ผมไม่ได้ตั้งใจจะอภิปรายไม่ไว้วางใจท่านรัฐมนตรี แต่ว่าตั้งใจที่จะมานั่งฟัง แล้วก็นึกเอาใจช่วยท่านครับ เพราะว่าเข้าใจดีว่าท่านอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากมาก ความคิดของท่าน สิ่งที่ผู้ที่แวดล้อมใกล้เคียงท่านพยายามที่จะเขียนให้ออกมาชี้แจงนั้น ตรงกันข้ามกับข้อมูลความรู้สึกหรือความรู้ที่ประชาชนคนอื่นๆในประเทศไทยเขาได้รับ เพราะฉะนั้นชี้แจงไปก็ลำบาก แต่ว่าที่ผมจำเป็นต้องลุกขึ้นมาขออนุญาตรบกวนเวลาของสภาก็เพราะว่าท่านรัฐมนตรีจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ไม่ทราบ ได้พยายามยกเอากรณีที่เคยเกิดขึ้นในสมัยที่ผมเป็นรมต.คมนาคม ที่มีกิจกรรมที่สนามบินสุวรรณภูมิแห่งนี้มาเปรียบเทียบกับกรณีของ CTX ที่ท่านรมต.กำลังชี้แจงอยู่
ผมเคยฟังมาหลายหนแล้วครับท่านประธานครับว่า รัฐบาลนี้หลายคนได้พยายามที่จะออกมาพูดจาในเชิงโอ้อวดกับพี่น้องประชาชนว่าทำงานดี ทำงานเก่ง และก็ไปยกกรณีการประมูลสร้างอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินในสมัยที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่า สร้างโดยจัดให้มีการประมูลเป็นราคาแพงถึง 54,000 ล้านบาท พูดกันในหลายที่ครับ แล้วก็มีลิ่วล้อเอาไปออกทีวีทุกเช้า หลายเช้ามาแล้ว ในทำนองว่าในสมัยรัฐบาลท่านนายกฯชวนที่มีผมเป็นรัฐมนตรีพยายามที่จะสร้างอาคารผู้โดยสารราคาตั้ง 54,000 ล้าน แต่ว่ามาถึงสมัยรัฐบาลนี้ ไม่เอา แล้วทำการประมูลสร้างใหญ่ได้ถูก สร้างเพียงในราคา 36,000 ล้านเท่านั้น
คนในประเทศไทยก็คงมีคนเชื่อบ้าง และก็คงตั้งคำถามอยู่ แต่ผมก็นึกว่าท่านพูดหลายเรื่อง ท่านพลาดพลั้งไปบ้างเรื่อง 2 เรื่องผมก็ไม่ติดใจ ไม่เคยคิดที่จะชี้แจง แต่วันนี้มันเป็นเรื่องสำคัญ ท่าน รมต.คมนาคม ท่านกำลังถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่ามีความบกพร่องในการปฏิบัติต่อหน้าที่ แล้วท่านยกเรื่องนี้ขึ้นมาอ้างว่าท่านทำดีมากแล้ว ในสมัยพรรคประชาธิปัตย์จะไปสร้างอาคารผู้โดยสารตั้ง 54,000 ล้าน สมัยท่านๆทำเพียง 36,000 ล้าน พูด 3 หน ผมนั่งจดเอาไว้ ที่ชี้แจงมายาวเหยียดพูดเรื่องนี้ 3 หน
