยวชาญ
3. รัฐบาลไทยจะรับเป็นเจ้าภาพในการจัดหาสถานที่และค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่นการจ้างคณาจารย์และผู้ทรงคุณวุฒิ การจัดทำหลักสูตร เป็นต้น โดยการเตรียมหลักสูตรจะครอบคลุมหลากหลายสาขานอกเหนือจากการสอนที่เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนา อิสลาม เช่น การเปิดสอนสาขาการแพทย์ การบัญชี และวิศวกรรมศาสตร์ ในเบื้องต้นได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะจัดตั้งสาขามหาวิทยาลัยประมาณเดือนกันยายนนี้ ทั้งนี้ขึ้นกับความพร้อมของไทยเป็นหลัก
4. นอกจากการเข้าเยี่ยมคารวะ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คณะฯ จะเข้าพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของไทย เพื่อหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียด เช่น จำนวนนักศึกษาที่สนใจเข้าศึกษาและระดับความสามารถทางภาษาอารบิกของนักศึกษาไทย เพื่อให้ตัวแทนของมหาวิทยาลัย Al-Azhar นำข้อมูลไปประสานกับผู้นำสูงสุดทางศาสนาของอียิปต์ต่อไป
5. ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมกับสื่อมวลชนว่า มหาวิทยาลัย Al-Azhar เป็นมหาวิทยาลัยอิสลามที่เก่าแก่และมีมาตรฐานสูงของโลก การร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัย Al-Azhar กับมหาวิทยาลัยของไทยจะทำให้สามารถผลิตบัณฑิตให้เป็นที่ยอมรับในโลกอิสลาม และแผนการจัดตั้งมหาวิทยาลัยอิสลามดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์แผนการพัฒนาภาคใต้ และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านการศึกษา ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการมาก่อนที่เหตุการณ์ไม่สงบในภาคใต้จะเกิดขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลยังคงสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาชาวไทยมุสลิมเพื่อไปศึกษายังต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอียิปต์ที่มีความพร้อมในด้านการศึกษา
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2547 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังศาสตราจารย์ Dr. Ahmed Mohamed Ahmed Al Tayeb อธิการบดีมหาวิทยาลัย Al-Azhar ประเทศอียิปต์ และคณะเข้าเยี่ยมคารวะที่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งสาขาของมหาวิทยาลัยดังกล่าวในประเทศไทย สรุปได้ดังนี้
1. อธิการบดีมหาวิทยาลัย Al-Azhar เห็นด้วยในหลักการต่อข้อเสนอของฝ่ายไทยที่จะตั้งสาขาของมหาวิทยาลัย Al-Azhar ที่ประเทศไทย ซึ่งอาจจะเริ่มจากการตั้งสาขาเล็กๆในมหาวิทยาลัยทางภาคใต้และพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยอิสลามเต็มรูปแบบต่อไป
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งให้ตัวแทนมหาวิทยาลัย Al-Azhar ทราบถึงการเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์ของบาห์เรนและเข้าพบนายกรัฐมนตรีของประเทศบาห์เรน รวมถึงการเข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยได้รับการแจ้งย้ำจากผู้นำของสองประเทศดังกล่าวว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกด้านในการจัดตั้งสาขาของมหาวิทยาลัย Al-Azharในประเทศไทย โดยเฉพาะความช่วยเหลือด้านหลักสูตรการศึกษาที่แต่ละประเทศมีความเชี่ยวชาญ
3. รัฐบาลไทยจะรับเป็นเจ้าภาพในการจัดหาสถานที่และค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่นการจ้างคณาจารย์และผู้ทรงคุณวุฒิ การจัดทำหลักสูตร เป็นต้น โดยการเตรียมหลักสูตรจะครอบคลุมหลากหลายสาขานอกเหนือจากการสอนที่เน้นเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนา อิสลาม เช่น การเปิดสอนสาขาการแพทย์ การบัญชี และวิศวกรรมศาสตร์ ในเบื้องต้นได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะจัดตั้งสาขามหาวิทยาลัยประมาณเดือนกันยายนนี้ ทั้งนี้ขึ้นกับความพร้อมของไทยเป็นหลัก
4. นอกจากการเข้าเยี่ยมคารวะ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คณะฯ จะเข้าพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของไทย เพื่อหารือกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียด เช่น จำนวนนักศึกษาที่สนใจเข้าศึกษาและระดับความสามารถทางภาษาอารบิกของนักศึกษาไทย เพื่อให้ตัวแทนของมหาวิทยาลัย Al-Azhar นำข้อมูลไปประสานกับผู้นำสูงสุดทางศาสนาของอียิปต์ต่อไป
5. ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมกับสื่อมวลชนว่า มหาวิทยาลัย Al-Azhar เป็นมหาวิทยาลัยอิสลามที่เก่าแก่และมีมาตรฐานสูงของโลก การร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัย Al-Azhar กับมหาวิทยาลัยของไทยจะทำให้สามารถผลิตบัณฑิตให้เป็นที่ยอมรับในโลกอิสลาม และแผนการจัดตั้งมหาวิทยาลัยอิสลามดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์แผนการพัฒนาภาคใต้ และแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านการศึกษา ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการมาก่อนที่เหตุการณ์ไม่สงบในภาคใต้จะเกิดขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลยังคงสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาชาวไทยมุสลิมเพื่อไปศึกษายังต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอียิปต์ที่มีความพร้อมในด้านการศึกษา
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-