นายวิฑูรย์ นามบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า นโยบายขจัดความยากจนอีก 4 ปีข้างหน้าของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ใช้เกณฑ์ใดเป็นตัวชี้วัดความยากจน เพราะเชื่อว่ายังมีคนจนอีกจำนวนไม่น้อย ที่ไม่กล้าและไม่อยากมาจดทะเบียนคนจน เพราะฉะนั้นตนไม่เชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับการแก้ปัญหาความยากจน นอกจากเป็นการสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง
นายวิฑูรย์กล่าวว่า 15 อันดับแรกของจังหวัดที่ยากจนที่สุดของประเทศ อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ตัวเลขสัดส่วนในการจดทะเบียนคนจน จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด คือ ภาคเหนือ สะท้อนให้เห็นว่าความยากจนที่เป็นจริงกับความยากจนที่จดทะเบียนนั้นไม่สอดคล้องกัน รัฐบาลจะแก้ปัญหาความยากจนอย่างไร เราต้องดูที่ผลสำเร็จ แต่สิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการคือ ต้องเร่งดำเนินการตามที่เคยหาเสียงไว้ คือ น้ำแก้จน คนหมดหนี้ มีโคร่ำรวย ซึ่งตนขอตั้งคำถามเพื่อขอคำตอบจากนโยบายดังกล่าวว่า 1.โค 1 ล้านตัวเป็นน้ำเชื้อ หรือเป็นตัว 2.อีก 6 เดือนเกษตรกรจะได้โคหรือไม่ นโยบายน้ำแก้จนเป็นนโยบายที่ถูกจุดที่สุดในการแก้ปัญหาความยากจนให้กับเกษตรกร แต่จะดำเนินการอย่างไร เพราะจากการตรวจสอบของตนพบว่างบประมาณที่ช่วยเหลือจากส่วนกลางไม่มี มีเพียงงบปกติซึ่งหน่วยงานได้รับจากสภาเท่านั้น พร้อมทั้งฝากคำถามผ่านไปยังรัฐบาลในเรื่องของโครงการขุดบ่อน้ำ 300,000 บ่อทั่วประเทศ ดังนี้
1. ทำไมการประกวดราคาในการขุดสระน้ำ ถึงมีเพียงบริษัทเดียว
2. หลักเกณฑ์ในการขุดสระแต่ละแห่งใช้หลักเกณฑ์อะไร
3. ทำไมการประกวดราคาไม่ใช้ระบบอี-อ็อคชั่น
4. มติ ครม.บอกให้ดำเนินการในปีนี้ 100,000 บ่อแต่ทำไมให้ประกวดราคาพร้อมกัน 300,000 บ่อ
5. การเสนอราคามีผู้ซื้อแบบ 25 ราย แต่เสนอราคาเพียง 4 ราย
6. บริษัทที่ประมูลได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคไทยรักไทย
7. ทำไมเก็บเงินก่อนขุด ทำไมไม่ขุดเสร็จแล้วค่อยเก็บเงินจากเกษตรกร
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 เม.ย. 2548--จบ--
-ดท-
นายวิฑูรย์กล่าวว่า 15 อันดับแรกของจังหวัดที่ยากจนที่สุดของประเทศ อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ตัวเลขสัดส่วนในการจดทะเบียนคนจน จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด คือ ภาคเหนือ สะท้อนให้เห็นว่าความยากจนที่เป็นจริงกับความยากจนที่จดทะเบียนนั้นไม่สอดคล้องกัน รัฐบาลจะแก้ปัญหาความยากจนอย่างไร เราต้องดูที่ผลสำเร็จ แต่สิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการคือ ต้องเร่งดำเนินการตามที่เคยหาเสียงไว้ คือ น้ำแก้จน คนหมดหนี้ มีโคร่ำรวย ซึ่งตนขอตั้งคำถามเพื่อขอคำตอบจากนโยบายดังกล่าวว่า 1.โค 1 ล้านตัวเป็นน้ำเชื้อ หรือเป็นตัว 2.อีก 6 เดือนเกษตรกรจะได้โคหรือไม่ นโยบายน้ำแก้จนเป็นนโยบายที่ถูกจุดที่สุดในการแก้ปัญหาความยากจนให้กับเกษตรกร แต่จะดำเนินการอย่างไร เพราะจากการตรวจสอบของตนพบว่างบประมาณที่ช่วยเหลือจากส่วนกลางไม่มี มีเพียงงบปกติซึ่งหน่วยงานได้รับจากสภาเท่านั้น พร้อมทั้งฝากคำถามผ่านไปยังรัฐบาลในเรื่องของโครงการขุดบ่อน้ำ 300,000 บ่อทั่วประเทศ ดังนี้
1. ทำไมการประกวดราคาในการขุดสระน้ำ ถึงมีเพียงบริษัทเดียว
2. หลักเกณฑ์ในการขุดสระแต่ละแห่งใช้หลักเกณฑ์อะไร
3. ทำไมการประกวดราคาไม่ใช้ระบบอี-อ็อคชั่น
4. มติ ครม.บอกให้ดำเนินการในปีนี้ 100,000 บ่อแต่ทำไมให้ประกวดราคาพร้อมกัน 300,000 บ่อ
5. การเสนอราคามีผู้ซื้อแบบ 25 ราย แต่เสนอราคาเพียง 4 ราย
6. บริษัทที่ประมูลได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคไทยรักไทย
7. ทำไมเก็บเงินก่อนขุด ทำไมไม่ขุดเสร็จแล้วค่อยเก็บเงินจากเกษตรกร
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 1 เม.ย. 2548--จบ--
-ดท-