ถ้าผมไม่ลุกขึ้นมาชี้แจงท่านหัวหน้าพรรคก็คงเปลี่ยนเลขาฯพรรค เพราะว่าเรื่องนี้พรรคเขาเสียหายครับ ความจริงเป็นอย่างนี้ครับท่านประธานครับ ในสมัยที่ผมเป็น รมต.รับผิดชอบงานกระทรวงคมนาคมนั้น ผมไม่ได้ดูแลการก่อสร้างสนามบินหนองงูเห่าเอง มอบให้ท่าน รมช.ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์เป็นคนดูแล และเมื่อมอบให้ รมช.ไปดูแลแล้วก็ไม่เคยลงไปแทรกแซง ผมไม่เหมือนท่านรมต.สุริยะที่ได้ลงไปนั่งประชุมกับเขาทุกเรื่อง ท่านอาจจะขยัน แต่ผมคิดคนละอย่างกับท่าน ถือปรัชญาคนละแบบ ท่านไปถามรัฐมนตรีช่วยที่อยู่พรรคเดียวกับท่าน 3-4 คนที่เคยทำงานกับผม เวลาผมมอบงานไปแล้ว ผมไม่แทรกแซงเลย แต่ว่ารับผิดชอบในฐานะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อนายกฯ ต่อคณะรัฐบาล
รัฐบาลของท่านนายกฯชวน หลีกภัย ท่านก็ทราบอยู่แล้วครับ เคร่งครัดในหลักการ และเรื่องงบประมาณก็รัดกุม บอกไว้ตั้งแต่ต้นเมื่อตอนที่ตัดสินใจว่าจะสร้างสนามบินหนองงูเห่า กำหนดวงเงินไว้ 120,000 ล้านบาท ทั้งสนามบิน ทุกเรื่องเบ็ดเสร็จ แล้วก็ซักซ้อมกันเป็นดิบดีว่าจะต้องไม่ทำให้งบประมาณนี้บานปลายเป็นอันขาด ทีนี้อาคารสนามบินที่ว่าบริษัทที่ปรึกษาเอ็มเจทีเอเขาออกแบบมา หรูหรามาก ท่านประธานคงจำได้ว่าในขณะนั้นมีคนวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าอาคารผู้โดยสารสนามบินนี้มันหรูหราเหลือเกิน ใช้ของแพงๆทั้งนั้น หลังคาก็เป็นผ้าใบทำพิเศษ ทำจากใยแก้ว เคลือบด้วยเทปล่อน กระจกทั้งหลัง บางคนวิจารณ์เลยเถิดว่าไม่ค่อยมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยเท่าไหร่
แต่จะอย่างไรก็ตามเขาจ้าง บ.เอ็มเจทีเอมาก่อนแล้ว ให้ออกแบบ มีข้อผูกพันตามสัญญา เราก็จะต้องเปิดประมูล หาผู้รับจ้างก่อสร้างตามแบบนั้น แต่ไม่เอาแบบนั้นมาเป็นปัญหาแน่ครับ ในที่สุดเขาก็เปิดประมูลราคากันเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2543 มีบริษัทเข้าร่วมประกวดราคาคราวนั้น 4 กลุ่มด้วยกันครับ ไอทีโอจอยซ์เวนเจอร์ ของท่านสุริยะก็เข้าไปดูด้วย ประมูลแล้วเป็นอย่างไรครับ ปรากฏว่าเขาประมูลเสร็จบริษัทที่ชนะ ที่เสนอราคาต่ำสุดไม่ใช่ไอทีโอ เป็นบริษัทอื่น เขาบอกว่าอาคารผู้โดยสารหลัก และอาคารเทียบเครื่องบิน ถ้าจะสร้างเขาคิดราคา 54,573 ล้านบาท ในขณะที่งบประมาณสำหรับกรณีนี้ตั้งไว้เพียง 45,000 ล้าน ผมไม่เคยสงสัยครับว่า เขาฮั้วกันหรือเปล่า แต่ผมเพิ่งได้ยินเมื่อสักครู่ ท่าน รมต.บอกว่า 4 บริษัทนี้ฮั้วกัน ผมไม่ทราบว่า ท่าน รมต.รู้เมื่อไหร่ ถ้ารมต.รู้ว่า 4 บริษัทนี้เคยฮั้วงาน ท่าน รมต.ไม่ควรให้งานกับไอทีโอ ต้องแบล็คลิสต์ นี่จ้างทุกวัน แถมจ้างพิเศษอีกต่างหาก ท่านต้องไปดูเองนะครับ ท่านต้องระมัดระวังเวลาตอบ
