‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ กับความเห็นกรณีการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ด

เนื้อหาจากการเสวนาในหัวข้อ ‘Smart ID Card : เหตุละเมิดข้อมูลอย่างถูกกฎหมาย?’ ณ ห้องประชุม 5 ชั้น 26 สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อาคารพญาไทพลาซ่า โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ผมต้องขออภัยที่ไม่ได้ฟังวิทยากรบางท่านแต่ความจริงมาฟังคุณวสันต์ เมื่อสักครู่นี้ นึกว่าประเด็นก็ครอบคลุม เกือบจะหมดอยู่แล้ว ขอออกตัวว่าไม่สามารถเป็นตัวแทนของรัฐบาลได้เลย และก็ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลประสงค์ให้ผม มาพูดแทนรัฐบาล แต่จะต่อประเด็น ซึ่งเป็นหัวข้อที่ผมคิดว่า ตั้งไว้ดีมาก ก็คือเหตุละเมิดข้อมูลอย่างถูกกฎหมาย ? เพราะผมกลอยู่ว่า ก็กังวลอยู่ว่าข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับบัตรตัวนี้ ในช่วงประมาณ สัปดาห์ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ความสนใจไปอยู่เรื่องของการประมูลเสียส่วนใหญ่ ซึ่งประเด็นการประมูล ก็มีหลายแง่มุมน่าสนใจทั้งในเรื่องของจำนวนผู้เข้าแข่งขัน ทั้งในเรื่องของข้อกำหนดต่าง ๆ ไปจนถึงราคาโดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่กรมการปกครองเสนอตัวเลขออกมา แต่ผมเข้าใจว่าวันนี้ไม่ได้ตั้งใจมาพูดในมุมนั้น และขอให้มั่นใจว่ามุมนั้นจะมีคนพูดต่ออีก ระยะหนึ่ง เพราะว่าทางพรรคฯ โดยคุณอลงกรณ์ กำลัง ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่สิ่งที่ผมอยากจะย้ำก็คือว่า ในขณะที่ความสนใจพุ่งไปตรงนั้น ผมก็แปลกใจว่าประเด็นที่เป็นปัญหาใหญ่กว่ามากก็คือแนวคิดเบื้องหลังการทำโครงการนี้ทั้งหมด และก็ความเหมาะสม ของการที่จะดำการในขณะนี้ อยากจะท้าวความว่า สิ่งที่เราต้องพยายามรักษาความพอดีก็คือ ความสะดวกสบายในการจัดการ กับเรื่องของการคุ้มครองสิทธิ์ เสรีภาพ ซึ่งตรงนี้คือจุดที่ทำให้การดำเนินการของประเทศต่าง ๆ ต้องใช้เวลาค่อนข้างจะยาวนาน ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า การที่เรามาวิจารณ์เรื่องของแนวคิด ในโครงการนี้ผมเชื่อว่าใครในที่นี้ที่ต่อต้านเรื่องของเทคโนโลยี และผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องการที่จะใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เกิดความสะดวก สบาย รวดเร็ว และเราก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่า ในแง่ของการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราเอง หรือกับคนอื่น ในปัจจุบันก็มีความยุ่งยากมากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามการตั้งเป้าว่า เราต้องการที่จะสร้าง หรืออำนวยความสะดวกมากยิ่งขึ้น มันคงต้องดูให้ครบว่าสภาพปัญหาจริง ๆ มันอยู่ตรงไหน และโครงสร้างพื้นฐานที่จะต้องรองรับ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะโครงสร้างพื้นฐานในแง่ของอุปกรณ์ เทคโนโลยี แต่หมายความถึง เรื่องของสถาบัน เรื่องของกฎหมาย เรื่องของกติกา ตรงนี้สำคัญมากในปัจจุบันเรากำลังเดินหน้าในลักษณะที่มันผิดขั้นตอน กลับหัวกลับหาง ผมเริ่มต้นฟันธงอย่างนี้เลย เหตุผลก็คือว่าความคิดเกี่ยวกับเรื่องของการที่จะเผบแพร่และใช้เทคโนโลยี ไม่ใช่พึ่งมาคิดกันในรัฐบาลนี้มันคิดกันมาก่อนหน้านี้แล้ว และความคิดที่มีก่อนหน้านี้ค่อนข้างที่จะตระหนักถึงความจำเป็นในการเรียงลำดับขั้นตอนอย่างถูกต้อง ดังนั้นถ้าจำได้ ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว มันมีการนำเสนอความคิดชัดเจนว่ามันจะต้องมีการตรากฎหมาย 6 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อจะนำไปสู่การเอาเทคโนโลยีตัวนี้ไปใช้ทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ที่อยากจะได้จากเทคโนโลยี โดยที่มีหลักประกันของการคุ้มครอง
รัฐบาลนี้ได้เข้ามาทำงาน 3 ปี ได้สานต่อกฎหมายที่มันค้างอยู่ในสภาฯ ในสมัยที่แล้ว 2 ฉบับ แล้วต่อมามันก็ยุบรวมเหลือฉบับเดียว ก็คือกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องของธุรกรรม อีเล็กทรอนิกส์ กับกฎหมายว่าด้วยลายมือชื่อ อีเล็กทรอนิกส์ นะครับ ซึ่งความจริงผู้รู้ก็ไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะมันไปรวมอยู่ในกฎหมายฉบับเดียวกัน ก็ทำให้อาจจะไม่ได้ตามเป้าหมายอย่างเต็มที่นะครับ แต่กฎหมายอีกอย่างน้อย 2 ฉบับ มันเป็นเรื่องที่มีความ จำเป็นมากนะครับ ในการที่จะตราขึ้นมาเพื่อรองรับโครงการในลักษณะนี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26/03/47--จบ--
-สส-