แท็ก
ธปท.
1. ฐานเงินและปริมาณเงิน
ฐานเงิน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ระดับ 682.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.9 จากระยะเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 จากเดือนก่อนหน้า
การเปลี่นแปลงที่สำคัญด้านอุปทานของฐานเงินจากเดือนก่อนหน้าได้แก่ (1) สินทรัพย์ต่างประเทศสุทธิของทางการที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก (2) สินเชื่อสุทธิที่ ธปท. ให้แก่รัฐบาลซึ่งลดลงตามการเพิ่มขึ้นของเงินฝากภาครัฐที่ ธปท. และ (3) สินเชื่อสุทธิที่ ธปท. ให้แก่สถาบันการเงินซึ่งลดลงเนื่องจากสถาบันการเงินเพิ่มการลงทุนในตลาดซื้อคืนพันธบัตรและในพันธบัตรของ ธปท.
ปริมาณเงิน M2 M2a และ M3 ในเดือนกุมภาพันธ์ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.4 7.1 และ 5.7 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการขยายตัวที่เร่งขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ โดยสินทรัพย์ต่างประเทศสุทธิและสินเชื่อที่ให้แก่ภาครัฐเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
2. อัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
-เงินบาทมีความผัวผวนและอ่อนค่าลงในช่วงหลังของเดือน
-อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดการเงินปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทุกระยะปรับลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
2.1 อัตราแลกเปลี่ยน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 39.10 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 39.09 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ในเดือนมกราคม โดยในช่วงครึ่งแรกของเดือน เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยและสถานการณ์ไข้หวัดนกในไก่ที่คลี่คลายลง รวมทั้งผลจากการประชุม G7 ที่เรียกร้องให้ประเทศในเอเชียยอมให้อัตราแลกเปลี่ยนมีความยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของเดือน เงินบาทได้อ่อนค่าลงตามค่าเงินในภูมิภาค
สำหรับค่าเงินบาทเฉลี่ยในช่วงวันที่ 1-25 มีนาคม 2547 อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 39.44 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. เป็นผลจาก Sentiment ของค่าเงินดอลลาร์ สรอ. ที่ดีขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลจากข่าวการปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยของ Merrill Lynch กอปรกับมีความต้องการซื้อเงินดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากทั้งรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน อย่างไรก็ตามเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนหลังจากมีการประกาศตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ที่อยู่ในระดับสูง
2.2 อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน ในเดือนกุมภาพันธ์ อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 0.98 ต่อปี เนื่องจากสภาพคล่องในระบบตึงตัวขึ้นจากความต้องการกู้ยืนเงินเพิ่มขึ้นของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งประกอบกับในช่วงปลายเดือนธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้นบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ได้ลดลงความต้องการลงทุนเพื่อเตรียมสภาพคล่องสำหรับชำระค่าหุ้นดังกล่าว ส่วนอัตรดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร (Interbank) ระยะ 1 วันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในเดือนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.05 ต่อปี
สำหรับในช่วงวันที่ 1-25 มีนาคม 2547 อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนกุมภาพันธ์มาเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.00 ต่อปี โดยสภาพคล่องในระบบตึงตัวขึ้นในช่วงวันหยุดยาวและช่วงสิ้นปักษ์การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะ 1 วัน ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 1.05 ต่อปี
2.3 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ในเดือนกุมภาพันธ์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทุกระยะปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนระยะยาว เนื่องจากนักลงทุนได้ลงทุนเพิ่มขึ้นในตลาดพันธบัตรแทนตลาดหลักทรัพย์ที่ยังคงมีความผันผวนจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการเก็งกำไรของ กลต. และเป็นไปตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับลดลงด้วย
ในช่วงวันที่ 1-25 มีนาคม 2547 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทุกระยะปรับลดลงต่อเนื่อง โดยสาเหตุสำคัญยังคงเป็นผลจากความไม่มั่นใจของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ดัชนีมีการปรับลดลงและผันผวน ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นรวมทั้งเป็นการปรับลดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าสหรัฐฯจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
3.เงินฝากและสินเชื่อภาคเอชนของระบบธนาคารพาณิชย์
-สินเชื่อขยายตัวในอัตราที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เงินฝากขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน
-อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน
3.1 เงินฝากธนาคารพาณิชย์ ขยายตัวร้อยละ 4.9 จากระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อยเทียบกับเดือนมกราคม ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากเงินฝากภาคเอกชน
3.2 สินเชื่อภาคเอกชน (รวมการถือหลักทรัพย์ของเอกชน) ของธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 3.8 ซึ่งเป็นอัตราทีเร่งขึ้นจากเดือนก่อน โดยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเป็นการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญืให้แก่ภาคธุรกิจเป็นสำคัญ
3.3 อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่งในเดือนกุมภาพันธ์และในช่วงวันที่ 1-25 มีนาคม 2547 คงอยู่ระดับเดิมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.00 และ 5.69 ต่อปี ตามลำดับ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ชบ-
ฐานเงิน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ระดับ 682.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.9 จากระยะเดียวกันปีก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 จากเดือนก่อนหน้า
การเปลี่นแปลงที่สำคัญด้านอุปทานของฐานเงินจากเดือนก่อนหน้าได้แก่ (1) สินทรัพย์ต่างประเทศสุทธิของทางการที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก (2) สินเชื่อสุทธิที่ ธปท. ให้แก่รัฐบาลซึ่งลดลงตามการเพิ่มขึ้นของเงินฝากภาครัฐที่ ธปท. และ (3) สินเชื่อสุทธิที่ ธปท. ให้แก่สถาบันการเงินซึ่งลดลงเนื่องจากสถาบันการเงินเพิ่มการลงทุนในตลาดซื้อคืนพันธบัตรและในพันธบัตรของ ธปท.