ท่านประธานครับสิ่งที่ผมจะกราบเรียน คือไม่ได้จะโต้เถียงอะไรกับรัฐมนตรี แต่ผมต้องการจะแก้ข้อมูลบรรจุไว้ในสมองของท่าน รมต.ว่า 54,000 ล้านบาทนั้น ผมไม่รับ ผมไม่เห็นด้วย ทำงานมา 3 ปีไม่เคยแทรกแซงรัฐมนตรีช่วยว่าการ แต่เรื่องนี้ต้องแทรกแซงครับ ผมทำบันทึกสั่งการไปถึง บทม. ในฐานะที่เป็น รมต.ต้องรับผิดชอบ ผมเชิญประธานบอร์ด บทม. พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ไม่ลงล้วงลูกมากไปกว่านั้นครับ รัฐมนตรีสั่งประธานบอร์ด หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของบอร์ด เป็นหน้าที่ของผู้บริหารต้องไปจัดการกันเอง สั่งเขาว่าอย่างไรครับ สั่งเขาบอกว่าราคานี้ใช้ไม่ได้ เกินงบประมาณ ท่านนายกฯชวนกำชับไม่ให้จ้างเกินงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ บอร์ดไปแก้ไขกันเอง ทำให้โปร่งใส ทั้งขั้นตอนของการประกวดราคา เรื่องนี้เป็นความสนใจของคนทั้งประเทศ สนามบินนี้เราขอพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ดี อย่าให้เสียหาย
มีลายลักษณ์อักษรครับ หนังสือสั่งการของผมลงวันที่ 24 ส.ค. ท่านไปหาเอาเอง วันที่ 13 ก.ย. วันที่ 20 ก.ย. เรื่องเดียวกันนี้ ผมยืนยันเด็ดขาด บาทเดียวเกินงบประมาณ เกินราคากลางที่กำหนดไว้ ไม่ให้สร้าง ผมและคนในพรรคประชาธิปัตย์ก็อยากมีสนามบินแห่งใหม่ รู้ความจำเป็นที่ต้องมีสนามบินแห่งใหม่ แต่ให้คนหากินกับสนามบินนี้ ไม่เอาครับ ไม่หุ้นด้วย มีแรงกดดันมากมายมาที่ผมครับ ที่ผมบอกว่านายผมมีคนเดียวคือ นายกรัฐมนตรี นโยบายนายกฯบอกว่าต้องสร้างสนามบินนี้ภายในงบประมาณ ต้องอยู่ภายในงบประมาณ ไปปรับรายการ ไปแก้ไข จะเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์อย่างไรก็ได้ แต่ว่าเหตุการณ์ที่ผมว่านี้มันเกิดขึ้น เดือนก.ย. 2543 หลังจากนั้น 4 เดือนเศษ เราไปเลือกตั้งกันครับ ไม่รู้โชคดีโชคร้ายพวกท่านก็ได้รับเลือกตั้งเข้ามา ท่านก็ไปจัดการครับ ประมูลใหม่ และก็ได้ราคาเหมือนที่ท่าน รมต.ว่าครับ 36,666 ล้านบาท
