แท็ก
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
พรรคประชาธิปัตย์
จังหวัดนครปฐม
เลือกตั้งซ่อม
การเลือกตั้ง
วานนี้(18 มี.ค.47)เวลา 17.00น. ที่บริเวณแพปลาชมภูพงษ์ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ในการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม เพื่อช่วยนายปิติพงษ์ ไทยโพธิ์ศรี ผู้สมัครเบอร์ 2 ของพรรคประชาธิปัตย์
โดยผู้ที่ขึ้นเวทีคนแรกคือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้กล่าวปราศรัยถึงการหาเสียงของพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีการระบุว่าอย่าเลือกพรรคประชาธิปัตย์เพราะถึงอย่างไรพรรคก็คงไม่ได้เป็นรัฐบาล ในส่วนนี้ตนอยากจะบอกเหมือนกันว่า หากไม่จำเป็นก็อย่าไปเลือกพรรคไทยรักไทย ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะหากชาวนครปฐมให้การสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเท่ากับว่าจะได้เสียงของฝ่ายค้านที่จะมาคานอำนาจและตรวจสอบรัฐบาลเพิ่มขึ้นมาอีก 1 เสียง เพราะขณะนี้เสียงของรัฐบาลมีมากจนเหลิง ดูได้จากคำประกาศในวันประชุมใหญ่ของพรรคไทยรักไทยที่นายกฯ ระบุว่าจะเป็นรัฐบาลไป 20 ปี ตนอยากจะบอกว่าเป็นไป 100 ปีก็ได้หากยังไม่ตายเสียก่อน
นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายกฯกล่าวปราศรัยโจมตีพรรคประชาธิปัตย์และได้พาดพิงไปถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากนายกฯคิดว่าขาขึ้นต้องไปนอนโรงพยาบาล ตนก็คิดว่ารัฐบาลขาลงก็น่าจะไปสวรรค์ได้แล้ว อย่างไรก็ตามคิดว่าการที่นายกฯมีอาการโมโหเมื่อมีผู้วิจารณ์ว่ารัฐบาลกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง เนื่องจากไปสะกิดใจนายกฯเพราะต้องยอมรับแล้วว่า ความเสื่อมจากโครงการต่างๆของรัฐบาลเริ่มเกิดขึ้นเป็นลำดับ และตนก็อยากตั้งข้อสังเกตว่าการที่รัฐบาลยังไม่รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบปีต่อสภาผู้แทนฯ เพราะรัฐบาลจะรอให้การเลือกตั้งซ่อมนครปฐมครั้งนี้ผ่านไปก่อน เพราะกลัวว่าหากประชาชนได้รับรู้ข้อมูลว่ารัฐบาลไม่มีผลงานบวกกับการอภิปรายจากฝ่ายค้านแล้วการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้รัฐบาลจะแพ้อย่างหมดรูป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นคนที่สอง โดยข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ปราศรัยช่วยผู้สมัครของพรรคไทยรักไทย โดยได้กล่าวโจมตีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ว่าขาขึ้นต้องไปนอนโรงพยาบาลนั้น ตนไม่คิดว่าคำพูดในลักษณะเช่นนี้จะออกมาจากปากของคนระดับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำประเทศ ตนอยากถามนายกฯว่า เหตุใดจึงไม่จำบทเรียนจากการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสงขลา ที่นายกฯก็เคยกล่าวพาดพิงถึงบิดาของส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ในทางที่เสียหาย จนทำให้พ่ายแพ้แก้พรรคประชาธิปัตย์ และในครั้งนี้ตนก็อยากให้ประชาชนจังหวัดนครปฐม ให้บทเรียนโดยการสั่งสอนมารยาทที่ดีให้กับนายกฯอีกครั้ง
ด้านนายสุทัศน์ เงินหมื่น รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยเป็นคนที่สาม โดยได้ตั้งฉายารัฐบาลชุดปัจจุบันว่า ‘รัฐบาลล็อกหวย รวยหุ้น ตุนเงินไว้หาเสียง หลีกเลี่ยงภาษี หาหนี้ให้ประชาชน’ โดยได้ขยายความหมายของคำต่างๆดังนี้ 1. รัฐบาลล็อกหวย โดยการตั้งข้อสังเกตถึงการแต่งตั้ง พ.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงษ์ ผู้ใกล้ชิดกับนายกฯเป็นผู้อำนวยการกองสลาก อย่างไรก็ตามข้อมูลเรื่องการล็อกหวยนี้ขอให้ไปเจอกันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือนพฤษภาคมนี้ 2. รวยหุ้น ซึ่งจะสังเกตได้ว่าขณะนี้มีแต่คนระดับสูงๆที่รวยขึ้น แต่คนระดับล่างก็ยังยากจนเหมือนเดิม 3.