กรุงเทพ--8 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (5 เมษายน 2547) นาย Antanas Valionis รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
สาธารณรัฐลิทัวเนียได้เข้าพบหารือกับ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ที่กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา ภายหลังการหารือ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศ
และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การเยือนประเทศไทยของรัฐมนตรีต่าง
ประเทศลิทัวเนียในครั้งนี้ มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นการเยือนประเทศไทยในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ
ของลิทัวเนียเป็นครั้งแรก และเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ไทยกับลิทัวเนีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แสดง
ความประสงค์ที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกระดับ ทั้งทวิภาคีและในกรอบอาเซียนและสหภาพยุโรป
(EU) ซึ่งลิทัวเนียจะเข้าเป็นสมาชิกของ EU ในเร็วๆ นี้
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ไทยและลิทัวเนียมีความร่วมมือในกรอบองค์การว่าด้วย
ความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe
- OSCE) โดยไทยเป็นประเทศหุ้นส่วนความร่วมมือกับองค์การดังกล่าว นอกจากนี้ ประเทศทั้งสองมีความร่วม
มืออย่างใกล้ชิดในกรอบความร่วมมืออนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอน และการทำลายทุนระเบิด
สังหารบุคคล (Convention on the Prohibition of the Use, Stockpiling, Production and
Transfer of Anti-Personnel Mines and on their Destruction) ในอนาคตอันใกล้ ประเทศ
ทั้งสองเห็นพ้องร่วมกันที่จะรีบเร่งจัดทำความตกลงพื้นฐานระหว่างกัน อาทิ ความตกลงคุ้มครองการลงทุน
ความตกลงนกเว้นภาษีซ้อน ความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางทูตและราชการและความตกลง
ด้านวัฒนธรรม เป็นต้น
อธิบดีสีหศักดิ์ฯ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายมองเห็นลู่ทางในการขยายความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจการ
ค้าระหว่างกัน โดยในเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนการไปมาหาสู่ระหว่างกันระหว่างภาคเอกชนเพื่อแสวง
หาลู่ทางความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
ในของแต่ละประเทศมีอัตราการขยายตัวที่สูง รวมทั้งที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของไทยในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ และที่ตั้งของลิทัวเนียในฐานะที่เป็นประตูสู่บอลติกและสหภาพยุโรป จะเป็นลู่ทางให้ประเทศทั้งสองมี
ความร่วมมือกันในหลายๆ ด้าน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือในเรื่องการประชุมสุดยอดอาเซม
(ASEM Summit) ซึ่งจะมีขึ้นที่กรุงฮานอย ในเดือนตุลาคม 2547 ฝ่ายลิทัวเนียแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วม
เป็นสมาชิกในกรอบอาเซม ภายหลังจากเข้าเป็นสมาชิกของ EU แล้ว ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเรื่องการ
ขยายสมาชิกภาพของอาเซม ซึ่งติดขัดในประเด็นการเข้าเป็นสมาชิกอาเซมของพม่า ในเรื่องนี้ ดร.สุรเกียรติ์
เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงทรรศนะว่าฝ่ายยุโรปควรจะมองความร่วมมือใน
กรอบอาเซมในภาพกว้าง โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ได้รับจากความร่วมมือในกรอบดังกล่าว โดยไม่ควรนำ
ประเด็นสถานการณ์พม่ามาเป็นอุปสรรคขัดขวางความร่วมมือในกรอบอาเซม อีกทั้งในปัจจุบันนี้ เห็นได้ชัดว่า
กระบวนการปรองดองแห่งชาติและระบอบประชาธิปไตยในพม่ามีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร.
643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-
วันนี้ (5 เมษายน 2547) นาย Antanas Valionis รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
สาธารณรัฐลิทัวเนียได้เข้าพบหารือกับ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ที่กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา ภายหลังการหารือ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศ
และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การเยือนประเทศไทยของรัฐมนตรีต่าง
ประเทศลิทัวเนียในครั้งนี้ มีความสำคัญมากเนื่องจากเป็นการเยือนประเทศไทยในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ
ของลิทัวเนียเป็นครั้งแรก และเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ไทยกับลิทัวเนีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แสดง
ความประสงค์ที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกระดับ ทั้งทวิภาคีและในกรอบอาเซียนและสหภาพยุโรป
(EU) ซึ่งลิทัวเนียจะเข้าเป็นสมาชิกของ EU ในเร็วๆ นี้
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ไทยและลิทัวเนียมีความร่วมมือในกรอบองค์การว่าด้วย
ความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Cooperation in Europe
- OSCE) โดยไทยเป็นประเทศหุ้นส่วนความร่วมมือกับองค์การดังกล่าว นอกจากนี้ ประเทศทั้งสองมีความร่วม
มืออย่างใกล้ชิดในกรอบความร่วมมืออนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอน และการทำลายทุนระเบิด
สังหารบุคคล (Convention on the Prohibition of the Use, Stockpiling, Production and
Transfer of Anti-Personnel Mines and on their Destruction) ในอนาคตอันใกล้ ประเทศ
ทั้งสองเห็นพ้องร่วมกันที่จะรีบเร่งจัดทำความตกลงพื้นฐานระหว่างกัน อาทิ ความตกลงคุ้มครองการลงทุน
ความตกลงนกเว้นภาษีซ้อน ความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางทูตและราชการและความตกลง
ด้านวัฒนธรรม เป็นต้น
อธิบดีสีหศักดิ์ฯ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายมองเห็นลู่ทางในการขยายความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจการ
ค้าระหว่างกัน โดยในเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายจะสนับสนุนการไปมาหาสู่ระหว่างกันระหว่างภาคเอกชนเพื่อแสวง
หาลู่ทางความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
ในของแต่ละประเทศมีอัตราการขยายตัวที่สูง รวมทั้งที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของไทยในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ และที่ตั้งของลิทัวเนียในฐานะที่เป็นประตูสู่บอลติกและสหภาพยุโรป จะเป็นลู่ทางให้ประเทศทั้งสองมี
ความร่วมมือกันในหลายๆ ด้าน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือในเรื่องการประชุมสุดยอดอาเซม
(ASEM Summit) ซึ่งจะมีขึ้นที่กรุงฮานอย ในเดือนตุลาคม 2547 ฝ่ายลิทัวเนียแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วม
เป็นสมาชิกในกรอบอาเซม ภายหลังจากเข้าเป็นสมาชิกของ EU แล้ว ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเรื่องการ
ขยายสมาชิกภาพของอาเซม ซึ่งติดขัดในประเด็นการเข้าเป็นสมาชิกอาเซมของพม่า ในเรื่องนี้ ดร.สุรเกียรติ์
เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงทรรศนะว่าฝ่ายยุโรปควรจะมองความร่วมมือใน
กรอบอาเซมในภาพกว้าง โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ได้รับจากความร่วมมือในกรอบดังกล่าว โดยไม่ควรนำ
ประเด็นสถานการณ์พม่ามาเป็นอุปสรรคขัดขวางความร่วมมือในกรอบอาเซม อีกทั้งในปัจจุบันนี้ เห็นได้ชัดว่า
กระบวนการปรองดองแห่งชาติและระบอบประชาธิปไตยในพม่ามีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร.
643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-