กรมการประกันภัย เตรียมรับเทศกาลปีใหม่เปิดบริการสายด่วน 1186 ตลอดวันหยุด พร้อมสั่งการบริษัทจัดการค่าสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ฝากเตือนผู้ขับขี่ตรวจสอบประกันภัยรถก่อนออกเดินทาง
นางสาวพจนีย์ ธนวรานิช อธิบดีกรมการประกันภัย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวันทำให้มีปริมาณรถบนถนนคับคั่ง กรมการประกันภัยมีความห่วงใย ในอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่บริการให้คำปรึกษาแนะนำข้อมูลแก่ประชาชนในด้านการประกันภัยตลอดวันหยุดระหว่างวันที่ 13 - 15 เมษายน 2547 โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ทางโทรศัพท์ สายด่วน 1186 พร้อมทั้งประสานสำนักงานประกันภัยจังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำประกันภัย พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประสบภัยในการเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทประกันภัยเพื่อให้การจ่าย ค่าสินไหมทดแทนเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรม รวมทั้งขอให้ประสานจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังได้ประสานขอความร่วมมือบริษัทประกันภัย เตรียมความพร้อมในด้านการให้บริการ โดยเฉพาะการจัดการค่าสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพและให้บริษัทรายงานข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุจากรถในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้กรมการประกันภัยทราบ และเพื่อ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการทำประกันภัยรถต่อไป
อธิบดีกรมการประกันภัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง แนะนำผู้ขับขี่รถทุกคันให้ทำประกันภัยเพื่อบรรเทาความเสียหายอันอาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ กรณีทำประกันภัยไว้แล้วให้ตรวจสอบวันหมดอายุของกรมธรรม์ประกันภัย สำหรับการประกันภัยรถนั้น แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
1. การประกันภัยรถตาม พ.ร.บ. เป็นการประกันภัยรถภาคบังคับที่รถทุกคันต้องทำประกันภัย ซึ่งผู้ประสบภัยทุกคนจะได้รับความคุ้มครองในด้านค่ารักษาพยาบาลวงเงินสูงสุด รายละไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนในกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 100,000 บาท
2. การประกันภัยรถภาคสมัครใจ หรือการประกันภัยประเภท 1 ประเภท 2 และประเภท 3 เป็นการประกันภัยที่ขยายความคุ้มครองในส่วนที่เกินวงเงินคุ้มครองของการประกันภัยตามพ.ร.บ. และยังให้ความคุ้มครองรวมไปถึงทรัพย์สินของบุคคลภายนอกด้วย
อีกทั้งขอให้ผู้ขับขี่รถทุกท่านโปรดตรวจสภาพรถให้มีความพร้อมก่อนออกเดินทางและเตรียมความพร้อมด้านร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ปฏิบัติตามกฎจราจรเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ที่มา: http://www.doi.go.th