ปริมาณเงิน M2 M2a และ M3 ในเดือนกุมภาพันธ์ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.4 7.1 และ 5.7 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการขยายตัวที่เร่งขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ โดยสินทรัพย์ต่างประเทศสุทธิและสินเชื่อที่ให้แก่ภาครัฐเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
2. อัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล
-เงินบาทมีความผัวผวนและอ่อนค่าลงในช่วงหลังของเดือน
-อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดการเงินปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทุกระยะปรับลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
2.1 อัตราแลกเปลี่ยน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 39.10 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 39.09 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. ในเดือนมกราคม โดยในช่วงครึ่งแรกของเดือน เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยและสถานการณ์ไข้หวัดนกในไก่ที่คลี่คลายลง รวมทั้งผลจากการประชุม G7 ที่เรียกร้องให้ประเทศในเอเชียยอมให้อัตราแลกเปลี่ยนมีความยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของเดือน เงินบาทได้อ่อนค่าลงตามค่าเงินในภูมิภาค
สำหรับค่าเงินบาทเฉลี่ยในช่วงวันที่ 1-25 มีนาคม 2547 อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 39.44 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. เป็นผลจาก Sentiment ของค่าเงินดอลลาร์ สรอ. ที่ดีขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และผลจากข่าวการปรับลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยของ Merrill Lynch กอปรกับมีความต้องการซื้อเงินดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากทั้งรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน อย่างไรก็ตามเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนหลังจากมีการประกาศตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ที่อยู่ในระดับสูง
2.2 อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน ในเดือนกุมภาพันธ์ อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 0.98 ต่อปี เนื่องจากสภาพคล่องในระบบตึงตัวขึ้นจากความต้องการกู้ยืนเงินเพิ่มขึ้นของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งประกอบกับในช่วงปลายเดือนธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้นบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ได้ลดลงความต้องการลงทุนเพื่อเตรียมสภาพคล่องสำหรับชำระค่าหุ้นดังกล่าว ส่วนอัตรดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร (Interbank) ระยะ 1 วันก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในเดือนนี้เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.05 ต่อปี
สำหรับในช่วงวันที่ 1-25 มีนาคม 2547 อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนกุมภาพันธ์มาเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.00 ต่อปี โดยสภาพคล่องในระบบตึงตัวขึ้นในช่วงวันหยุดยาวและช่วงสิ้นปักษ์การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะ 1 วัน ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 1.05 ต่อปี
2.3 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ในเดือนกุมภาพันธ์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทุกระยะปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนระยะยาว เนื่องจากนักลงทุนได้ลงทุนเพิ่มขึ้นในตลาดพันธบัตรแทนตลาดหลักทรัพย์ที่ยังคงมีความผันผวนจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการเก็งกำไรของ กลต. และเป็นไปตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับลดลงด้วย
ในช่วงวันที่ 1-25 มีนาคม 2547 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทุกระยะปรับลดลงต่อเนื่อง โดยสาเหตุสำคัญยังคงเป็นผลจากความไม่มั่นใจของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ดัชนีมีการปรับลดลงและผันผวน ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นรวมทั้งเป็นการปรับลดตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าสหรัฐฯจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
3.เงินฝากและสินเชื่อภาคเอชนของระบบธนาคารพาณิชย์
-สินเชื่อขยายตัวในอัตราที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เงินฝากขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน
-อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน
3.1 เงินฝากธนาคารพาณิชย์ ขยายตัวร้อยละ 4.9 จากระยะเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อยเทียบกับเดือนมกราคม ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากเงินฝากภาคเอกชน
3.2 สินเชื่อภาคเอกชน (รวมการถือหลักทรัพย์ของเอกชน) ของธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 3.8 ซึ่งเป็นอัตราทีเร่งขึ้นจากเดือนก่อน โดยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเป็นการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญืให้แก่ภาคธุรกิจเป็นสำคัญ
3.3 อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่งในเดือนกุมภาพันธ์และในช่วงวันที่ 1-25 มีนาคม 2547 คงอยู่ระดับเดิมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.00 และ 5.69 ต่อปี ตามลำดับ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ชบ-