นายตรีพล เจาะจิตต์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ประธานคณะทำงานด้านการเกษตร พรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า การโยกย้าย 9 รองอธิบดีในกระทรวงเกษตรฯ และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.นี้นั้น เป็นการย้ายที่ไม่มีเหตุผลแม้แต่นิดเดียว ก่อให้เกิดผลเสียต่องานราชการ กระทบต่อการช่วยเหลือเกษตรกรและมีผลต่อการพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านการเกษตรของประเทศ ข้อที่ผิดพลาดอย่างยิ่งก็คือโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ไม่ตรงกับงานที่เหมาะสม เช่น ย้ายรองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านที่ดินมามากกว่า 20 ปี ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะ ย้ายรองอธิบดีกรมปศุสัตว์ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประมง ย้ายรองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านพืชมาไม่น้อยกว่า 20 ปี ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมชลประทาน ซึ่งเป็นเรื่องของวิศวกรรมชลประทาน ย้ายรองอธิบดีกรมประมง ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องกุ้ง ปลา ไปเป็นรองอธิบดีกรมส่งเสริมเกษตร เป็นต้น
‘นี่เป็นเพียงบางตัวอย่างซึ่งการย้ายครั้งนี้ไม่ได้ย้ายแบบบูรณาการ แต่ย้ายแบบบูรณามั่ว เพราะรองอธิบดีที่โดนโยกย้าย ไม่สามารถทำงานได้ทันที เพราะขาดความรู้ความชำนาญ ไม่สามารถสั่งการลูกน้องได้ ผลเสียหายอย่างมาก ก็คือทำให้งานชงัก กระทรวงเกษตรเสียโอกาสในการพัฒนา’ นายตรีพล กล่าว
นายตรีพล กล่าวต่ออีกว่า ในฐานะที่ตนทำหน้าที่ตรวจสอบงานทางด้านการเกษตรของประเทศ ตนยังมองไม่ออกว่า การย้ายรองอธิบดีกระทรวงเกษตรฯทั้ง 9 คนครั้งนี้ท่านรัฐมนตรีมีวัตถุประสงค์อย่างไร แต่ที่แน่ๆก็คือ ต้องการแสดงอำนาจว่าเขาจะทำอย่างไรก็ได้ และคงจะมีแผนซ่อนเร้นอยู่ในใจ ในการโยกย้ายอธิบดีในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ถ้าใครไม่อยากจะย้ายหรือจะย้ายไปไหน ต้องมาพบมาปรึกษารัฐมนตรี และจากการสอบถามข้าราชการกระทรวงเกษตรประมาณ 120 คน ว่าเห็นด้วยกับการแต่งตั้งครั้งนี้หรือไม่ ปรากฏว่า 100% ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
นายตรีพล กล่าวว่า รัฐบาลไทยรักไทย บริหารมาครบ 3 ปี เปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ 3 คน กระทรวงเกษตรฯไม่มีอะไรดีขึ้น กลับถอยหลังเข้าคลอง สมัยอดีตรมต.ชูชีพ มีแต่เรื่องทุจริตมากมาย ไม่ว่าโครงการนมโรงเรียน ปุ๋ยปลอม ทุจริตโคกระบือ ฯลฯ สมัยอดีตรมต.สรอรรถ มาอยู่ไม่ครบปี ก็ไม่ได้ทำอะไรมัวแต่สอบสวนเรื่องทุจริต ปัจจุบัน รมต.สมศักดิ์ ก็ยังไม่แสดงความสามารถในด้านการบริหารให้เห็นประจักษ์ชัด จึงชี้ให้เห็นว่ากระทรวงเกษตรฯของรัฐบาลไทยรักไทยไม่มีอะไรดีขึ้น
นายตรีพล กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไทยรักไทยบริหารกระทรวงเกษตรฯ 3 ปี เกษตรกรไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น โดยสรุปความล้มเหลวของกระทรวงเกษตรฯในรอบ 3 ปีได้ดังนี้
ล้มเหลวในด้านการควบคุมการผลิต ทำให้เกษตรกรไม่สามารถผลิตและขายได้ตามราคาที่เหมาะสม ผลก็คือเกษตรมีหนี้สินเพิ่มขึ้น เกษตรกรมีความเป็นอยู่ไม่ดีขึ้น
ล้มเหลวในโครงการศูนย์การเกษตรเคลื่อนที่ (mobile unit) ทำให้หัวหน้าหน่วยงานระดับอำเภอไม่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้เต็มที่
