แท็ก
พรรคประชาธิปัตย์
’มล.อภิมงคล โสณกุล’ เร่ง รบ. ลอยตัวน้ำมัน และ ก๊าซหุงต้ม ประชาชนและนักลงทุนจะได้เห็นต้นทุนที่แท้จริง ระบุจะช่วยให้คนประหยัดมากกว่ามาตรการที่ รบ. เตรียมออกมาบังคับ
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ มล.อภิมงคล โสณกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศขณะนี้ว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้ราคาสูงถึง 61 เหรียญสหรัฐ/บาเรลล์ และไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง การที่รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันทำให้เกิดภาระหนี้กองทุนน้ำมันกว่า 9 หมื่นล้านบาท และการตรึงราคาน้ำมันทำให้เกิดผลกระทบ ดังนี้ 1. การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงต้นปีหน้า และปัญหาของการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจะเป็นแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไข 2. การกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ ทำให้ไม่มีเงินทุนที่ควรจะเอาไปลงทุนในโครงการพื้นฐานที่จะสร้างประสิทธิภาพให้กับกิจการด้านพลังงาน เช่น การสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ สร้างระบบท่อ เป็นต้น 3. รัฐบาลอ้างว่าถ้าไม่ตรึงราคาน้ำมันจะทำให้อัตราเงินเฟ้อของประเทศสูงขึ้นมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะในระยะสั้นการตรึงราคาอาจทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ในระยะยาวถ้ามีการบิดเบือนการใช้น้ำมันที่ไม่สะท้อนถึงต้นทุนที่แท้จริง หมายความว่าแม้ว่าวันนี้ต้นทุนดูเหมือนถูก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีการใช้จ่ายโดยภาคประชาชน ภาคธุรกิจอย่างฟุ่มเฟือย เพราะรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันไว้ ทำให้คนไม่สามารถเห็นต้นทุนที่แท้จริง ดังนั้นถ้ารัฐบาลปล่อยลอยตัวราคาน้ำมัน ก็จะทำให้ประชาชนและนักลงทุน เข้าใจถึงต้นทุนที่แท้จริง จะได้ปรับพฤติกรรมการใช้ ไม่ให้ใช้อย่างฟุ่มเฟือยต่อไป
มล.อภิมงคล กล่าวต่อว่า การที่รัฐบาลจะมีมาตรการบังคับในการประหยัดพลังงานต่างๆนั้น ตนก็อยากเรียนว่า มาตรการที่สำคัญที่สุดคือรัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนในด้านราคา ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นตนจึงมีข้อเสนอ ดังนี้
1. รัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนในเรื่องของเงื่อนเวลาในการลอยตัวน้ำมัน เพราะการที่รัฐบาลไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ จะเป็นการสร้างความไม่น่าเชื่อถือให้กับระบบเศรษฐกิจของไทย เมื่อไม่มีความชัดเจน นักลงทุนหรือประชาชนก็ไม่สามารถมองภาพเศรษฐกิจที่ชัดเจนได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนอย่าให้เกิดความสับสนมากกว่านี้
2. รัฐบาลควรเป็นผู้ออกพันธบัตร 85,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยเงินกองทุนในส่วนนี้เอง เพราะถ้าให้สถาบันบริหารกองทุนเป็นผู้ออกพันธบัตร ย่อมมีต้นทุนทางการเงินที่สูงกว่า และรัฐบาลก็ต้องเข้าไปค้ำประกัน แต่รัฐบาลไม่สามารถค้ำประกันเงินกู้ของสถาบันในลักษณะนี้ได้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้ต้นทุนของการออกพันธบัตรมีต้นทุนต่ำที่สุด และเงื่อนไขที่ดีที่สุด รัฐบาลควรที่จะออกพันธบัตรเอง