ที่จริงถ้าท่านเอาแค่นี้มาคุย ผมไม่ว่าอะไรเลย ผมชื่นชมซะด้วยซ้ำไป ผมก็บอกว่าท่านทำดี ตั้งราคากลางไว้ 50,000 45,000 ล้าน ท่านสร้างได้ 36,000 ล้าน ก็ดีแล้ว ดีมาก แต่ไม่ใช่ดีวิเศษ ถึงขั้น รมต.พูดเอาความดีใส่พวกรัฐมนตรี และเอาความชั่วใส่ผม ไม่ใช่ เพราะอะไรครับ เพราะที่สร้างได้ 36,666 ล้านบาท ท่านแก้แบบ ท่านเปลี่ยนวัสดุ ท่านแก้รายการก่อสร้าง แก้มากมายครับ ผมขออนุญาตทำความเข้าใจเรื่องนี้นิดหน่อยครับว่า การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินมีรายการวัสดุที่สำคัญอยู่ 3 อย่าง
1. เหล็ก
2. กระจก
3. ผ้าใบที่ใช้ใยแก้วถักทอและเคลือบด้วยเทปล่อน ซึ่งใช้ทำหลังคา
3 แบบนี้ในแบบเดิมที่เอ็มเจทีเอ เขียนไว้ต้องซื้อมาจากเมืองนอก เหล็กต้องใช้เหล็กพิเศษ มีความหนา 55 มม. หรือ 5.5 ซม. เหล็กอย่างนี้ไม่มีผลิตในประเทศไทย
ท่านแก้แบบ ท่านแก้สเปกที่เคยใช้เหล็กหนา 5.5 ซม. 55 มม. ท่านลดเหลือ 22 มม. และเหล็กที่เอามาม้วนมันใหญ่กว่าแบบเดิมที่ทำไว้ หน้าตัดใหญ่กว่า วิศวกรรมเขาบอกว่ารับน้ำหนักได้ ผมก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะว่าอย่างไร ใช้เหล็กบางกว่าเกินครึ่งหนึ่ง แน่นอนครับ ถ้าเหล็กบางกว่าก็น้ำหนักเบากว่า ท่านประธานครับ เหล็กเขาขายเป็นกิโล การที่ใช้เหล็กบางกว่าครึ่งหนึ่งนี้ ทำให้ใช้เหล็กมีน้ำหนักน้อยลงทั้งโครงการ 20,000 ตัน เฉพาะ 20,000 ตันที่ลดไปคิดเป็นเงิน 5,000 ล้านบาท และซื้อในประเทศไทย ไม่ต้องเอามาจากเมืองนอก นี่เป็นรายการแรก
รายการที่ 2 กระจกๆที่ใช้ในอาคารสนามบินนี้ทั้งหมดก็เป็นกระจกชนิดพิเศษเอ็มเจทีเอกำหนดไว้ ฉาบด้วยโลว์อีคู้ดป้องกันพลังความร้อนที่จะเข้าสู่อาคาร กระจกนี้ต้องสั่งมาจากเมืองนอกในแบบที่เขียนไว้ พอมาถึงสมัยท่านๆก็เปลี่ยนเป็นกระจกที่ผลิตในประเทศไทย และก็เอากระจก 2 แผ่นมาแปะติดกันและใช้ฟิมพ์ไว้ตรงกลาง ท่านก็บอกว่าอย่างนี้ใช้แทนแบบนั้นได้ ผมก็ไม่ว่า ทำอย่างนี้ลดเงินไปได้ 1,200 ล้าน
ในส่วนที่ 3 ผ้าใบหลังคา ท่านก็ไปปรับลดสเปกเพื่อให้แข่งกันได้หลายประเทศ ประหยัดไปได้อีก 800 ล้านบาท นอกนั้นในส่วนที่ 4 ทุกเรื่องวัสดุอุปกรณ์ พรม กระเบื้อง แม้แต่เก้าอี้นั่ง เปลี่ยนหมด เปลี่ยนสเปกหมดทุกอย่าง ลดเงินลงไปอีก 3,000 ล้านบาท เบ็ดเสร็จเฉพาะที่ท่านแก้รายการวัสดุ ปรับแบบอะไรทั้งหลาย เฉพาะค่าวัสดุอุปกรณ์ลดไปหมื่นล้านบาทเศษ ท่านประธานครับราคากลางเดิม 45,000 ล้าน ลดตามที่ผมว่าลงไป 10,000 ล้าน ก็ต้องเหลือราคากลางใหม่ 35,000 ล้าน แต่ท่านคิดวิธีของท่าน ราคากลางใหม่ที่เหลือ 36,787 ล้าน ไม่เป็นไร