ล้มเหลวในด้านการผลิตสัตว์ปีกอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะไม่สามารถควบคุมโรคระบาดไข้หวัดนกได้อย่างทันท่วงที สร้างความเสียหายต่ออาชีพการเลี้ยงสัตว์ปีกอย่างมหาศาล
ล้มเหลวในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการค้าเสรีกับประเทศจีน ซึ่งได้แก่เกษตรกรภาคเหนือที่ปลูกพืชผัก กระเทียม หอม เป็นต้น ยังไม่ทราบว่ากระทรวงเกษตรฯจะหาแนวทางช่วยอย่างไร
ล้มเหลวในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำมาตลอด 3 ปี
ล้มเหลวการบริหารบุคคลอย่างสิ้นเชิง วางคนไม่ตรงกับงาน จะทำให้กระทรวงเกษตรมีปัญหาเรื้อรัง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26/03/47--จบ--
-สส-
‘นี่เป็นเพียงบางตัวอย่างซึ่งการย้ายครั้งนี้ไม่ได้ย้ายแบบบูรณาการ แต่ย้ายแบบบูรณามั่ว เพราะรองอธิบดีที่โดนโยกย้าย ไม่สามารถทำงานได้ทันที เพราะขาดความรู้ความชำนาญ ไม่สามารถสั่งการลูกน้องได้ ผลเสียหายอย่างมาก ก็คือทำให้งานชงัก กระทรวงเกษตรเสียโอกาสในการพัฒนา’ นายตรีพล กล่าว
นายตรีพล กล่าวต่ออีกว่า ในฐานะที่ตนทำหน้าที่ตรวจสอบงานทางด้านการเกษตรของประเทศ ตนยังมองไม่ออกว่า การย้ายรองอธิบดีกระทรวงเกษตรฯทั้ง 9 คนครั้งนี้ท่านรัฐมนตรีมีวัตถุประสงค์อย่างไร แต่ที่แน่ๆก็คือ ต้องการแสดงอำนาจว่าเขาจะทำอย่างไรก็ได้ และคงจะมีแผนซ่อนเร้นอยู่ในใจ ในการโยกย้ายอธิบดีในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ถ้าใครไม่อยากจะย้ายหรือจะย้ายไปไหน ต้องมาพบมาปรึกษารัฐมนตรี และจากการสอบถามข้าราชการกระทรวงเกษตรประมาณ 120 คน ว่าเห็นด้วยกับการแต่งตั้งครั้งนี้หรือไม่ ปรากฏว่า 100% ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
นายตรีพล กล่าวว่า รัฐบาลไทยรักไทย บริหารมาครบ 3 ปี เปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ 3 คน กระทรวงเกษตรฯไม่มีอะไรดีขึ้น กลับถอยหลังเข้าคลอง สมัยอดีตรมต.ชูชีพ มีแต่เรื่องทุจริตมากมาย ไม่ว่าโครงการนมโรงเรียน ปุ๋ยปลอม ทุจริตโคกระบือ ฯลฯ สมัยอดีตรมต.สรอรรถ มาอยู่ไม่ครบปี ก็ไม่ได้ทำอะไรมัวแต่สอบสวนเรื่องทุจริต ปัจจุบัน รมต.สมศักดิ์ ก็ยังไม่แสดงความสามารถในด้านการบริหารให้เห็นประจักษ์ชัด จึงชี้ให้เห็นว่ากระทรวงเกษตรฯของรัฐบาลไทยรักไทยไม่มีอะไรดีขึ้น
นายตรีพล กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไทยรักไทยบริหารกระทรวงเกษตรฯ 3 ปี เกษตรกรไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น โดยสรุปความล้มเหลวของกระทรวงเกษตรฯในรอบ 3 ปีได้ดังนี้
ล้มเหลวในด้านการควบคุมการผลิต ทำให้เกษตรกรไม่สามารถผลิตและขายได้ตามราคาที่เหมาะสม ผลก็คือเกษตรมีหนี้สินเพิ่มขึ้น เกษตรกรมีความเป็นอยู่ไม่ดีขึ้น
ล้มเหลวในโครงการศูนย์การเกษตรเคลื่อนที่ (mobile unit) ทำให้หัวหน้าหน่วยงานระดับอำเภอไม่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้เต็มที่
ล้มเหลวในด้านการผลิตสัตว์ปีกอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะไม่สามารถควบคุมโรคระบาดไข้หวัดนกได้อย่างทันท่วงที สร้างความเสียหายต่ออาชีพการเลี้ยงสัตว์ปีกอย่างมหาศาล
ล้มเหลวในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการค้าเสรีกับประเทศจีน ซึ่งได้แก่เกษตรกรภาคเหนือที่ปลูกพืชผัก กระเทียม หอม เป็นต้น ยังไม่ทราบว่ากระทรวงเกษตรฯจะหาแนวทางช่วยอย่างไร
ล้มเหลวในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำมาตลอด 3 ปี
ล้มเหลวการบริหารบุคคลอย่างสิ้นเชิง วางคนไม่ตรงกับงาน จะทำให้กระทรวงเกษตรมีปัญหาเรื้อรัง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 26/03/47--จบ--
-สส-