เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๓.๔๐ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้นล่าง
อาคารรัฐสภา ๑ นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดขอนแก่น พรรคไทยรักไทย
ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงถึงเรื่องที่นายเสกสรรค์
แสนภูมิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุรินทร์ ได้รับหนังสือร้องเรียนจากแรงงานประมง จำนวน
๒๕ คน ถูกบริษัทน้ำแข็งประมงสมุทรสงคราม จำกัด หลอกไปทำงานหาปลาในทวีปอาฟริกาใต้ว่า
ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตัวแทนจากกรม
สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน ผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ และราษฎรจากจังหวัดสุรินทร์ที่เป็น
ญาติพี่น้องกับลูกเรือประมงเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า
ขณะนี้แรงงานที่อยู่ที่อาฟริกาใต้ต้องการที่จะกลับประเทศไทย โดยผู้ที่หนีรอดกลับมาประเทศไทยได้ให้ข้อมูลว่า
ขณะทำงานอยู่ที่เรือประมงได้รับความลำบากมาก ค่าจ้างก็ไม่เป็นไปตามสัญญา สวัสดิการไม่มี หากเรียกร้องอะไร
ก็จะถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ก็จับโยนลงทะเล ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญบริษัทดังกล่าวมาชี้แจง แต่อ้างว่า
ไปต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงานได้เคยสอบปากคำตัวแทนบริษัทดังกล่าวแล้ว และอ้างว่า
สัญญาที่ทำไม่มีลายลักษณ์อักษร แต่เป็นเพียงข้อตกลงระหว่างคนงานกับนายจ้างที่พึงพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
แต่เมื่อคนงานประสบปัญหาบริษัทไม่มีความรับผิดชอบ ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายให้
เอกอัครราชทูตที่อยู่ที่อาฟริกาใต้ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และนำผลมารายงานให้คณะกรรมาธิการฯ
ทราบต่อไปด้วยว่าคนงานที่เหลืออยู่มีความเป็นอยู่อย่างไร
นายเปรมศักดิ์กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวพบว่า มีพฤติกรรมที่มีอิทธิพล
โดยไม่ให้ความร่วมมือกับทางราชการในการแก้ไขปัญหาให้กับคนงาน ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ จะได้ประสาน
ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดให้ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวว่า
เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ และคณะกรรมาธิการฯ ได้ขอให้กระทรวงแรงงาน
เร่งรัดออกกฎหมายคุ้มครองลูกเรือประมงที่ออกหาปลานอกน่านน้ำของประเทศไทยด้วย
----------------------------------------------------------
อาคารรัฐสภา ๑ นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดขอนแก่น พรรคไทยรักไทย
ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงถึงเรื่องที่นายเสกสรรค์
แสนภูมิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุรินทร์ ได้รับหนังสือร้องเรียนจากแรงงานประมง จำนวน
๒๕ คน ถูกบริษัทน้ำแข็งประมงสมุทรสงคราม จำกัด หลอกไปทำงานหาปลาในทวีปอาฟริกาใต้ว่า
ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตัวแทนจากกรม
สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน ผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ และราษฎรจากจังหวัดสุรินทร์ที่เป็น
ญาติพี่น้องกับลูกเรือประมงเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า
ขณะนี้แรงงานที่อยู่ที่อาฟริกาใต้ต้องการที่จะกลับประเทศไทย โดยผู้ที่หนีรอดกลับมาประเทศไทยได้ให้ข้อมูลว่า
ขณะทำงานอยู่ที่เรือประมงได้รับความลำบากมาก ค่าจ้างก็ไม่เป็นไปตามสัญญา สวัสดิการไม่มี หากเรียกร้องอะไร
ก็จะถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ก็จับโยนลงทะเล ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญบริษัทดังกล่าวมาชี้แจง แต่อ้างว่า
ไปต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงานได้เคยสอบปากคำตัวแทนบริษัทดังกล่าวแล้ว และอ้างว่า
สัญญาที่ทำไม่มีลายลักษณ์อักษร แต่เป็นเพียงข้อตกลงระหว่างคนงานกับนายจ้างที่พึงพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย
แต่เมื่อคนงานประสบปัญหาบริษัทไม่มีความรับผิดชอบ ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายให้
เอกอัครราชทูตที่อยู่ที่อาฟริกาใต้ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และนำผลมารายงานให้คณะกรรมาธิการฯ
ทราบต่อไปด้วยว่าคนงานที่เหลืออยู่มีความเป็นอยู่อย่างไร
นายเปรมศักดิ์กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวพบว่า มีพฤติกรรมที่มีอิทธิพล
โดยไม่ให้ความร่วมมือกับทางราชการในการแก้ไขปัญหาให้กับคนงาน ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ จะได้ประสาน
ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดให้ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวว่า
เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลหรือไม่ และคณะกรรมาธิการฯ ได้ขอให้กระทรวงแรงงาน
เร่งรัดออกกฎหมายคุ้มครองลูกเรือประมงที่ออกหาปลานอกน่านน้ำของประเทศไทยด้วย
----------------------------------------------------------