แต่ผมเรียนกับท่านประธานว่า ถ้าราคากลาง 36,787 ล้าน ถ้าผมยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ผมอาจจะสร้างถูกกว่านี้ เพราะฉะนั้นที่ท่านสร้างได้ 36,666 ล้าน ไม่เก่งเท่าไหร่ อย่าโม้มาก ผมเชื่อว่าผมอาจจะทำได้ขนาดนี้ครับ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 มิ.ย. 2548--จบ--
ผมเคยฟังมาหลายหนแล้วครับท่านประธานครับว่า รัฐบาลนี้หลายคนได้พยายามที่จะออกมาพูดจาในเชิงโอ้อวดกับพี่น้องประชาชนว่าทำงานดี ทำงานเก่ง และก็ไปยกกรณีการประมูลสร้างอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินในสมัยที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่า สร้างโดยจัดให้มีการประมูลเป็นราคาแพงถึง 54,000 ล้านบาท พูดกันในหลายที่ครับ แล้วก็มีลิ่วล้อเอาไปออกทีวีทุกเช้า หลายเช้ามาแล้ว ในทำนองว่าในสมัยรัฐบาลท่านนายกฯชวนที่มีผมเป็นรัฐมนตรีพยายามที่จะสร้างอาคารผู้โดยสารราคาตั้ง 54,000 ล้าน แต่ว่ามาถึงสมัยรัฐบาลนี้ ไม่เอา แล้วทำการประมูลสร้างใหญ่ได้ถูก สร้างเพียงในราคา 36,000 ล้านเท่านั้น
คนในประเทศไทยก็คงมีคนเชื่อบ้าง และก็คงตั้งคำถามอยู่ แต่ผมก็นึกว่าท่านพูดหลายเรื่อง ท่านพลาดพลั้งไปบ้างเรื่อง 2 เรื่องผมก็ไม่ติดใจ ไม่เคยคิดที่จะชี้แจง แต่วันนี้มันเป็นเรื่องสำคัญ ท่าน รมต.คมนาคม ท่านกำลังถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่ามีความบกพร่องในการปฏิบัติต่อหน้าที่ แล้วท่านยกเรื่องนี้ขึ้นมาอ้างว่าท่านทำดีมากแล้ว ในสมัยพรรคประชาธิปัตย์จะไปสร้างอาคารผู้โดยสารตั้ง 54,000 ล้าน สมัยท่านๆทำเพียง 36,000 ล้าน พูด 3 หน ผมนั่งจดเอาไว้ ที่ชี้แจงมายาวเหยียดพูดเรื่องนี้ 3 หน
ถ้าผมไม่ลุกขึ้นมาชี้แจงท่านหัวหน้าพรรคก็คงเปลี่ยนเลขาฯพรรค เพราะว่าเรื่องนี้พรรคเขาเสียหายครับ ความจริงเป็นอย่างนี้ครับท่านประธานครับ ในสมัยที่ผมเป็น รมต.รับผิดชอบงานกระทรวงคมนาคมนั้น ผมไม่ได้ดูแลการก่อสร้างสนามบินหนองงูเห่าเอง มอบให้ท่าน รมช.ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์เป็นคนดูแล และเมื่อมอบให้ รมช.ไปดูแลแล้วก็ไม่เคยลงไปแทรกแซง ผมไม่เหมือนท่านรมต.สุริยะที่ได้ลงไปนั่งประชุมกับเขาทุกเรื่อง ท่านอาจจะขยัน แต่ผมคิดคนละอย่างกับท่าน ถือปรัชญาคนละแบบ ท่านไปถามรัฐมนตรีช่วยที่อยู่พรรคเดียวกับท่าน 3-4 คนที่เคยทำงานกับผม เวลาผมมอบงานไปแล้ว ผมไม่แทรกแซงเลย แต่ว่ารับผิดชอบในฐานะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อนายกฯ ต่อคณะรัฐบาล
