วันนี้(วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2547) นายองอาจ คล้าไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ มีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์การก่อการร้ายที่ได้ปะทุขึ้นมาอีกระรอกหนึ่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ระเบิดสถานีรถไฟในกรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2547 ที่ผ่านมา ที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์กว่า 200 คน ได้รับบาดเจ็บกว่า 1,500 คน
เหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้หลายประเทศเกิดอาการผวาไปตามๆกันทั้งในยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะประเทศกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้เพราะหลังเกิดเหตุวินาศกรรมตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2544 สเปนก็ได้กลายเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐ และได้ร่วมกับสหรัฐเข้ายึดครองอิรักเมื่อต้นปี 2546 ที่ผ่านมาด้วย
แม้ว่าหลังเกิดเหตุระเบิดสถานีรถไฟในกรุงมาดริดจะมีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุว่าอาจจะเป็นฝีมือของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ETA ที่เดินหน้าเรียกร้องแบ่งแยกดินแดนแคว้นบาสก์ก็ตาม แต่ข้อสังเกตคือ
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการโจมตีที่หน่วยข่าวกรองของยุโรปไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อนเลย ซึ่งคล้ายกับเหตุวินาศกรรมตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ ที่ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้ามาก่อนเช่นกัน โดยภายหลังสหรัฐระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นฝีมือของ “นายอุสมา บินลาเดน” หัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะห์
จากเหตุนี้ทำให้มองกันว่าปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการแก้แค้นของกลุ่มอัล เคด้า หรือ กลุ่มอัลกออิดะห์ ที่มีต่อรัฐบาลสเปน
ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุว่าหลายประเทศในยุโรปกำลังตกเป็นเป้าของกลุ่มอัลกออิดะห์ โดยเฉพาะประเทศที่ส่งทหารไปร่วมทำสงครามในอิรัก ทั้งนี้เพราะกำลังเป็นที่สงสัยกันว่าพวกสมาชิกพรรคบาธของซัดดัม ฮุสเซน อาจมีการร่วมมือกับพวกนักรบอิสลามบางกลุ่ม รวมทั้งอัลกออิดะห์ เนื่องจากมีศัตรูร่วมกัน และนอกจากนี้ประเทศอื่นๆนอกยุโรปที่ส่งทหารไปยังอิรักก็ล้วนมีโอกาสสูงในการถูกโจมตีได้ทั้งสิ้น
ล่าสุดทางการสเปนได้รับเทปวิดีโออันเป็นหลักฐานสำคัญว่า กลุ่มอัลเคด้าคือตัวการในการก่อเหตุครั้งนี้ อีกทั้งยังข่มขู่ว่าที่ผ่านมานั้น "แค่เรียกน้ำย่อย" พร้อมประกาศจะมีการแก้แค้นในแบบเดียวกันนี้ตามมาอีก
เหตุการณ์ครั้งนี้ขบวนการก่อการร้ายต้องการส่งสัญญาณเตือนว่าไม่มีประเทศใดในโลกที่จะปลอดภัยจากการคุกคามจากการก่อการร้าย โดยเฉพาะ “ประเทศพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา”
ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าขบวนการก่อการร้ายได้ขยายวงกว้างไปสู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก
พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่ารัฐบาลไทยไม่ควรประมาทกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไทยอาจตกเป็นเป้าหมาย ซึ่งมีเหตุผลหลายประการคือ
ขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังครุกรุ่นและยังไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ ซึ่งยิ่งนับวันปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การจับกุมตัวนายฮัมบาลี หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเจมาอิสลามิยาห์ หรือ เจไอ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรมที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปลายปี 2545 ซึ่งเชื่อกันว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ของนายอุสมา บินลาเดน ได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อปีที่ผ่านมา คำเตือนของนายไมเคิล ริชาร์ดสัน นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ของสิงคโปร์หรือไอซีส์ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า “เรือเดินสมุทรและท่าเทียบเรือใหญ่ทั่วโลก รวมถึงท่าเทียบเรือแหลมฉบังของไทย อาจตกเป็นเป้าหมายของขบวนก่อการร้ายอัลเคด้า” การที่สหรัฐอเมริกามอบสถานะพันธมิตรสำคัญนอกองค์การนาโต้ หรือ MNNA(Major Non-Nato Ally) ให้แก่ไทย รวมถึงมติของรัฐบาลไทยที่ให้ส่งทหารไปช่วยฟื้นฟูประเทศอิรัก ก็ยิ่งที่รัฐบาลไทยไม่ควรจะประมาทแม้เสี้ยววินาที การพบกันระหว่างนายทอม ริดจ์ รมว.ความมั่นคงภายในของสหรัฐกับนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รมว.ต่างประเทศของไทย เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในหัวข้อการหารือคือ สถานการณ์ในอิรัก , ความร่วมมือในการปราบปรามการก่อการร้ายและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ก็ยิ่งทำให้มองได้ว่าประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์และเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นต่อกัน ซึ่งเหตุผลดังกล่าวอาจเป็นหนึ่งในการจุดชนวนการก่อเหตุความไม่สงบที่ร้ายแรง ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยเร็วกว่าที่คาดคิดเอาไว้ ก็เป็นได้
พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่ารัฐบาลไม่ควรประมาทหรือมีท่าทีปกติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่จากการติดตามการทำงานของรัฐบาล นับจากเกิดเหตุร้ายที่สเปนเป็นต้นมา เรายังไม่เห็นว่ารัฐบาลจะมีมาตรการอะไรที่ป้องกันเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้นในประเทศ
จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ ควรเร่งหามาตรการเตรียมรับมือกับการก่อการร้ายข้ามชาติที่อาจแพร่ระบาดเข้าประเทศไทยเมื่อไหร่ก็ได้อย่างจริงจัง.
