‘ปชป.’ ตั้งข้อสังเกต การซัดทอดส.ส.-ส.ว.อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ตำรวจน่าจะมีการสืบสวนให้รอบคอบก่อนที่จะมีการแถลง เชื่อถ้อยแถลงของผู้ต้องหา อาจมีผู้ใหญ่ในรัฐบาลไฟเขียวเปิดทางให้
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอนุพงษ์ พันธชยางกูร ผู้ต้องหาในคดีปล้นปืน ซัดทอดถึงส.ส.และส.ว.ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ว่าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังการปล้นปืนครั้งนี้ว่า เป็นเรื่องที่ท้าทายทั้งภาครัฐ และบุคคลที่ถูกกล่าวหาเป็นอย่างมาก และเท่าที่ดู ส.ส.และส.ว.ที่ถูกพาดพิงก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้เชื่อว่าตำรวจอาจจะได้ไฟเขียวจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะได้ตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ จากนั้นก็มีการแถลงข่าวจับกุมคนร้ายได้
‘ผมคิดว่าถ้าเฉยอยู่คนจะยิ่งสงสัยไปกันใหญ่ ซึ่งผมมั่นใจว่าเมื่อถึงนาทีนี้ท่านก็คงไม่เฉย คงมีการฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องและคนที่แถลงข่าว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ผมคิดว่าคงต้องตามดูกันต่อไปเพราะไม่มีใครรู้เรื่องดีเท่ากับคนสองฝ่ายนี้ อย่างไรก็ตามผมคิดว่าหลังจากเปิดเผยออกมาแล้ว ตำรวจคงอยู่เฉยไม่ได้ ถ้าไม่ทำอะไรต่อก็คงไม่เข้าท่าแน่นอน ซึ่งต้องตามดูว่าจะสืบสวนต่ออย่างไร และผมกังวลเหมือนกันว่าไป ๆ มา ๆ จะตกหนักอยู่ที่ตำรวจ เพราะเมื่อแถลงออกไปแล้ว และมีข่าวขนาดว่าถ้อยคำของผู้ต้องหาจะถ่ายทอดผ่านสถานีวิทยุทั้งภาคภาษาไทยและภาษายาวี แสดงว่าคงไม่หยุดอยู่แค่นี้’ นายบัญญัติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าตำรวจมีเจตนาอย่างไรที่ปล่อยให้มีการแถลงข่าวเช่นนี้ทั้งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ นายบัญญัติ กล่าวว่า ต้องติดตามดูว่า เป็นการทำเพื่อกลบข่าวหรือจะมีพยานหลักฐานที่จะสืบต่อไปได้อีก แต่อยากตั้งข้อสังเกตว่าปกติเรื่องนี้ไม่ค่อยมีการแถลง ส่วนมากใช้วิธีการสืบสวนจนได้ข้อมูลมีพยานหลักฐานพร้อม ค่อยออกหมายเรียกตามขั้นตอน แต่ครั้งนี้ถือว่าแปลกมากจนรู้สึกว่าตำรวจคงได้ไฟเขียวจากคนในรัฐบาล ซึ่งฝ่ายค้านจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และเห็นว่ารัฐบาลจะต้องแสดงประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาการฆ่ารายวันที่ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ให้ได้ด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23/03/47--จบ--
-สส-
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอนุพงษ์ พันธชยางกูร ผู้ต้องหาในคดีปล้นปืน ซัดทอดถึงส.ส.และส.ว.ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ว่าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังการปล้นปืนครั้งนี้ว่า เป็นเรื่องที่ท้าทายทั้งภาครัฐ และบุคคลที่ถูกกล่าวหาเป็นอย่างมาก และเท่าที่ดู ส.ส.และส.ว.ที่ถูกพาดพิงก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้เชื่อว่าตำรวจอาจจะได้ไฟเขียวจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล เพราะก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะได้ตัวผู้บงการอยู่เบื้องหลังความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ จากนั้นก็มีการแถลงข่าวจับกุมคนร้ายได้
‘ผมคิดว่าถ้าเฉยอยู่คนจะยิ่งสงสัยไปกันใหญ่ ซึ่งผมมั่นใจว่าเมื่อถึงนาทีนี้ท่านก็คงไม่เฉย คงมีการฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องและคนที่แถลงข่าว เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ผมคิดว่าคงต้องตามดูกันต่อไปเพราะไม่มีใครรู้เรื่องดีเท่ากับคนสองฝ่ายนี้ อย่างไรก็ตามผมคิดว่าหลังจากเปิดเผยออกมาแล้ว ตำรวจคงอยู่เฉยไม่ได้ ถ้าไม่ทำอะไรต่อก็คงไม่เข้าท่าแน่นอน ซึ่งต้องตามดูว่าจะสืบสวนต่ออย่างไร และผมกังวลเหมือนกันว่าไป ๆ มา ๆ จะตกหนักอยู่ที่ตำรวจ เพราะเมื่อแถลงออกไปแล้ว และมีข่าวขนาดว่าถ้อยคำของผู้ต้องหาจะถ่ายทอดผ่านสถานีวิทยุทั้งภาคภาษาไทยและภาษายาวี แสดงว่าคงไม่หยุดอยู่แค่นี้’ นายบัญญัติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าตำรวจมีเจตนาอย่างไรที่ปล่อยให้มีการแถลงข่าวเช่นนี้ทั้งที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ นายบัญญัติ กล่าวว่า ต้องติดตามดูว่า เป็นการทำเพื่อกลบข่าวหรือจะมีพยานหลักฐานที่จะสืบต่อไปได้อีก แต่อยากตั้งข้อสังเกตว่าปกติเรื่องนี้ไม่ค่อยมีการแถลง ส่วนมากใช้วิธีการสืบสวนจนได้ข้อมูลมีพยานหลักฐานพร้อม ค่อยออกหมายเรียกตามขั้นตอน แต่ครั้งนี้ถือว่าแปลกมากจนรู้สึกว่าตำรวจคงได้ไฟเขียวจากคนในรัฐบาล ซึ่งฝ่ายค้านจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และเห็นว่ารัฐบาลจะต้องแสดงประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาการฆ่ารายวันที่ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ให้ได้ด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23/03/47--จบ--
-สส-