รัฐบาลของท่านนายกฯชวน หลีกภัย ท่านก็ทราบอยู่แล้วครับ เคร่งครัดในหลักการ และเรื่องงบประมาณก็รัดกุม บอกไว้ตั้งแต่ต้นเมื่อตอนที่ตัดสินใจว่าจะสร้างสนามบินหนองงูเห่า กำหนดวงเงินไว้ 120,000 ล้านบาท ทั้งสนามบิน ทุกเรื่องเบ็ดเสร็จ แล้วก็ซักซ้อมกันเป็นดิบดีว่าจะต้องไม่ทำให้งบประมาณนี้บานปลายเป็นอันขาด ทีนี้อาคารสนามบินที่ว่าบริษัทที่ปรึกษาเอ็มเจทีเอเขาออกแบบมา หรูหรามาก ท่านประธานคงจำได้ว่าในขณะนั้นมีคนวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่าอาคารผู้โดยสารสนามบินนี้มันหรูหราเหลือเกิน ใช้ของแพงๆทั้งนั้น หลังคาก็เป็นผ้าใบทำพิเศษ ทำจากใยแก้ว เคลือบด้วยเทปล่อน กระจกทั้งหลัง บางคนวิจารณ์เลยเถิดว่าไม่ค่อยมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยเท่าไหร่
แต่จะอย่างไรก็ตามเขาจ้าง บ.เอ็มเจทีเอมาก่อนแล้ว ให้ออกแบบ มีข้อผูกพันตามสัญญา เราก็จะต้องเปิดประมูล หาผู้รับจ้างก่อสร้างตามแบบนั้น แต่ไม่เอาแบบนั้นมาเป็นปัญหาแน่ครับ ในที่สุดเขาก็เปิดประมูลราคากันเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2543 มีบริษัทเข้าร่วมประกวดราคาคราวนั้น 4 กลุ่มด้วยกันครับ ไอทีโอจอยซ์เวนเจอร์ ของท่านสุริยะก็เข้าไปดูด้วย ประมูลแล้วเป็นอย่างไรครับ ปรากฏว่าเขาประมูลเสร็จบริษัทที่ชนะ ที่เสนอราคาต่ำสุดไม่ใช่ไอทีโอ เป็นบริษัทอื่น เขาบอกว่าอาคารผู้โดยสารหลัก และอาคารเทียบเครื่องบิน ถ้าจะสร้างเขาคิดราคา 54,573 ล้านบาท ในขณะที่งบประมาณสำหรับกรณีนี้ตั้งไว้เพียง 45,000 ล้าน ผมไม่เคยสงสัยครับว่า เขาฮั้วกันหรือเปล่า แต่ผมเพิ่งได้ยินเมื่อสักครู่ ท่าน รมต.บอกว่า 4 บริษัทนี้ฮั้วกัน ผมไม่ทราบว่า ท่าน รมต.รู้เมื่อไหร่ ถ้ารมต.รู้ว่า 4 บริษัทนี้เคยฮั้วงาน ท่าน รมต.ไม่ควรให้งานกับไอทีโอ ต้องแบล็คลิสต์ นี่จ้างทุกวัน แถมจ้างพิเศษอีกต่างหาก ท่านต้องไปดูเองนะครับ ท่านต้องระมัดระวังเวลาตอบ
