วันจันทร์ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๔๗ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา นางพรพิมล ถิรคุณโกวิท
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง "พนักงานราชการ"
ณ ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๒๑๓-๒๑๖ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้กล่าวว่า ส่วนราชการทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ
มีภารกิจในการปฏิบัติมากมาย เพื่อให้งานส่วนราชการบรรลุตามเป้าหมายในการจัดตั้งส่วนราชการและ
สนองต่อความผาสุขของประชาชนและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ การที่จะดำเนินการงานในส่วนราชการ
ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลโดยใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อย่างคุ้มค่านั้น
บุคลากรถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด ทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการต่าง ๆ ในปัจจุบันมีทั้งส่วนที่เป็น
ข้าราชการประจำ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ เป็นลูกจ้างประจำและเป็นลูกจ้างชั่วคราว
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ปฏิบัติและความจำเป็นในการใช้บุคลากรปฏิบัติงานประเภทนั้น ๆ อย่างไรก็ดี
โดยที่เป็นการสมควรให้มีการปรับปรุงกระบวนการจ้างงานภาครัฐในส่วนของลูกจ้างของส่วนราชการ
ให้มีความหลากหลาย เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการใช้กำลังคนของภาครัฐและการให้การปฏิบัติงาน
มีความคล่องตัว เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่
ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ยุบเลิกตำแหน่งลูกจ้างประจำ หากตำแหน่งว่างลงเนื่องจากเกษียณอายุ
คณะรัฐมนตรีจึงเห็นควรให้มีการจ้างพนักงานราชการ สำหรับการปฏิบัติงานของส่วนราชการ โดยออก
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
ดังนั้น ระบบพนักงานราชการจึงน่าจะเป็นระบบหนึ่งที่ส่วนราชการฝ่ายนิติบัญญัติสามารถนำมาใช้เพื่อสรรหา
บุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญพิเศษ หรือเฉพาะทาง โดยใช้ศักยภาพของบุคคลอย่างเต็มที่มาเสริมงาน
ด้านนิติบัญญัติให้เกิดส่วนราชการสังกัดรัฐสภาให้มีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น ซึ่งในคราวการประชุม
คณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ เห็นชอบให้สำนักงานเลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎรรับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงาน ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ มาใช้โดยอนุโลม
การจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นการสัมมนาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้มีความรู้ ความเข้าใจ
ร่วมกันเกี่ยวกับระบบพนักงานราชการ จุดอ่อน จุดแข็ง ระบบพนักงานราชการ และขอให้สร้าง
ความเข้าใจอย่างชัดเจน เพื่อใช้ระบบดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่องานราชการของสำนักงาน
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
--------------------------------------------------------------
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง "พนักงานราชการ"
ณ ห้องประชุมกรรมาธิการหมายเลข ๒๑๓-๒๑๖ ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ๒
รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้กล่าวว่า ส่วนราชการทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ
มีภารกิจในการปฏิบัติมากมาย เพื่อให้งานส่วนราชการบรรลุตามเป้าหมายในการจัดตั้งส่วนราชการและ
สนองต่อความผาสุขของประชาชนและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ การที่จะดำเนินการงานในส่วนราชการ
ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลโดยใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อย่างคุ้มค่านั้น
บุคลากรถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด ทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการต่าง ๆ ในปัจจุบันมีทั้งส่วนที่เป็น
ข้าราชการประจำ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ เป็นลูกจ้างประจำและเป็นลูกจ้างชั่วคราว
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ปฏิบัติและความจำเป็นในการใช้บุคลากรปฏิบัติงานประเภทนั้น ๆ อย่างไรก็ดี
โดยที่เป็นการสมควรให้มีการปรับปรุงกระบวนการจ้างงานภาครัฐในส่วนของลูกจ้างของส่วนราชการ
ให้มีความหลากหลาย เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการใช้กำลังคนของภาครัฐและการให้การปฏิบัติงาน
มีความคล่องตัว เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่
ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ยุบเลิกตำแหน่งลูกจ้างประจำ หากตำแหน่งว่างลงเนื่องจากเกษียณอายุ
คณะรัฐมนตรีจึงเห็นควรให้มีการจ้างพนักงานราชการ สำหรับการปฏิบัติงานของส่วนราชการ โดยออก
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗
ดังนั้น ระบบพนักงานราชการจึงน่าจะเป็นระบบหนึ่งที่ส่วนราชการฝ่ายนิติบัญญัติสามารถนำมาใช้เพื่อสรรหา
บุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญพิเศษ หรือเฉพาะทาง โดยใช้ศักยภาพของบุคคลอย่างเต็มที่มาเสริมงาน
ด้านนิติบัญญัติให้เกิดส่วนราชการสังกัดรัฐสภาให้มีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น ซึ่งในคราวการประชุม
คณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ เห็นชอบให้สำนักงานเลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎรรับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงาน ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๗ มาใช้โดยอนุโลม
การจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นการสัมมนาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้มีความรู้ ความเข้าใจ
ร่วมกันเกี่ยวกับระบบพนักงานราชการ จุดอ่อน จุดแข็ง ระบบพนักงานราชการ และขอให้สร้าง
ความเข้าใจอย่างชัดเจน เพื่อใช้ระบบดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่องานราชการของสำนักงาน
เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
--------------------------------------------------------------