กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดกิจกรรมภายใต้โครงการส่งเสริมตลาดการค้าการลงทุน สินค้าอุตสาหกรรมอาเซียน ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม (CLMV) โดยจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการและดูงานเรื่อง Workshop on Market Promotion and Product Development on Raw hides skin and leather ระหว่างวันที่ 16-20 กุมภาพันธ์ 2547 ณ ห้องประชุมสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย บางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องมาตรฐานสินค้าหนังสัตว์ (หนังดิบ หนังฟอก) และเพื่อให้เกิดการเชื่อม โยงทางด้านการผลิตและการตลาดระหว่างไทยแก่ประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน (กัมพูชา, ลาวและพม่า)
การสัมมนาเชิงปฏิบัติการดังกล่าว เสร็จสิ้นแล้ว สรุปผลการสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ สรุปได้ดังนี้
1. ผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย ผู้แทนจากประเทศสมาชิกใหม่อาเซียนและผู้แทนไทยรวม ทั้งสิ้น 30 คน
2. การสัมมนาฯแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนของทฤษฎี โดยได้เชิญผู้แทนจาก ศูนย์ส่งเสริมพลัง ชีวะมวล มาบรรยายในภาพรวมของธุรกิจการค้าหนังดิบและหนังฟอกของโลก ผู้แทนจากสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย มาบรรยายในเรื่องการรักษาคุณภาพของหนังดิบและหนังฟอก ที่มีคุณภาพตาม ความต้องการของผู้ซื้อ นอกจากนี้ได้เชิญผู้แทนจากกรมการค้าต่างประเทศแนะนำการใช้ฟอร์ม ดี ใน รายการหนังดิบ หนังฟอก และผลิตภัณฑ์หนัง ภายใต้สิทธิ CEPT
ส่วนที่ 2 การดูงานจัดให้คณะดูงานโรงเก็บหนังดิบ บ่อบำบัดน้ำเสียสำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง บริษัท ซี.พี.แอล กรุ๊ปและ บริษัท ศรีภัณฑ์ยาคอบ จำกัด
3. ข้อมูลเบื้องต้น จากผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ จากกัมพูชา ลาว และพม่า สรุปได้ดังนี้
3.1 กัมพูชา มีประชากรวัว-ความประมาณ 7 ล้านตัว ส่วนใหญ่ใช้ในไร่นาและนำเนื้อมาบริโภคมากกว่า ผู้เลี้ยงยังไม่รู้จักวิธีรักษาหนังสัตว์ ลาวยังไม่มีโรงงานฟอกหนังในประเทศ สำหรับการส่งออกหนังดิบมีเพียง 2 แหล่งและต้องได้รับใบอนุญาตส่งออก ตลาดส่งออกได้แก่ไทย เวียดนาม ไต้หวัน และจีนตามลำดับ ลาวนำเข้าหนังฟอก จากประเทศจีน ไต้หวัน อิตาลี เวียดนาม และไทย เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิต ผลิตภัณฑ์จากหนังส่วนใหญ่ผลิตเป็นรองเท้า
3.2 ประเทศลาว ส่งออกวัว-ความมีชีวิตไปยังประเทศไทย และประเทศเวียดนาม นอกจากนั้น ยังส่งออกหนังดิบมายังไทย มูลค่าการส่งออกปีละประมาณ 100 ล้านบาท ปัจจุบันมีโรงงานผลิตหนังฟอก 3 แห่ง ลงทุนโดยลาว ไทย และเกาหลี ลาวต้องการเงินทุนในการก่อสร้างจำนวนมากเพราะมีความห่วงใยในสิ่งแวดล้อม
3.3 ประเทศเมียนมาร์ มีประชากรวัว-ความประมาณ 10.7 ล้านตัว ผู้ขายขาดความรู้ด้านการตลาดและมีการติดต่อกันน้อย การส่งออกส่วนใหญ่ไปยังประเทศในแถบเอเชีย เช่น ฮ่องกง อินเดีย ไทย จีน เกาหลี และการส่งออกต้องได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการค้า พม่าไม่มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง เพราะมีพอเพียงต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ พม่ามีโรงงานฟอกหนัง 1 โรงแต่ผลิตยังไม่ได้คุณภาพ ต้องการรับความช่วยเหลือด้านเทคนิคในการผลิตจากไทย
4. กัมพูชาและลาว เป็นผู้รวบรวมหนังดิบส่งออกมายังไทย และตลาดเพื่อบ้านใกล้เคียง โดยเฉพาะเวียดนาม และจีน ลาวมีความต้องการหนังฟอก เพื่ออุตสาหกรรมหนังน้อยมากเพราะไม่มีการผลิตผลิตภัณฑ์หนังเพื่อการส่งออก ในขณะที่กัมพูชาเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์หนังที่สำคัญ โดยเฉพาะการผลิต รองเท้า ตามคำสั่งของตลาดยุโรป มีการสั่งซื้อหนังฟอกจากเวียดนามและต้องการซื้อจากไทยเพราะ ค่าขนส่งใกล้กว่า แต่ยังไม่มีการติดต่อ
