วันนี้(6เม.ย.47) เวลา 09.00น. ในพิธีทำบุญพรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกับชาวมุสลิมที่มาร่วมอวยพรในพิธีทางศาสนาอิสลามกว่า 200 คนว่า ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในบ้านเมืองหลายเหตุการณ์ เช่น ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ เห็นได้ว่าเมื่อปลายรัฐบาลประชาธิปัตย์ เหตุการณ์มีแนวโน้มจะดีขึ้น แต่เมื่อรัฐบาลปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
‘การแก้ปัญหาของรัฐบาลที่บอกว่าคิดใหม่ ทำใหม่ กลายเป็น คิดไว ทำผิด การยกเลิกโครงการบริหารราชการแผ่นดินในภาคใต้ ซึ่งเป็นการตัดการมีบทบาทร่วมของคนในที่นั่น ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งมาตั้งแต่สมัยรับบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลร่วมด้วย ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลสำนึกได้ว่าแนวทางที่รัฐบาลกำลังดำเนินมาผิด และยอมรับความคิดเห็นและแนวทางที่ถูกต้องที่นักวิชาการเสนอ ก็คิดว่าปัญหาจะลดลง อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์ จะทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามเรื่องนี้ต่อไป ภายใต้ความรู้สึกที่ว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่และภารกิจที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องทำเพื่อประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง’ นายบัญญัติกล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสริมว่าขณะนี้ประชาชนที่จังหวัดภาคใต้ มีความหวั่นกลัวผู้ก่อเหตุร้าย ในขณะเดียวกันก็กลัวอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐด้วย จากสิ่งที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความไม่เข้าใจของผู้นำที่คิดว่าการแก้ปัญหาตต้องรวบอำนาจไว้ที่คนเพียงคนเดียวและเอาตัวเลขมาเป็นเครื่องวัดความสำเร็จในการจัดการปัญหา เช่น แนวคิดของรัฐบาลที่จะจัดการปัญหาใต้ภายใน 3-6 เดือน โดยมีการตั้งเป้าการปราบปรามไว้ที่เดือนละ 10 คน ส่วนนี้เองที่สร้างช่องว่างให้เกิดขึ้นระหว่างรัฐกับประชาชน เพราะประชาชนส่วนใหญ่จะไม่ชอบวิธีการที่เป็นอยุติธรรมเช่นนี้
สำหรับแนวทางใหม่ที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกฯ เสนอต่อรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แนวทางของนายจาตุรนต์สวนทางกับแนวทางเดิมของรัฐบาล ชี้ให้เห็นว่าขณะนี้รัฐบาลเริ่มยอมรับถึงความผิดพลาดของตัวเองแล้ว ในท้ายสุดนายอภิสิทธิ์ได้กล่าวย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแนวทางที่จะไปหยิบปมความขัดแย้งมาเป็นแนวทางของพรรคฯ อย่างไรก็ตามอยากเรียกร้องให้รัฐบาล อย่าพยายามสาดโคลนโยนปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคใต้ให้เป็นเรื่องการเมือง เพราะสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เตือนรัฐบาลคือการทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6/04/47--จบ--
-สส-
‘การแก้ปัญหาของรัฐบาลที่บอกว่าคิดใหม่ ทำใหม่ กลายเป็น คิดไว ทำผิด การยกเลิกโครงการบริหารราชการแผ่นดินในภาคใต้ ซึ่งเป็นการตัดการมีบทบาทร่วมของคนในที่นั่น ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งมาตั้งแต่สมัยรับบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลร่วมด้วย ผมคิดว่าถ้ารัฐบาลสำนึกได้ว่าแนวทางที่รัฐบาลกำลังดำเนินมาผิด และยอมรับความคิดเห็นและแนวทางที่ถูกต้องที่นักวิชาการเสนอ ก็คิดว่าปัญหาจะลดลง อย่างไรก็ตามพรรคประชาธิปัตย์ จะทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามเรื่องนี้ต่อไป ภายใต้ความรู้สึกที่ว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่และภารกิจที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องทำเพื่อประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง’ นายบัญญัติกล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสริมว่าขณะนี้ประชาชนที่จังหวัดภาคใต้ มีความหวั่นกลัวผู้ก่อเหตุร้าย ในขณะเดียวกันก็กลัวอำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐด้วย จากสิ่งที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความไม่เข้าใจของผู้นำที่คิดว่าการแก้ปัญหาตต้องรวบอำนาจไว้ที่คนเพียงคนเดียวและเอาตัวเลขมาเป็นเครื่องวัดความสำเร็จในการจัดการปัญหา เช่น แนวคิดของรัฐบาลที่จะจัดการปัญหาใต้ภายใน 3-6 เดือน โดยมีการตั้งเป้าการปราบปรามไว้ที่เดือนละ 10 คน ส่วนนี้เองที่สร้างช่องว่างให้เกิดขึ้นระหว่างรัฐกับประชาชน เพราะประชาชนส่วนใหญ่จะไม่ชอบวิธีการที่เป็นอยุติธรรมเช่นนี้
สำหรับแนวทางใหม่ที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกฯ เสนอต่อรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แนวทางของนายจาตุรนต์สวนทางกับแนวทางเดิมของรัฐบาล ชี้ให้เห็นว่าขณะนี้รัฐบาลเริ่มยอมรับถึงความผิดพลาดของตัวเองแล้ว ในท้ายสุดนายอภิสิทธิ์ได้กล่าวย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแนวทางที่จะไปหยิบปมความขัดแย้งมาเป็นแนวทางของพรรคฯ อย่างไรก็ตามอยากเรียกร้องให้รัฐบาล อย่าพยายามสาดโคลนโยนปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคใต้ให้เป็นเรื่องการเมือง เพราะสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เตือนรัฐบาลคือการทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 6/04/47--จบ--
-สส-