ท่านประธานครับสิ่งที่ผมจะกราบเรียน คือไม่ได้จะโต้เถียงอะไรกับรัฐมนตรี แต่ผมต้องการจะแก้ข้อมูลบรรจุไว้ในสมองของท่าน รมต.ว่า 54,000 ล้านบาทนั้น ผมไม่รับ ผมไม่เห็นด้วย ทำงานมา 3 ปีไม่เคยแทรกแซงรัฐมนตรีช่วยว่าการ แต่เรื่องนี้ต้องแทรกแซงครับ ผมทำบันทึกสั่งการไปถึง บทม. ในฐานะที่เป็น รมต.ต้องรับผิดชอบ ผมเชิญประธานบอร์ด บทม. พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ไม่ลงล้วงลูกมากไปกว่านั้นครับ รัฐมนตรีสั่งประธานบอร์ด หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของบอร์ด เป็นหน้าที่ของผู้บริหารต้องไปจัดการกันเอง สั่งเขาว่าอย่างไรครับ สั่งเขาบอกว่าราคานี้ใช้ไม่ได้ เกินงบประมาณ ท่านนายกฯชวนกำชับไม่ให้จ้างเกินงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ บอร์ดไปแก้ไขกันเอง ทำให้โปร่งใส ทั้งขั้นตอนของการประกวดราคา เรื่องนี้เป็นความสนใจของคนทั้งประเทศ สนามบินนี้เราขอพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ดี อย่าให้เสียหาย
มีลายลักษณ์อักษรครับ หนังสือสั่งการของผมลงวันที่ 24 ส.ค. ท่านไปหาเอาเอง วันที่ 13 ก.ย. วันที่ 20 ก.ย. เรื่องเดียวกันนี้ ผมยืนยันเด็ดขาด บาทเดียวเกินงบประมาณ เกินราคากลางที่กำหนดไว้ ไม่ให้สร้าง ผมและคนในพรรคประชาธิปัตย์ก็อยากมีสนามบินแห่งใหม่ รู้ความจำเป็นที่ต้องมีสนามบินแห่งใหม่ แต่ให้คนหากินกับสนามบินนี้ ไม่เอาครับ ไม่หุ้นด้วย มีแรงกดดันมากมายมาที่ผมครับ ที่ผมบอกว่านายผมมีคนเดียวคือ นายกรัฐมนตรี นโยบายนายกฯบอกว่าต้องสร้างสนามบินนี้ภายในงบประมาณ ต้องอยู่ภายในงบประมาณ ไปปรับรายการ ไปแก้ไข จะเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์อย่างไรก็ได้ แต่ว่าเหตุการณ์ที่ผมว่านี้มันเกิดขึ้น เดือนก.ย. 2543 หลังจากนั้น 4 เดือนเศษ เราไปเลือกตั้งกันครับ ไม่รู้โชคดีโชคร้ายพวกท่านก็ได้รับเลือกตั้งเข้ามา ท่านก็ไปจัดการครับ ประมูลใหม่ และก็ได้ราคาเหมือนที่ท่าน รมต.ว่าครับ 36,666 ล้านบาท
ที่จริงถ้าท่านเอาแค่นี้มาคุย ผมไม่ว่าอะไรเลย ผมชื่นชมซะด้วยซ้ำไป ผมก็บอกว่าท่านทำดี ตั้งราคากลางไว้ 50,000 45,000 ล้าน ท่านสร้างได้ 36,000 ล้าน ก็ดีแล้ว ดีมาก แต่ไม่ใช่ดีวิเศษ ถึงขั้น รมต.พูดเอาความดีใส่พวกรัฐมนตรี และเอาความชั่วใส่ผม ไม่ใช่ เพราะอะไรครับ เพราะที่สร้างได้ 36,666 ล้านบาท ท่านแก้แบบ ท่านเปลี่ยนวัสดุ ท่านแก้รายการก่อสร้าง แก้มากมายครับ ผมขออนุญาตทำความเข้าใจเรื่องนี้นิดหน่อยครับว่า การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินมีรายการวัสดุที่สำคัญอยู่ 3 อย่าง
