บันทึกการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ ๙ (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ

ข่าวการเมือง Thursday March 4, 2004 11:45 —รัฐสภา

                        บันทึกการประชุมวุฒิสภา
ครั้งที่ ๙ (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ
วันอังคารที่ ๒ มีนาคม ๒๕๔๗
ณ ตึกรัฐสภา
เริ่มประชุมเวลา ๐๙.๔๕ นาฬิกา
เมื่อสมาชิกฯ มาประชุมครบองค์ประชุมแล้ว นายสหัส พินทุเสนีย์ รองประธานวุฒิสภา
คนที่สอง ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภา ขึ้นบัลลังก์
ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภาได้กล่าวเปิดประชุมแล้วแจ้งให้ที่ประชุม
รับทราบเรื่องในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ ๖ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่
๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ที่ประชุมได้พิจารณาและรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๔๕
ของสถาบันพระปกเกล้า ตามมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติสถาบันพระปกเกล้า พ.ศ. ๒๕๔๑
และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๕ ของสำนักงานการตรวจเงิน
แผ่นดิน ตามมาตรา ๔๘ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน
พ.ศ. ๒๕๔๒ แล้ว
ต่อมา ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภาได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องด่วน
คือ เลือกกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ตามมาตรา ๘ (๒) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยที่คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ
ประวัติและความประพฤติของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
ได้ร้องขอให้มีการประชุมลับเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ตามข้อบังคับฯ ข้อ ๑๐๓ วรรคสอง
ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภาจึงดำเนินการประชุมลับเพื่อ
พิจารณาเรื่องดังกล่าว หลังจากคณะกรรมาธิการฯ เสนอรายงาน และมีสมาชิกฯ อภิปรายแล้ว
ที่ประชุมได้ลงมติเลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อในประเภทต่าง ๆ เพื่อดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ
ตรวจเงินแผ่นดิน ดังนี้
ประเภท (๑) เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ ๑๐
หรือเทียบเท่า ซึ่งมีความชำนาญและประสบการณ์ด้านการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ได้รับเลือก คือ
นางรวีพร คูหิรัญ โดยที่มีผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ประเภท (๑) เพียง ๑ คน
จึงต้องดำเนินการสรรหาและจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้วุฒิสภาลงมติเลือกใหม่อีก ๑ คน
ประเภท (๒) เป็นผู้ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ด้านการบัญชี การสอบบัญชี
หรือการตรวจสอบภายใน ผู้ได้รับเลือก คือ นางศศิพัฒน์ เศวตวัฒนา
ประเภท (๓) เป็นผู้ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ด้านเศรษฐศาสตร์ การเงิน
การคลัง หรือการบริหารธุรกิจ ผู้ได้รับเลือก คือ นายเกรียงศักดิ์ วัฒนวรางกูร โดยที่มีผู้ได้รับเลือก
เป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ประเภท (๓) เพียง ๑ คน จึงต้องดำเนินการสรรหาและจัดทำ
บัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้วุฒิสภาลงมติเลือกใหม่อีก ๑ คน
ประเภท (๔) เป็นผู้ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ด้านวิศวกรรมศาสตร์
นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ หรือศาสตร์สาขาอื่นที่เป็นประโยชน์แก่งานการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ได้รับเลือก
คือ พลเอก ยอดชาย เทพยสุวรรณ และนายชาญยุทธ ปทุมารักษ์
ประเภท (๕) ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับประธานกรรมการ
กรรมการ กรรมการผู้จัดการ หรือตำแหน่งเทียบเท่าที่เรียกชื่ออย่างอื่นของธุรกิจ ซึ่งเป็นบริษัท
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยต้องดำรงตำแหน่งดังกล่าวเป็นเวลา
ไม่น้อยกว่าสิบปี ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดได้รับเลือกเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน จึงต้องดำเนินการ
สรรหาและจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติมเพื่อให้วุฒิสภาลงมติเลือกใหม่อีก ๒ คน
จากนั้น ผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภาได้ดำเนินการประชุมโดยเปิดเผย
โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้นำเรื่องตั้งกรรมาธิการแทนตำแหน่งที่ว่าง รวม ๒ คณะ
ให้ที่ประชุมพิจารณา ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานวุฒิสภาจึงเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว
ตามลำดับ ดังนี้
๑. ตั้งกรรมาธิการการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แทนตำแหน่งที่ว่าง ๑ ตำแหน่ง
ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ตั้ง นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ เป็นกรรมาธิการแทน นายเสรี สุวรรณภานนท์
ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่ง
๒. ตั้งกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา แทนตำแหน่งที่ว่าง ๑ ตำแหน่ง
ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ตั้ง นายวิบูลย์ แช่มชื่น เป็นกรรมาธิการแทน นายพนัส ทัศนียานนท์
ซึ่งขอลาออกจากตำแหน่ง
เลิกประชุมเวลา ๑๘.๓๐ นาฬิกา
(นายมนตรี รูปสุวรรณ)
เลขาธิการวุฒิสภา
กลุ่มงานรายงานการประชุม
สำนักรายงานการประชุมและชวเลข
โทร. ๐ ๒๖๖๘ ๖๒๙๐ - ๕ ต่อ ๑๑๐-๑๑๑
โทรสาร ๐ ๒๖๖๘ ๖๒๙๐ - ๕ ต่อ ๑๒๑

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