ตุนเงินไว้หาเสียง โดยได้ยกตัวอย่างกรณีการปกปิดข้อมูลเรื่องไข้หวัดนกว่าใครที่ได้ผลประโยชน์สูงสุด ซึ่งเรื่องนี้ก็จะนำไปสู่กรอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย นอกจากนี้นายสุทัศน์ยังได้วิเคราะห์ถึงการปรับครม.ล่าสุดที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายเนวิน ชิดชอบ 2 รมต.ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องไข้หวัดนกไม่ถูกปรับออก เพราะนายกฯเกรงว่าหากปรรับออกจะเป็นการยอมรับว่าเกิดความผผิดพลาดขึ้นจริง แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการปรับครม.ครั้งต่อไป 2 คนนี้ไม่รอดแน่ 4.หลีกเลี่ยงภาษี โดยยกตัวอย่างกรณีการเสียภาษีดาวเทียม และ 5.หาหนี้ให้ประชาชน โดยยกตัวอย่างการสนับสนุนให้คนใช้โทรศัพท์ เป็นต้น
ต่อมานายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อเวลา 20.30น. โดยระบุว่า ตนรู้สึกไม่พอใจที่นายกฯปราศรัยโจมตีนายชวน เห็นได้ว่านายกฯทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่ อยากให้เปรียบเทียบภาวะความเป็นผู้ใหญ่ระหว่างนายชวน และนายกฯทักษิณ อย่างไรก็ตามคิดว่าหากนายกฯจะบอกว่าถ้าขาขึ้นนอนโรงพยาบาล ตนก็คิดว่าถ้าขาลงก็คงต้องไปหามไปวัดแล้ว
นอกจากนี้นายบัญญัติยังได้ วิเคราะห์ถึงปัจจัยที่จะทำให้รัฐบาลเข้าสู่ช่วงขาลง ซึ่งแบ่งได้เป็น 5 ประการคือ
1. นโยบายไม่เป็นผล เช่น กรณีการปกปิดไข้หวัดนกที่หากรัฐบาลไม่ปกปิดข้อมูลและยอมรับความจริง ประเทศก็คงไม่เสียหายมากขนาดนี้
2.คนจนเพิ่ม ดูได้จากตัวเลขหนี้ภาคประชาชนที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
3.ส่งเสริมพวกกันเอง เช่นการแต่งตั้งคนใกล้ชิดเข้ามาควบคุมแทบจะทุกระบบ
4.ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน เช่น การเสนอภาพลักษณะของการประชาสัมพันธ์การทำงานของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับรู้ โดยไม่เสียดายเงินงบประมาณของประเทศและเป็นภาษีของประชาชน นอกจากนี้ก็ยังเป็นรัฐบาลที่ชอบให้ความหวังโดยที่หลายเรื่องไม่สามารถทำได้ และ
5.การโกงกินมีมากขึ้น เช่นเรื่องการเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจให้กับคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19/03/47--จบ--
-สส-
โดยผู้ที่ขึ้นเวทีคนแรกคือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยได้กล่าวปราศรัยถึงการหาเสียงของพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีการระบุว่าอย่าเลือกพรรคประชาธิปัตย์เพราะถึงอย่างไรพรรคก็คงไม่ได้เป็นรัฐบาล ในส่วนนี้ตนอยากจะบอกเหมือนกันว่า หากไม่จำเป็นก็อย่าไปเลือกพรรคไทยรักไทย ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะหากชาวนครปฐมให้การสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะเท่ากับว่าจะได้เสียงของฝ่ายค้านที่จะมาคานอำนาจและตรวจสอบรัฐบาลเพิ่มขึ้นมาอีก 1 เสียง เพราะขณะนี้เสียงของรัฐบาลมีมากจนเหลิง ดูได้จากคำประกาศในวันประชุมใหญ่ของพรรคไทยรักไทยที่นายกฯ ระบุว่าจะเป็นรัฐบาลไป 20 ปี ตนอยากจะบอกว่าเป็นไป 100 ปีก็ได้หากยังไม่ตายเสียก่อน
นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายกฯกล่าวปราศรัยโจมตีพรรคประชาธิปัตย์และได้พาดพิงไปถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากนายกฯคิดว่าขาขึ้นต้องไปนอนโรงพยาบาล ตนก็คิดว่ารัฐบาลขาลงก็น่าจะไปสวรรค์ได้แล้ว อย่างไรก็ตามคิดว่าการที่นายกฯมีอาการโมโหเมื่อมีผู้วิจารณ์ว่ารัฐบาลกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง เนื่องจากไปสะกิดใจนายกฯเพราะต้องยอมรับแล้วว่า ความเสื่อมจากโครงการต่างๆของรัฐบาลเริ่มเกิดขึ้นเป็นลำดับ และตนก็อยากตั้งข้อสังเกตว่าการที่รัฐบาลยังไม่รายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลในรอบปีต่อสภาผู้แทนฯ เพราะรัฐบาลจะรอให้การเลือกตั้งซ่อมนครปฐมครั้งนี้ผ่านไปก่อน เพราะกลัวว่าหากประชาชนได้รับรู้ข้อมูลว่ารัฐบาลไม่มีผลงานบวกกับการอภิปรายจากฝ่ายค้านแล้วการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้รัฐบาลจะแพ้อย่างหมดรูป