3. ควรจะมีการพิจารณาเงื่อนเวลาในการลอยตัวก๊าซหุงต้ม ให้เหมาะสม และน่าจะพิจารณาให้มีลอยตัวโดยเร็ว เพราะทุกเดือนเราต้องชดเชยก๊าซหุงต้มอยู่ประมาณ 500 ล้านบาท และเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น การชดเชยก๊าซหุงต้มก็จะมีมากขึ้นอีก ซึ่งจะเป็นภาระต่อไป และหากจะมีการชดเชยก็ขอให้ชดเชยเป็นรายกรณีแก่ผู้ที่เดือดร้อนอย่างแท้จริง เช่น ชาวประมง เกษตรกร หรือผู้ที่มีรายได้ต่ำ เป็นต้น
มล.อภิมงคล กล่าวอีกว่า ตอนนี้กิจการพลังงานของประเทศในระยะยาวขาดทิศทางการบริหารที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาต่างๆที่มองแต่ระยะสั้น ตอนนี้โครงการเมกะโปรเจ็กก็มีแนวโน้มชัดเจนว่าไม่สามารถจะทำได้หมด เพราะฉะนั้นควรจะสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานเป็นโครงการอันดับต้นๆที่ได้รับการพิจารณาให้เกิดขึ้นก่อนอย่างรอบคอบ เพื่อลดต้นทุนทางการขนส่งพลังงาน
มล.อภิมงคล กล่าวว่า การนำพลังงานอื่นๆมาใช้ก็เป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งรัฐบาลก็ได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะสนับสนุนให้ก๊าซโซฮอลล์เป็นพลังงานทดแทนของอนาคต รัฐบาลสนับสนุนให้มีการใช้ก๊าซโซฮอลล์อย่างกว้างขวาง แต่ไม่มีการสนับสนุนให้ทดสอบวิจัยเกี่ยวกับการใช้ก๊าซโซฮอลอย่างแท้จริงว่าในระยะยาวจะมีผลต่อเครื่องยนต์อย่างไร และการที่บอกว่าถูกกว่าน้ำมัน ก็เป็นความจริงที่บิดเบือน เพราะรัฐบาลบิดเบือนต้นทุนของการรับซื้อก๊าซโซฮอลล์จากโรงงาน ปัจจุบันเหลือผู้ผลิตเพียง 1 รายที่ยังคงผลิตอยู่ จากผู้ผลิตที่ได้รับอนุญาติ 24 เพราะราคารับซื้อไม่สามารถอยู่ต่อไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะส่งผลให้ก๊าซโซฮอลล์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หรือมีจำนวนไม่พอ ดังนั้นรัฐบาลต้องพิจารณาทบทวนโครงสร้างราคาของการรับซื้อว่าเหมาะสมหรือไม่ และอยู่ในระดับที่ผู้ผลิตสามารถอยู่ต่อไปได้ในระยะยาว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 ก.ค. 2548--จบ--
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ มล.อภิมงคล โสณกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศขณะนี้ว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้ราคาสูงถึง 61 เหรียญสหรัฐ/บาเรลล์ และไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง การที่รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันทำให้เกิดภาระหนี้กองทุนน้ำมันกว่า 9 หมื่นล้านบาท และการตรึงราคาน้ำมันทำให้เกิดผลกระทบ ดังนี้ 1. การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงต้นปีหน้า และปัญหาของการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจะเป็นแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไข 2. การกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ ทำให้ไม่มีเงินทุนที่ควรจะเอาไปลงทุนในโครงการพื้นฐานที่จะสร้างประสิทธิภาพให้กับกิจการด้านพลังงาน เช่น การสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ สร้างระบบท่อ เป็นต้น 3. รัฐบาลอ้างว่าถ้าไม่ตรึงราคาน้ำมันจะทำให้อัตราเงินเฟ้อของประเทศสูงขึ้นมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะในระยะสั้นการตรึงราคาอาจทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ในระยะยาวถ้ามีการบิดเบือนการใช้น้ำมันที่ไม่สะท้อนถึงต้นทุนที่แท้จริง หมายความว่าแม้ว่าวันนี้ต้นทุนดูเหมือนถูก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีการใช้จ่ายโดยภาคประชาชน ภาคธุรกิจอย่างฟุ่มเฟือย เพราะรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันไว้ ทำให้คนไม่สามารถเห็นต้นทุนที่แท้จริง ดังนั้นถ้ารัฐบาลปล่อยลอยตัวราคาน้ำมัน ก็จะทำให้ประชาชนและนักลงทุน เข้าใจถึงต้นทุนที่แท้จริง จะได้ปรับพฤติกรรมการใช้ ไม่ให้ใช้อย่างฟุ่มเฟือยต่อไป
