1. เสถียรภาพในประเทศ
เสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งด้านราคา ภาวะการจ้างงาน และหนี้สาธารณะ
- อัตราเงินเฟ้อ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.2 โดยราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 เพราะแม้ราคาเนื้อไก่จะลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับโรคไข้หวัดนกในไก่แต่ความต้องการเนื้อสุกรที่เพิ่มขึ้นในภาวะที่ผู้บริโภคหันมาบริโภคสุกรที่เพิ่มขึ้นในภาวะที่ผู้บริโภคหันมาบริโภคสุกรแทนไก่ได้ส่งผลให้ราคาเนื้อสุกรสูงขึ้นส่วนราคาในหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.2 ตามการปรับขึ้นจากร้อยละ -0.1 ในเดือนมกราคมเป็นร้อยละ 0.2 ด้วย
- อัตราการว่างงาน
ในเดือนมกราคม 2547 ผู้ว่างงานมีจำนวนประมาณ 1.3 ล้านคน และอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3.7 เทียบกับร้อยละ 3.4 ในปีก่อน ทั้งนี้ สภาพอากาศที่แห้งแล้งและโรคไข้หวัดนกที่ระบาดในไก่ส่งผลให้การจ้างงานในภาคเกษตรและภาคการผลิตหดตัว แต่ผลดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาโรงแรม ภัตตาคาร และการก่อสร้าง
- หนี้สาธารณะ
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2546 หนี้สาธารณะมีจำนวน 2,902.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 2.9 พันล้านบาทโดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจำนวน 17.0 พันล้านบาทขณะที่หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงและหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงินลดลง 2.8 และ 11.4 พันล้านบาท ตามลำดับอนึ่ง สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศอยู่ที่ประมาณร้อยละ 49.2 ทรงตัวใกล้เคียงกับร้อยละ 49.1 ในเดือนก่อน
2. เสถียรภาพต่างประเทศ
- หนี้ต่างประเทศ
ในเดือนนี้มีการปรับตัวเลขหนี้ต่างประเทศย้อนหลังถึงไตรมาส 3 ปี 2546 ตามผลสำรวจหนี้ของธุรกิจที่มิใช่ธนาคารในไตรมาส 4 ปี 2546 และการปรับข้อมูลภาครัฐบาลเพื่อให้สอดคล้องกับของกระทรวงการคลังทำให้ยอดคงค้างหนี้ต่างประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.2 และไตรมาส 4 ปี 2546 ลดลงสุทธิ 0.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ.อยู่ที่ 52.7 และ 51.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ.ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2546
หนี้ต่างประเทศระยะสั้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.5 ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนจากการนำเข้าเงินกู้ระยะสั้นและสินเชื่อการค้าของภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคาร
หนี้ภาคเอชนมีจำนวน 35.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.โดยภาคเอกชนที่มิใช่ธนาคาร โดยเฉพาะธุรกิจการเงินและธุรกิจน้ำมันได้นำเข้าเงินกู้และสินเชื่อการค้าสุทธิ 0.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในขณะที่ภาคธนาคารชำระหนี้ 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ.สุทธิจึงมีการนำเข้าเงินกู้ในภาคเอกชน 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ.และเมื่อรวมผลของค่าเงินเยนที่แข็งขึ้นแล้วหนี้ภาคเอกชนจึงเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 0.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
หนี้ภาคทางการเพิ่มขึ้น 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ.เพราะแม้ว่ามีการนำเข้าเงินกู้สุทธิเพียงเล็กน้อยแต่ผลจากการเข็งค่าของเงินเยนทำให้ยอดคงค้างหนี้ต่างประเทศภาคทางการเพิ่มขึ้นเมื่อคิดเป็นเงินสกุลดอลลาร์ สรอ.