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นคนที่สอง โดยข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึงกรณีที่นายกฯ ปราศรัยช่วยผู้สมัครของพรรคไทยรักไทย โดยได้กล่าวโจมตีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ว่าขาขึ้นต้องไปนอนโรงพยาบาลนั้น ตนไม่คิดว่าคำพูดในลักษณะเช่นนี้จะออกมาจากปากของคนระดับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำประเทศ ตนอยากถามนายกฯว่า เหตุใดจึงไม่จำบทเรียนจากการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสงขลา ที่นายกฯก็เคยกล่าวพาดพิงถึงบิดาของส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์ในทางที่เสียหาย จนทำให้พ่ายแพ้แก้พรรคประชาธิปัตย์ และในครั้งนี้ตนก็อยากให้ประชาชนจังหวัดนครปฐม ให้บทเรียนโดยการสั่งสอนมารยาทที่ดีให้กับนายกฯอีกครั้ง
ด้านนายสุทัศน์ เงินหมื่น รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นปราศรัยเป็นคนที่สาม โดยได้ตั้งฉายารัฐบาลชุดปัจจุบันว่า ‘รัฐบาลล็อกหวย รวยหุ้น ตุนเงินไว้หาเสียง หลีกเลี่ยงภาษี หาหนี้ให้ประชาชน’ โดยได้ขยายความหมายของคำต่างๆดังนี้ 1. รัฐบาลล็อกหวย โดยการตั้งข้อสังเกตถึงการแต่งตั้ง พ.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงษ์ ผู้ใกล้ชิดกับนายกฯเป็นผู้อำนวยการกองสลาก อย่างไรก็ตามข้อมูลเรื่องการล็อกหวยนี้ขอให้ไปเจอกันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเดือนพฤษภาคมนี้ 2. รวยหุ้น ซึ่งจะสังเกตได้ว่าขณะนี้มีแต่คนระดับสูงๆที่รวยขึ้น แต่คนระดับล่างก็ยังยากจนเหมือนเดิม 3.ตุนเงินไว้หาเสียง โดยได้ยกตัวอย่างกรณีการปกปิดข้อมูลเรื่องไข้หวัดนกว่าใครที่ได้ผลประโยชน์สูงสุด ซึ่งเรื่องนี้ก็จะนำไปสู่กรอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย นอกจากนี้นายสุทัศน์ยังได้วิเคราะห์ถึงการปรับครม.ล่าสุดที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายเนวิน ชิดชอบ 2 รมต.ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องไข้หวัดนกไม่ถูกปรับออก เพราะนายกฯเกรงว่าหากปรรับออกจะเป็นการยอมรับว่าเกิดความผผิดพลาดขึ้นจริง แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการปรับครม.ครั้งต่อไป 2 คนนี้ไม่รอดแน่ 4.หลีกเลี่ยงภาษี โดยยกตัวอย่างกรณีการเสียภาษีดาวเทียม และ 5.หาหนี้ให้ประชาชน โดยยกตัวอย่างการสนับสนุนให้คนใช้โทรศัพท์ เป็นต้น
ต่อมานายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเมื่อเวลา 20.30น. โดยระบุว่า ตนรู้สึกไม่พอใจที่นายกฯปราศรัยโจมตีนายชวน เห็นได้ว่านายกฯทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่ อยากให้เปรียบเทียบภาวะความเป็นผู้ใหญ่ระหว่างนายชวน และนายกฯทักษิณ อย่างไรก็ตามคิดว่าหากนายกฯจะบอกว่าถ้าขาขึ้นนอนโรงพยาบาล ตนก็คิดว่าถ้าขาลงก็คงต้องไปหามไปวัดแล้ว
นอกจากนี้นายบัญญัติยังได้ วิเคราะห์ถึงปัจจัยที่จะทำให้รัฐบาลเข้าสู่ช่วงขาลง ซึ่งแบ่งได้เป็น 5 ประการคือ
1. นโยบายไม่เป็นผล เช่น กรณีการปกปิดไข้หวัดนกที่หากรัฐบาลไม่ปกปิดข้อมูลและยอมรับความจริง ประเทศก็คงไม่เสียหายมากขนาดนี้
2.คนจนเพิ่ม ดูได้จากตัวเลขหนี้ภาคประชาชนที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
3.ส่งเสริมพวกกันเอง เช่นการแต่งตั้งคนใกล้ชิดเข้ามาควบคุมแทบจะทุกระบบ
4.ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน เช่น การเสนอภาพลักษณะของการประชาสัมพันธ์การทำงานของรัฐบาลให้ประชาชนได้รับรู้ โดยไม่เสียดายเงินงบประมาณของประเทศและเป็นภาษีของประชาชน นอกจากนี้ก็ยังเป็นรัฐบาลที่ชอบให้ความหวังโดยที่หลายเรื่องไม่สามารถทำได้ และ
5.การโกงกินมีมากขึ้น เช่นเรื่องการเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจให้กับคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19/03/47--จบ--
-สส-