‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ พร้อม ‘ตัวแทนนักวิชาการ’ ตั้งวงเสวนา ‘Smart ID Card : เหตุละเมิดข้อมูลอย่างถูกกฎหมาย?’ แนะรัฐบาลทำประชาพิจารณ์ถามข้อดี-เสียกับปชช. พร้อมเสนอ ‘ชะลอการออกบัตรสมาร์ทการ์ด — เร่งทำกฎหมายคุ้มครองสิทธิฯ’
วันนี้(26 มี.ค.47) เวลา 11.00น.ที่ห้องประชุม 5 ชั้น 26 สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อาคารพญาไทพลาซ่า ได้มีการเสวนาในหัวข้อ ‘Smart ID Card : เหตุละเมิดข้อมูลอย่างถูกกฎหมาย?’ จัดโดยชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยมีนักวิชาการและตัวแทนจากฝ่ายค้านเข้าร่วมการเสวนา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะตัวแทนจากฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังพุ่งความสนใจไปที่การออกบัตรสมาร์ทการ์ด ทั้งที่ประเด็นที่สำคัญคือเรื่องของสิทธิของประชาชนที่กำลังจะถูกล่วงละเมิด ทั้งนี้ก็ขอตั้งคำถามกับรัฐบาลว่า ในขณะที่รัฐบาลกำลังเร่งจัดทำตัวบัตร แต่เหตุใดรัฐบาลจึงไม่ให้ความสนใจกับการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับคือ 1.กฎหมายธุรกรรมอิเลคทรอนิคและลายมือชื่ออิเลคทรอนิค และ 2.กฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลให้เสร็จเรียบร้อยก่อน เพราะขณะนี้ข้อมูลในวงราชการได้หลุดไปอยู่ในมือของวงการธุรกิจแล้ว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยเข้าใจเรื่องสิทธิเสรีภาพของบุคคล รัฐบาลหรือนายกฯ กลับมองว่าเรื่องสิทธิเสรีภาพไม่ควรใช้มากจนเกินไปเพราะจะกลายเป็นอุปสรรค เพราะจะทำให้เกิดปัญหา เช่น กรณีการเกิดม็อบ ซึ่งตรงนี้ตนคิดว่าเป็นเรื่องของความคิดของผู้ที่มีอำนาจการจัดการ (อ่านรายละเอียด คำต่อคำได้ทาง www.democrat.or.th)
นายวสันต์ พานิช คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า การนำเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชนมารวบรวมไว้ในบัตรประจำตัวประชาชนอิเลคทรอนิค หรือบัตรสมาร์ทการ์ด โดยอ้างว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเก็บข้อมูลของรัฐบาล เป็นการตีความแบบศรีธนญชัย ในส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้จะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตได้ ทั้งนี้ขอเสนอให้รัฐบาลทำประชาพิจารณ์รับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชนเพื่อสำรวจข้อดีและข้อเสียของการทำบัตรดังกล่าว
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ อาจารย์พิเศษวิชากฎหมายเทคโนโลยี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดรัฐบาลจึงต้องการนำข้อมูลทั้งหมดของประชาชนมารวบรวมไว้ในบัตรสมาร์ทการ์ดเพียงบัตรเดียว ทั้งการจัดวางระบบลักษณะนี้จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับภาครัฐ ในการทำข้อมูลของประชาชนให้เป็นปัจจุบัน และหากในส่วนนี้มีความผิดพลาดความเสียหายก็จะเกิดตามมามากมาย อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้รัฐบาลชะลอการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดออกไปก่อน และเร่งจัดทำกฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลออกมา เพื่อเป็นการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เพราะปัจจุบันกฎหมายการละเมิดสิทธิประชาชนอ่อนมาก เพราะหากมีการละเมิดสิทธิ ผู้ละเมิดจะได้รับโทษเป็นการจำคุกเพียง 3 — 5 ปีเท่านั้น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26/03/47--จบ--
-สส-
วันนี้(26 มี.ค.47) เวลา 11.00น.ที่ห้องประชุม 5 ชั้น 26 สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อาคารพญาไทพลาซ่า ได้มีการเสวนาในหัวข้อ ‘Smart ID Card : เหตุละเมิดข้อมูลอย่างถูกกฎหมาย?’ จัดโดยชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยมีนักวิชาการและตัวแทนจากฝ่ายค้านเข้าร่วมการเสวนา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะตัวแทนจากฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังพุ่งความสนใจไปที่การออกบัตรสมาร์ทการ์ด ทั้งที่ประเด็นที่สำคัญคือเรื่องของสิทธิของประชาชนที่กำลังจะถูกล่วงละเมิด ทั้งนี้ก็ขอตั้งคำถามกับรัฐบาลว่า ในขณะที่รัฐบาลกำลังเร่งจัดทำตัวบัตร แต่เหตุใดรัฐบาลจึงไม่ให้ความสนใจกับการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับคือ 1.กฎหมายธุรกรรมอิเลคทรอนิคและลายมือชื่ออิเลคทรอนิค และ 2.กฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลให้เสร็จเรียบร้อยก่อน เพราะขณะนี้ข้อมูลในวงราชการได้หลุดไปอยู่ในมือของวงการธุรกิจแล้ว
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยเข้าใจเรื่องสิทธิเสรีภาพของบุคคล รัฐบาลหรือนายกฯ กลับมองว่าเรื่องสิทธิเสรีภาพไม่ควรใช้มากจนเกินไปเพราะจะกลายเป็นอุปสรรค เพราะจะทำให้เกิดปัญหา เช่น กรณีการเกิดม็อบ ซึ่งตรงนี้ตนคิดว่าเป็นเรื่องของความคิดของผู้ที่มีอำนาจการจัดการ (อ่านรายละเอียด คำต่อคำได้ทาง www.democrat.or.th)
นายวสันต์ พานิช คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า การนำเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชนมารวบรวมไว้ในบัตรประจำตัวประชาชนอิเลคทรอนิค หรือบัตรสมาร์ทการ์ด โดยอ้างว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเก็บข้อมูลของรัฐบาล เป็นการตีความแบบศรีธนญชัย ในส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้จะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตได้ ทั้งนี้ขอเสนอให้รัฐบาลทำประชาพิจารณ์รับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชนเพื่อสำรวจข้อดีและข้อเสียของการทำบัตรดังกล่าว
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ อาจารย์พิเศษวิชากฎหมายเทคโนโลยี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดรัฐบาลจึงต้องการนำข้อมูลทั้งหมดของประชาชนมารวบรวมไว้ในบัตรสมาร์ทการ์ดเพียงบัตรเดียว ทั้งการจัดวางระบบลักษณะนี้จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับภาครัฐ ในการทำข้อมูลของประชาชนให้เป็นปัจจุบัน และหากในส่วนนี้มีความผิดพลาดความเสียหายก็จะเกิดตามมามากมาย อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้รัฐบาลชะลอการจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดออกไปก่อน และเร่งจัดทำกฎหมายคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลออกมา เพื่อเป็นการป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เพราะปัจจุบันกฎหมายการละเมิดสิทธิประชาชนอ่อนมาก เพราะหากมีการละเมิดสิทธิ ผู้ละเมิดจะได้รับโทษเป็นการจำคุกเพียง 3 — 5 ปีเท่านั้น
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26/03/47--จบ--
-สส-