เมื่อเวลา 10.30น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยสมาชิกสภากรุงเทพมหานครของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการประกาศผังเมืองกรุงเทพมหานคร ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 ซึ่งมีกำหนดระยะเวลารับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีส่วนได้เสียจากการเดือดร้อนเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งหากนับจากวันที่เริ่มประกาศวันที่ 24 ธ.ค.46 ก็จะเท่ากับว่าวันนี้(22 มี.ค.47) จะเป็นวันสุดท้ายที่จะรับฟังปัญหา
นายอภิรักษ์กล่าวว่า แนวทางการปรับปรุงผังเมืองจะต้องทำให้กรุงเทพเป็นเมืองที่น่าอยู่ มีระบบสาธารณูปโภคที่ดี รวมถึงระบบการขนส่งมวลชนที่ครอบคุลม ตลอดจนการพัฒนาการใช้ประโยชน์จากที่ดินทั้งการพาณิชย์ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมให้มีความเหมาะสม ซึ่งประเด็นหลักที่ตนคิดว่าจะเกี่ยวข้องกับโครงสร้างกทม.และอาจเกิดขึ้นในอนาคตมีอยู่ 4 เรื่องคือ เรื่อง 1 จะมีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ เรื่อง 2 คือจะมีการเปิดในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการบินในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เรื่องที่ 3 การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรอบหลายปีที่ผ่านมามีปัญหาเชิงอุปสงค์และอุปทาน คือการพัฒนาที่ไม่สอดคล้องกันของความต้องการของประชาชนในกทม. เรื่องที่ 4 คือการใช้ประโยชน์ของที่ดินให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนคือ 1.ผู้ที่แสดงความคิดเห็นถือว่ายังเป็นจำนวนน้อย ประกอบกับประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจว่าผังเมืองแบบใหม่ จะส่งผลกระทบต่อตัวเองในลักษณะการใช้ที่ดิน 2.ผู้ที่จะเสนอความเห็นต่อแผนเมืองฉบับใหม่ได้จะต้องเป็นเจ้าของโฉนดหรือพื้นที่ดินเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้ตนคิดว่าประชาชนทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องและสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ไม่ควรกำจัดสิทธิเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง 3.การกำหนดเขตผังเมือง ควรพิจารณาถึงแนวโน้มการพัฒนานอกเหนือจากการขีดเส้นจากความหนาแน่นเท่านั้น
ด้านนายธนา ชีรวินิจ สมาชิกสภากรุงเทพเขตดินแดง พรรคประชาธิปัตย์ คณะอำนวยการกิจการกทม. ตั้งข้อสังเกตจากการตรวจสอบร่างผังเมืองกทม.ฉบับใหม่ ได้พบจุดบกพร่องหลายประการคือ 1.ไม่มีการกระจายความเจริญเท่าที่ควร ซึ่งการกระจายเป็นไปอย่างกระจุกตัว 2.การกำหนดทิศทางของผังเมืองยังไม่ถูกต้องเท่าที่ควร 3.มีการลดการใช้ประโยชน์ในที่ดินจากกฎหมายผังเมืองฉบับก่อน และ 4.คณะกรรมการผังเมืองควรจะมีการออกระเบียบการใช้ผังเมืองมาใช้คู่กันด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22/03/47--จบ--
-สส-
นายอภิรักษ์กล่าวว่า แนวทางการปรับปรุงผังเมืองจะต้องทำให้กรุงเทพเป็นเมืองที่น่าอยู่ มีระบบสาธารณูปโภคที่ดี รวมถึงระบบการขนส่งมวลชนที่ครอบคุลม ตลอดจนการพัฒนาการใช้ประโยชน์จากที่ดินทั้งการพาณิชย์ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมให้มีความเหมาะสม ซึ่งประเด็นหลักที่ตนคิดว่าจะเกี่ยวข้องกับโครงสร้างกทม.และอาจเกิดขึ้นในอนาคตมีอยู่ 4 เรื่องคือ เรื่อง 1 จะมีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ เรื่อง 2 คือจะมีการเปิดในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการบินในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เรื่องที่ 3 การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรอบหลายปีที่ผ่านมามีปัญหาเชิงอุปสงค์และอุปทาน คือการพัฒนาที่ไม่สอดคล้องกันของความต้องการของประชาชนในกทม. เรื่องที่ 4 คือการใช้ประโยชน์ของที่ดินให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนคือ 1.ผู้ที่แสดงความคิดเห็นถือว่ายังเป็นจำนวนน้อย ประกอบกับประชาชนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจว่าผังเมืองแบบใหม่ จะส่งผลกระทบต่อตัวเองในลักษณะการใช้ที่ดิน 2.ผู้ที่จะเสนอความเห็นต่อแผนเมืองฉบับใหม่ได้จะต้องเป็นเจ้าของโฉนดหรือพื้นที่ดินเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้ตนคิดว่าประชาชนทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องและสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ไม่ควรกำจัดสิทธิเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง 3.การกำหนดเขตผังเมือง ควรพิจารณาถึงแนวโน้มการพัฒนานอกเหนือจากการขีดเส้นจากความหนาแน่นเท่านั้น
ด้านนายธนา ชีรวินิจ สมาชิกสภากรุงเทพเขตดินแดง พรรคประชาธิปัตย์ คณะอำนวยการกิจการกทม. ตั้งข้อสังเกตจากการตรวจสอบร่างผังเมืองกทม.ฉบับใหม่ ได้พบจุดบกพร่องหลายประการคือ 1.ไม่มีการกระจายความเจริญเท่าที่ควร ซึ่งการกระจายเป็นไปอย่างกระจุกตัว 2.การกำหนดทิศทางของผังเมืองยังไม่ถูกต้องเท่าที่ควร 3.มีการลดการใช้ประโยชน์ในที่ดินจากกฎหมายผังเมืองฉบับก่อน และ 4.คณะกรรมการผังเมืองควรจะมีการออกระเบียบการใช้ผังเมืองมาใช้คู่กันด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 22/03/47--จบ--
-สส-