กรุงเทพ--8 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
1. ในวันที่ 12 เมษายน 2547 ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การ
ต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดเยือน
มาเลเซีย โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีและคณะฯ จะพบปะหารือข้อราชการกับ Datuk Seri Abdullah
Ahmad Badawi นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เวลา ประมาณ 11.00 น. ตามด้วยงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ซึ่ง
มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีและคณะฯ ด้วย สำหรับวัตถุประสงค์ของการ
เยือน ซึ่งเป็นช่วงที่ Datuk Badawi เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียอีกวาระหนึ่ง
นั้น ก็เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือทวิภาคีในทุกด้านระหว่างประเทศทั้งสอง รวมทั้งจะถือ
โอกาสนี้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนทางภาคใต้ของไทยด้วย
2. ตามที่มีรายงานการให้สัมภาษณ์บุคคลระดับสูงของรัฐบาลมาเลเซีย เกี่ยวกับข่าวที่ประเทศไทย
กล่าวพาดพิงฝ่ายมาเลเซียเกี่ยวกับกรณีผู้ต้องสงสัยที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ นั้น ขอเรียน
ชี้แจงว่า ประเทศไทยไม่เคยแสดงท่าทีหรือเจตนาใดๆ ในทางที่จะเป็นการกล่าวโทษ หรือกล่าวหาประเทศ
มาเลเซียแต่อย่างใดดังที่ปรากฏเป็นข่าว ประเทศไทยถือว่ามาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและเป็น
มิตรประเทศที่สำคัญของไทย ประเทศไทยรู้สึกขอบคุณฝ่ายมาเลเซียที่ได้แสดงท่าทีที่พร้อมให้ความร่วมมือต่อ
การดำเนินการของฝ่ายไทยอย่างจริงจังตามที่ผู้นำได้มีการแถลงในโอกาสต่างๆ ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยตระหนักว่า
ความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างประเทศทั้งสอง มีความสำคัญต่อความพยายามของฝ่ายไทยในการแก้ไข
สถานการณ์ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ประเทศทั้งสองมีพรมแดนที่มีระยะทางที่ยาวและข้อเท็จจริงคือ
บางช่วงอาจมีมาตรการกวดขันไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบใน
ภาคใต้ของไทยที่อาจเป็นบุคคลที่มีสถานะสองสัญชาติ อาจหลบซ่อนไปยังเขตแดนของอีกฝั่งหนึ่งได้ ซึ่งก็เป็น
เรื่องที่ทั้งสองฝ่ายต้องประสานและร่วมมือกันในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไป
3. ดังนั้น ในโอกาสการเยือนมาเลเซียของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ฝ่ายไทยจะได้นำข้อมูล
และรายละเอียดต่าง ๆ ในเรื่องนี้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเหตุการณ์ และกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัย ไปหารือกับฝ่าย
มาเลเซีย เพื่อทั้งสองฝ่ายจะได้กำหนดแนวทางที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุน
การดำเนินการของฝ่ายไทยในการแก้ไขสถานการณ์ทางภาคใต้ ซึ่งย่อมจะส่งผลดีต่อการเสริมสร้างความมั่นคง
ตามบริเวณชายแดนของประเทศทั้งสองเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร.
643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-
1. ในวันที่ 12 เมษายน 2547 ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การ
ต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดเยือน
มาเลเซีย โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีและคณะฯ จะพบปะหารือข้อราชการกับ Datuk Seri Abdullah
Ahmad Badawi นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เวลา ประมาณ 11.00 น. ตามด้วยงานเลี้ยงอาหารกลางวัน ซึ่ง
มาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นเกียรติแก่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีและคณะฯ ด้วย สำหรับวัตถุประสงค์ของการ
เยือน ซึ่งเป็นช่วงที่ Datuk Badawi เพิ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียอีกวาระหนึ่ง
นั้น ก็เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือทวิภาคีในทุกด้านระหว่างประเทศทั้งสอง รวมทั้งจะถือ
โอกาสนี้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนทางภาคใต้ของไทยด้วย
2. ตามที่มีรายงานการให้สัมภาษณ์บุคคลระดับสูงของรัฐบาลมาเลเซีย เกี่ยวกับข่าวที่ประเทศไทย
กล่าวพาดพิงฝ่ายมาเลเซียเกี่ยวกับกรณีผู้ต้องสงสัยที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ นั้น ขอเรียน
ชี้แจงว่า ประเทศไทยไม่เคยแสดงท่าทีหรือเจตนาใดๆ ในทางที่จะเป็นการกล่าวโทษ หรือกล่าวหาประเทศ
มาเลเซียแต่อย่างใดดังที่ปรากฏเป็นข่าว ประเทศไทยถือว่ามาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและเป็น
มิตรประเทศที่สำคัญของไทย ประเทศไทยรู้สึกขอบคุณฝ่ายมาเลเซียที่ได้แสดงท่าทีที่พร้อมให้ความร่วมมือต่อ
การดำเนินการของฝ่ายไทยอย่างจริงจังตามที่ผู้นำได้มีการแถลงในโอกาสต่างๆ ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยตระหนักว่า
ความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างประเทศทั้งสอง มีความสำคัญต่อความพยายามของฝ่ายไทยในการแก้ไข
สถานการณ์ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ประเทศทั้งสองมีพรมแดนที่มีระยะทางที่ยาวและข้อเท็จจริงคือ
บางช่วงอาจมีมาตรการกวดขันไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบใน
ภาคใต้ของไทยที่อาจเป็นบุคคลที่มีสถานะสองสัญชาติ อาจหลบซ่อนไปยังเขตแดนของอีกฝั่งหนึ่งได้ ซึ่งก็เป็น
เรื่องที่ทั้งสองฝ่ายต้องประสานและร่วมมือกันในการตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไป
3. ดังนั้น ในโอกาสการเยือนมาเลเซียของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ฝ่ายไทยจะได้นำข้อมูล
และรายละเอียดต่าง ๆ ในเรื่องนี้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเหตุการณ์ และกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัย ไปหารือกับฝ่าย
มาเลเซีย เพื่อทั้งสองฝ่ายจะได้กำหนดแนวทางที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสนับสนุน
การดำเนินการของฝ่ายไทยในการแก้ไขสถานการณ์ทางภาคใต้ ซึ่งย่อมจะส่งผลดีต่อการเสริมสร้างความมั่นคง
ตามบริเวณชายแดนของประเทศทั้งสองเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร.
643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-สส-