-เงินสำรองระหว่างประเทศ
เงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงโดย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2547 อยู่ที่ 42.9 พันล้านดอลลาร์ สรอ.และยังมียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ จำนวน 7.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
- ดัชนี้วัดเสถียรภาพต่างประเทศ
เสถียรภาพด้านต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีแม้ว่าสัดส่วนเงินสำรองทางการต่อหนี้ระยะสั้นที่เพิ่มขึ้นแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์สูงสัดส่วนเงินสำรองทางการต่อกานำเข้าลดลงเล็กน้อยเช่นกัน ซึ่งเป็นผลจากการที่มูลค่าการนำเข้าสูงขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ลจ-
เสถียรภาพเศรษฐกิจในประเทศโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งด้านราคา ภาวะการจ้างงาน และหนี้สาธารณะ
- อัตราเงินเฟ้อ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.2 โดยราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 เพราะแม้ราคาเนื้อไก่จะลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับโรคไข้หวัดนกในไก่แต่ความต้องการเนื้อสุกรที่เพิ่มขึ้นในภาวะที่ผู้บริโภคหันมาบริโภคสุกรที่เพิ่มขึ้นในภาวะที่ผู้บริโภคหันมาบริโภคสุกรแทนไก่ได้ส่งผลให้ราคาเนื้อสุกรสูงขึ้นส่วนราคาในหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.2 ตามการปรับขึ้นจากร้อยละ -0.1 ในเดือนมกราคมเป็นร้อยละ 0.2 ด้วย
- อัตราการว่างงาน
ในเดือนมกราคม 2547 ผู้ว่างงานมีจำนวนประมาณ 1.3 ล้านคน และอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 3.7 เทียบกับร้อยละ 3.4 ในปีก่อน ทั้งนี้ สภาพอากาศที่แห้งแล้งและโรคไข้หวัดนกที่ระบาดในไก่ส่งผลให้การจ้างงานในภาคเกษตรและภาคการผลิตหดตัว แต่ผลดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาโรงแรม ภัตตาคาร และการก่อสร้าง
- หนี้สาธารณะ
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2546 หนี้สาธารณะมีจำนวน 2,902.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 2.9 พันล้านบาทโดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจำนวน 17.0 พันล้านบาทขณะที่หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงและหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงินลดลง 2.8 และ 11.4 พันล้านบาท ตามลำดับอนึ่ง สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศอยู่ที่ประมาณร้อยละ 49.2 ทรงตัวใกล้เคียงกับร้อยละ 49.1 ในเดือนก่อน
2. เสถียรภาพต่างประเทศ
- หนี้ต่างประเทศ
ในเดือนนี้มีการปรับตัวเลขหนี้ต่างประเทศย้อนหลังถึงไตรมาส 3 ปี 2546 ตามผลสำรวจหนี้ของธุรกิจที่มิใช่ธนาคารในไตรมาส 4 ปี 2546 และการปรับข้อมูลภาครัฐบาลเพื่อให้สอดคล้องกับของกระทรวงการคลังทำให้ยอดคงค้างหนี้ต่างประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นสุทธิ 0.2 และไตรมาส 4 ปี 2546 ลดลงสุทธิ 0.6 พันล้านดอลลาร์ สรอ.อยู่ที่ 52.7 และ 51.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ.ตามลำดับ
เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2546
หนี้ต่างประเทศระยะสั้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.5 ของหนี้ต่างประเทศทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนจากการนำเข้าเงินกู้ระยะสั้นและสินเชื่อการค้าของภาคธุรกิจที่มิใช่ธนาคาร
หนี้ภาคเอชนมีจำนวน 35.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.โดยภาคเอกชนที่มิใช่ธนาคาร โดยเฉพาะธุรกิจการเงินและธุรกิจน้ำมันได้นำเข้าเงินกู้และสินเชื่อการค้าสุทธิ 0.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในขณะที่ภาคธนาคารชำระหนี้ 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ.สุทธิจึงมีการนำเข้าเงินกู้ในภาคเอกชน 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ.และเมื่อรวมผลของค่าเงินเยนที่แข็งขึ้นแล้วหนี้ภาคเอกชนจึงเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 0.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
หนี้ภาคทางการเพิ่มขึ้น 0.2 พันล้านดอลลาร์ สรอ.เพราะแม้ว่ามีการนำเข้าเงินกู้สุทธิเพียงเล็กน้อยแต่ผลจากการเข็งค่าของเงินเยนทำให้ยอดคงค้างหนี้ต่างประเทศภาคทางการเพิ่มขึ้นเมื่อคิดเป็นเงินสกุลดอลลาร์ สรอ.
-เงินสำรองระหว่างประเทศ
เงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงโดย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2547 อยู่ที่ 42.9 พันล้านดอลลาร์ สรอ.และยังมียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ จำนวน 7.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
- ดัชนี้วัดเสถียรภาพต่างประเทศ
เสถียรภาพด้านต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีแม้ว่าสัดส่วนเงินสำรองทางการต่อหนี้ระยะสั้นที่เพิ่มขึ้นแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์สูงสัดส่วนเงินสำรองทางการต่อกานำเข้าลดลงเล็กน้อยเช่นกัน ซึ่งเป็นผลจากการที่มูลค่าการนำเข้าสูงขึ้นตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ลจ-