มล.อภิมงคล กล่าวต่อว่า การที่รัฐบาลจะมีมาตรการบังคับในการประหยัดพลังงานต่างๆนั้น ตนก็อยากเรียนว่า มาตรการที่สำคัญที่สุดคือรัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนในด้านราคา ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ดังนั้นตนจึงมีข้อเสนอ ดังนี้
1. รัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนในเรื่องของเงื่อนเวลาในการลอยตัวน้ำมัน เพราะการที่รัฐบาลไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ จะเป็นการสร้างความไม่น่าเชื่อถือให้กับระบบเศรษฐกิจของไทย เมื่อไม่มีความชัดเจน นักลงทุนหรือประชาชนก็ไม่สามารถมองภาพเศรษฐกิจที่ชัดเจนได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนอย่าให้เกิดความสับสนมากกว่านี้
2. รัฐบาลควรเป็นผู้ออกพันธบัตร 85,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยเงินกองทุนในส่วนนี้เอง เพราะถ้าให้สถาบันบริหารกองทุนเป็นผู้ออกพันธบัตร ย่อมมีต้นทุนทางการเงินที่สูงกว่า และรัฐบาลก็ต้องเข้าไปค้ำประกัน แต่รัฐบาลไม่สามารถค้ำประกันเงินกู้ของสถาบันในลักษณะนี้ได้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้ต้นทุนของการออกพันธบัตรมีต้นทุนต่ำที่สุด และเงื่อนไขที่ดีที่สุด รัฐบาลควรที่จะออกพันธบัตรเอง
3. ควรจะมีการพิจารณาเงื่อนเวลาในการลอยตัวก๊าซหุงต้ม ให้เหมาะสม และน่าจะพิจารณาให้มีลอยตัวโดยเร็ว เพราะทุกเดือนเราต้องชดเชยก๊าซหุงต้มอยู่ประมาณ 500 ล้านบาท และเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น การชดเชยก๊าซหุงต้มก็จะมีมากขึ้นอีก ซึ่งจะเป็นภาระต่อไป และหากจะมีการชดเชยก็ขอให้ชดเชยเป็นรายกรณีแก่ผู้ที่เดือดร้อนอย่างแท้จริง เช่น ชาวประมง เกษตรกร หรือผู้ที่มีรายได้ต่ำ เป็นต้น
มล.อภิมงคล กล่าวอีกว่า ตอนนี้กิจการพลังงานของประเทศในระยะยาวขาดทิศทางการบริหารที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาต่างๆที่มองแต่ระยะสั้น ตอนนี้โครงการเมกะโปรเจ็กก็มีแนวโน้มชัดเจนว่าไม่สามารถจะทำได้หมด เพราะฉะนั้นควรจะสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานเป็นโครงการอันดับต้นๆที่ได้รับการพิจารณาให้เกิดขึ้นก่อนอย่างรอบคอบ เพื่อลดต้นทุนทางการขนส่งพลังงาน
มล.อภิมงคล กล่าวว่า การนำพลังงานอื่นๆมาใช้ก็เป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งรัฐบาลก็ได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะสนับสนุนให้ก๊าซโซฮอลล์เป็นพลังงานทดแทนของอนาคต รัฐบาลสนับสนุนให้มีการใช้ก๊าซโซฮอลล์อย่างกว้างขวาง แต่ไม่มีการสนับสนุนให้ทดสอบวิจัยเกี่ยวกับการใช้ก๊าซโซฮอลอย่างแท้จริงว่าในระยะยาวจะมีผลต่อเครื่องยนต์อย่างไร และการที่บอกว่าถูกกว่าน้ำมัน ก็เป็นความจริงที่บิดเบือน เพราะรัฐบาลบิดเบือนต้นทุนของการรับซื้อก๊าซโซฮอลล์จากโรงงาน ปัจจุบันเหลือผู้ผลิตเพียง 1 รายที่ยังคงผลิตอยู่ จากผู้ผลิตที่ได้รับอนุญาติ 24 เพราะราคารับซื้อไม่สามารถอยู่ต่อไปได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะส่งผลให้ก๊าซโซฮอลล์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หรือมีจำนวนไม่พอ ดังนั้นรัฐบาลต้องพิจารณาทบทวนโครงสร้างราคาของการรับซื้อว่าเหมาะสมหรือไม่ และอยู่ในระดับที่ผู้ผลิตสามารถอยู่ต่อไปได้ในระยะยาว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10 ก.ค. 2548--จบ--