1. เหล็ก
2. กระจก
3. ผ้าใบที่ใช้ใยแก้วถักทอและเคลือบด้วยเทปล่อน ซึ่งใช้ทำหลังคา
3 แบบนี้ในแบบเดิมที่เอ็มเจทีเอ เขียนไว้ต้องซื้อมาจากเมืองนอก เหล็กต้องใช้เหล็กพิเศษ มีความหนา 55 มม. หรือ 5.5 ซม. เหล็กอย่างนี้ไม่มีผลิตในประเทศไทย
ท่านแก้แบบ ท่านแก้สเปกที่เคยใช้เหล็กหนา 5.5 ซม. 55 มม. ท่านลดเหลือ 22 มม. และเหล็กที่เอามาม้วนมันใหญ่กว่าแบบเดิมที่ทำไว้ หน้าตัดใหญ่กว่า วิศวกรรมเขาบอกว่ารับน้ำหนักได้ ผมก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะว่าอย่างไร ใช้เหล็กบางกว่าเกินครึ่งหนึ่ง แน่นอนครับ ถ้าเหล็กบางกว่าก็น้ำหนักเบากว่า ท่านประธานครับ เหล็กเขาขายเป็นกิโล การที่ใช้เหล็กบางกว่าครึ่งหนึ่งนี้ ทำให้ใช้เหล็กมีน้ำหนักน้อยลงทั้งโครงการ 20,000 ตัน เฉพาะ 20,000 ตันที่ลดไปคิดเป็นเงิน 5,000 ล้านบาท และซื้อในประเทศไทย ไม่ต้องเอามาจากเมืองนอก นี่เป็นรายการแรก
รายการที่ 2 กระจกๆที่ใช้ในอาคารสนามบินนี้ทั้งหมดก็เป็นกระจกชนิดพิเศษเอ็มเจทีเอกำหนดไว้ ฉาบด้วยโลว์อีคู้ดป้องกันพลังความร้อนที่จะเข้าสู่อาคาร กระจกนี้ต้องสั่งมาจากเมืองนอกในแบบที่เขียนไว้ พอมาถึงสมัยท่านๆก็เปลี่ยนเป็นกระจกที่ผลิตในประเทศไทย และก็เอากระจก 2 แผ่นมาแปะติดกันและใช้ฟิมพ์ไว้ตรงกลาง ท่านก็บอกว่าอย่างนี้ใช้แทนแบบนั้นได้ ผมก็ไม่ว่า ทำอย่างนี้ลดเงินไปได้ 1,200 ล้าน
ในส่วนที่ 3 ผ้าใบหลังคา ท่านก็ไปปรับลดสเปกเพื่อให้แข่งกันได้หลายประเทศ ประหยัดไปได้อีก 800 ล้านบาท นอกนั้นในส่วนที่ 4 ทุกเรื่องวัสดุอุปกรณ์ พรม กระเบื้อง แม้แต่เก้าอี้นั่ง เปลี่ยนหมด เปลี่ยนสเปกหมดทุกอย่าง ลดเงินลงไปอีก 3,000 ล้านบาท เบ็ดเสร็จเฉพาะที่ท่านแก้รายการวัสดุ ปรับแบบอะไรทั้งหลาย เฉพาะค่าวัสดุอุปกรณ์ลดไปหมื่นล้านบาทเศษ ท่านประธานครับราคากลางเดิม 45,000 ล้าน ลดตามที่ผมว่าลงไป 10,000 ล้าน ก็ต้องเหลือราคากลางใหม่ 35,000 ล้าน แต่ท่านคิดวิธีของท่าน ราคากลางใหม่ที่เหลือ 36,787 ล้าน ไม่เป็นไร
แต่ผมเรียนกับท่านประธานว่า ถ้าราคากลาง 36,787 ล้าน ถ้าผมยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ ผมอาจจะสร้างถูกกว่านี้ เพราะฉะนั้นที่ท่านสร้างได้ 36,666 ล้าน ไม่เก่งเท่าไหร่ อย่าโม้มาก ผมเชื่อว่าผมอาจจะทำได้ขนาดนี้ครับ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 มิ.ย. 2548--จบ--