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20/03/47--จบ--
-สส-
เหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้หลายประเทศเกิดอาการผวาไปตามๆกันทั้งในยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะประเทศกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้เพราะหลังเกิดเหตุวินาศกรรมตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2544 สเปนก็ได้กลายเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นในสงครามต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐ และได้ร่วมกับสหรัฐเข้ายึดครองอิรักเมื่อต้นปี 2546 ที่ผ่านมาด้วย
แม้ว่าหลังเกิดเหตุระเบิดสถานีรถไฟในกรุงมาดริดจะมีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุว่าอาจจะเป็นฝีมือของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ETA ที่เดินหน้าเรียกร้องแบ่งแยกดินแดนแคว้นบาสก์ก็ตาม แต่ข้อสังเกตคือ
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นการโจมตีที่หน่วยข่าวกรองของยุโรปไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อนเลย ซึ่งคล้ายกับเหตุวินาศกรรมตึกเวิร์ลเทรด เซ็นเตอร์ ที่ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้ามาก่อนเช่นกัน โดยภายหลังสหรัฐระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นฝีมือของ “นายอุสมา บินลาเดน” หัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะห์
จากเหตุนี้ทำให้มองกันว่าปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการแก้แค้นของกลุ่มอัล เคด้า หรือ กลุ่มอัลกออิดะห์ ที่มีต่อรัฐบาลสเปน
ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุว่าหลายประเทศในยุโรปกำลังตกเป็นเป้าของกลุ่มอัลกออิดะห์ โดยเฉพาะประเทศที่ส่งทหารไปร่วมทำสงครามในอิรัก ทั้งนี้เพราะกำลังเป็นที่สงสัยกันว่าพวกสมาชิกพรรคบาธของซัดดัม ฮุสเซน อาจมีการร่วมมือกับพวกนักรบอิสลามบางกลุ่ม รวมทั้งอัลกออิดะห์ เนื่องจากมีศัตรูร่วมกัน และนอกจากนี้ประเทศอื่นๆนอกยุโรปที่ส่งทหารไปยังอิรักก็ล้วนมีโอกาสสูงในการถูกโจมตีได้ทั้งสิ้น
ล่าสุดทางการสเปนได้รับเทปวิดีโออันเป็นหลักฐานสำคัญว่า กลุ่มอัลเคด้าคือตัวการในการก่อเหตุครั้งนี้ อีกทั้งยังข่มขู่ว่าที่ผ่านมานั้น "แค่เรียกน้ำย่อย" พร้อมประกาศจะมีการแก้แค้นในแบบเดียวกันนี้ตามมาอีก
เหตุการณ์ครั้งนี้ขบวนการก่อการร้ายต้องการส่งสัญญาณเตือนว่าไม่มีประเทศใดในโลกที่จะปลอดภัยจากการคุกคามจากการก่อการร้าย โดยเฉพาะ “ประเทศพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา”
ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าขบวนการก่อการร้ายได้ขยายวงกว้างไปสู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก
พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่ารัฐบาลไทยไม่ควรประมาทกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไทยอาจตกเป็นเป้าหมาย ซึ่งมีเหตุผลหลายประการคือ
ขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังครุกรุ่นและยังไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ ซึ่งยิ่งนับวันปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การจับกุมตัวนายฮัมบาลี หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเจมาอิสลามิยาห์ หรือ เจไอ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรมที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปลายปี 2545 ซึ่งเชื่อกันว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ของนายอุสมา บินลาเดน ได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อปีที่ผ่านมา คำเตือนของนายไมเคิล ริชาร์ดสัน นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ของสิงคโปร์หรือไอซีส์ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า “เรือเดินสมุทรและท่าเทียบเรือใหญ่ทั่วโลก รวมถึงท่าเทียบเรือแหลมฉบังของไทย อาจตกเป็นเป้าหมายของขบวนก่อการร้ายอัลเคด้า” การที่สหรัฐอเมริกามอบสถานะพันธมิตรสำคัญนอกองค์การนาโต้ หรือ MNNA(Major Non-Nato Ally) ให้แก่ไทย รวมถึงมติของรัฐบาลไทยที่ให้ส่งทหารไปช่วยฟื้นฟูประเทศอิรัก ก็ยิ่งที่รัฐบาลไทยไม่ควรจะประมาทแม้เสี้ยววินาที การพบกันระหว่างนายทอม ริดจ์ รมว.ความมั่นคงภายในของสหรัฐกับนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รมว.ต่างประเทศของไทย เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในหัวข้อการหารือคือ สถานการณ์ในอิรัก , ความร่วมมือในการปราบปรามการก่อการร้ายและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ก็ยิ่งทำให้มองได้ว่าประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกามีความสัมพันธ์และเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นต่อกัน ซึ่งเหตุผลดังกล่าวอาจเป็นหนึ่งในการจุดชนวนการก่อเหตุความไม่สงบที่ร้ายแรง ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยเร็วกว่าที่คาดคิดเอาไว้ ก็เป็นได้
พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่ารัฐบาลไม่ควรประมาทหรือมีท่าทีปกติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่จากการติดตามการทำงานของรัฐบาล นับจากเกิดเหตุร้ายที่สเปนเป็นต้นมา เรายังไม่เห็นว่ารัฐบาลจะมีมาตรการอะไรที่ป้องกันเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้นในประเทศ
จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ ควรเร่งหามาตรการเตรียมรับมือกับการก่อการร้ายข้ามชาติที่อาจแพร่ระบาดเข้าประเทศไทยเมื่อไหร่ก็ได้อย่างจริงจัง.
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 20/03/47--จบ--
-สส-