5. พม่าแจ้งว่ามีโรงงานฟอกหนัง และผลิตภัณฑ์หนัง มีเครื่องจักรที่ทันสมัย แต่ไม่มีตลาดและมีความประสงค์จะเชื่อมโยงการผลิตกับโรงงานของไทย เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและยินดีผลิตเพื่อตลาดล่างให้โรงงานไทย
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775--จบ--
-พห-
การสัมมนาเชิงปฏิบัติการดังกล่าว เสร็จสิ้นแล้ว สรุปผลการสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ สรุปได้ดังนี้
1. ผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย ผู้แทนจากประเทศสมาชิกใหม่อาเซียนและผู้แทนไทยรวม ทั้งสิ้น 30 คน
2. การสัมมนาฯแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนของทฤษฎี โดยได้เชิญผู้แทนจาก ศูนย์ส่งเสริมพลัง ชีวะมวล มาบรรยายในภาพรวมของธุรกิจการค้าหนังดิบและหนังฟอกของโลก ผู้แทนจากสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย มาบรรยายในเรื่องการรักษาคุณภาพของหนังดิบและหนังฟอก ที่มีคุณภาพตาม ความต้องการของผู้ซื้อ นอกจากนี้ได้เชิญผู้แทนจากกรมการค้าต่างประเทศแนะนำการใช้ฟอร์ม ดี ใน รายการหนังดิบ หนังฟอก และผลิตภัณฑ์หนัง ภายใต้สิทธิ CEPT
ส่วนที่ 2 การดูงานจัดให้คณะดูงานโรงเก็บหนังดิบ บ่อบำบัดน้ำเสียสำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง บริษัท ซี.พี.แอล กรุ๊ปและ บริษัท ศรีภัณฑ์ยาคอบ จำกัด
3. ข้อมูลเบื้องต้น จากผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ จากกัมพูชา ลาว และพม่า สรุปได้ดังนี้
3.1 กัมพูชา มีประชากรวัว-ความประมาณ 7 ล้านตัว ส่วนใหญ่ใช้ในไร่นาและนำเนื้อมาบริโภคมากกว่า ผู้เลี้ยงยังไม่รู้จักวิธีรักษาหนังสัตว์ ลาวยังไม่มีโรงงานฟอกหนังในประเทศ สำหรับการส่งออกหนังดิบมีเพียง 2 แหล่งและต้องได้รับใบอนุญาตส่งออก ตลาดส่งออกได้แก่ไทย เวียดนาม ไต้หวัน และจีนตามลำดับ ลาวนำเข้าหนังฟอก จากประเทศจีน ไต้หวัน อิตาลี เวียดนาม และไทย เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิต ผลิตภัณฑ์จากหนังส่วนใหญ่ผลิตเป็นรองเท้า
3.2 ประเทศลาว ส่งออกวัว-ความมีชีวิตไปยังประเทศไทย และประเทศเวียดนาม นอกจากนั้น ยังส่งออกหนังดิบมายังไทย มูลค่าการส่งออกปีละประมาณ 100 ล้านบาท ปัจจุบันมีโรงงานผลิตหนังฟอก 3 แห่ง ลงทุนโดยลาว ไทย และเกาหลี ลาวต้องการเงินทุนในการก่อสร้างจำนวนมากเพราะมีความห่วงใยในสิ่งแวดล้อม
3.3 ประเทศเมียนมาร์ มีประชากรวัว-ความประมาณ 10.7 ล้านตัว ผู้ขายขาดความรู้ด้านการตลาดและมีการติดต่อกันน้อย การส่งออกส่วนใหญ่ไปยังประเทศในแถบเอเชีย เช่น ฮ่องกง อินเดีย ไทย จีน เกาหลี และการส่งออกต้องได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการค้า พม่าไม่มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง เพราะมีพอเพียงต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ พม่ามีโรงงานฟอกหนัง 1 โรงแต่ผลิตยังไม่ได้คุณภาพ ต้องการรับความช่วยเหลือด้านเทคนิคในการผลิตจากไทย
4. กัมพูชาและลาว เป็นผู้รวบรวมหนังดิบส่งออกมายังไทย และตลาดเพื่อบ้านใกล้เคียง โดยเฉพาะเวียดนาม และจีน ลาวมีความต้องการหนังฟอก เพื่ออุตสาหกรรมหนังน้อยมากเพราะไม่มีการผลิตผลิตภัณฑ์หนังเพื่อการส่งออก ในขณะที่กัมพูชาเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์หนังที่สำคัญ โดยเฉพาะการผลิต รองเท้า ตามคำสั่งของตลาดยุโรป มีการสั่งซื้อหนังฟอกจากเวียดนามและต้องการซื้อจากไทยเพราะ ค่าขนส่งใกล้กว่า แต่ยังไม่มีการติดต่อ
5. พม่าแจ้งว่ามีโรงงานฟอกหนัง และผลิตภัณฑ์หนัง มีเครื่องจักรที่ทันสมัย แต่ไม่มีตลาดและมีความประสงค์จะเชื่อมโยงการผลิตกับโรงงานของไทย เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและยินดีผลิตเพื่อตลาดล่างให้โรงงานไทย
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775--จบ--
-พห-