นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการส่งทหารไทยไปประเทศอิรักว่า รัฐบาลต้องยอมรับความจริงว่าขณะนี้สถานการณ์ในประเทศอิรักเข้าสู่ภาวะวิกฤติ พรรคประชาธิปัตย์ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด พบว่าสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศอิรักนั้น ทวีความรุนแรงและมากขึ้นตามลำดับอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าความรุนแรงจะลดลง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่บ่งบอกว่าสถานการณ์จะเพิ่มมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังของประเทศต่างๆในอิรัก ซึ่งรวมถึงกองกำลังของประเทศไทยด้วย ถึงแม้รัฐบาลจะพยายามอ้างว่าการส่งทหารไทยไปอิรักนั้น เพื่อมนุษยธรรม แต่ในความเป็นจริงนั้น ภาพปรากฏชัดเจนว่าไม่ได้เป็นการส่งไปตามมติของสหประชาชาติ แต่เป็นการส่งไปตามความต้องการของสหรัฐฯ
จากการดำเนินการของรัฐบาลในเรื่องนี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทหารไทยที่อยู่ที่นั่นโดยตรง การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะพิจารณาเหตุการณ์วันต่อวันนั้น ไม่เพียงพอ พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่ารัฐบาลจะต้องทบทวน ประชุม ปรึกษาหารือกันอย่างจริงจัง เนื่องจากทหารไทยในอิรักไม่สามารถทำหน้าที่เพื่อมนุษยธรรมตามคำกล่าวอ้างของรัฐบาลได้แล้ว เพราะสถานการณ์อยู่ในขั้นที่เรียกว่าสถานการณ์ของการสู้รบนอกรูปแบบ เกือบจะเต็มพื้นที่ของประเทศอิรัก รวมทั้งในเมืองคาบาร่าที่ทหารไทยประจำการอยู่ เพราะฉะนั้นรัฐบาลควรรีบตัดสินใจอย่ารอช้าที่จะถอนทหารไทยออกจากอิรักก่อนที่สถานการณ์จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญที่สุดคือการส่งทหารเข้าไปในอิรักนั้น ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายไม่ได้มองว่าเป็นการส่งเข้าไปเพื่อมนุษยธรรม แต่จะมองว่าประเทศที่ส่งทหารเข้าไปนั้นเป็นแนวร่วม หรือเป็นเครื่องมือของสหรัฐฯในการทำสงครามกับการก่อการร้าย เพราะฉะนั้นกลุ่มก่อการร้ายจึงมีเป้าประสงค์ที่อาจจะไปก่อการร้ายในประเทศต่างๆเหล่านั้นเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับประเทศสเปนมาแล้ว
‘เห็นได้ว่าที่ผ่านมา มีทหารไทยต้องสละชีพ ซึ่งไม่ทราบว่าสละชีพเพื่อใครไปแล้วจำนวนหนึ่ง ถึงแม้สถานการณ์ในขณะนั้นจะไม่รุนแรงเท่าขณะนี้ แต่วันนี้เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้น พรรคประชาธิปัตย์อยากถามว่ารัฐบาลต้องการให้ทหารไทยตายอีกกี่คน รัฐบาลถึงจะทบทวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง ข้อเสนอของพรรคในวันนี้ไม่เพียงแต่ที่จะเพื่อรักษาชีวิตของทหารไทยในประเทศอิรักเท่านั้น แต่เพื่อทำให้เงื่อนไขในการที่อาจจะมีการก่อการร้ายเกิดขึ้นในประเทศไทยหมดสิ้นไป อยากให้รัฐบาลคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มากกว่าผลประโยชน์ของใครบางคนที่จะได้รับจากการทำตามความต้องการของสหรัฐฯเท่านั้น’ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10/04/47--จบ--
-สส-
จากการดำเนินการของรัฐบาลในเรื่องนี้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อทหารไทยที่อยู่ที่นั่นโดยตรง การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะพิจารณาเหตุการณ์วันต่อวันนั้น ไม่เพียงพอ พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่ารัฐบาลจะต้องทบทวน ประชุม ปรึกษาหารือกันอย่างจริงจัง เนื่องจากทหารไทยในอิรักไม่สามารถทำหน้าที่เพื่อมนุษยธรรมตามคำกล่าวอ้างของรัฐบาลได้แล้ว เพราะสถานการณ์อยู่ในขั้นที่เรียกว่าสถานการณ์ของการสู้รบนอกรูปแบบ เกือบจะเต็มพื้นที่ของประเทศอิรัก รวมทั้งในเมืองคาบาร่าที่ทหารไทยประจำการอยู่ เพราะฉะนั้นรัฐบาลควรรีบตัดสินใจอย่ารอช้าที่จะถอนทหารไทยออกจากอิรักก่อนที่สถานการณ์จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญที่สุดคือการส่งทหารเข้าไปในอิรักนั้น ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายไม่ได้มองว่าเป็นการส่งเข้าไปเพื่อมนุษยธรรม แต่จะมองว่าประเทศที่ส่งทหารเข้าไปนั้นเป็นแนวร่วม หรือเป็นเครื่องมือของสหรัฐฯในการทำสงครามกับการก่อการร้าย เพราะฉะนั้นกลุ่มก่อการร้ายจึงมีเป้าประสงค์ที่อาจจะไปก่อการร้ายในประเทศต่างๆเหล่านั้นเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับประเทศสเปนมาแล้ว
‘เห็นได้ว่าที่ผ่านมา มีทหารไทยต้องสละชีพ ซึ่งไม่ทราบว่าสละชีพเพื่อใครไปแล้วจำนวนหนึ่ง ถึงแม้สถานการณ์ในขณะนั้นจะไม่รุนแรงเท่าขณะนี้ แต่วันนี้เมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้น พรรคประชาธิปัตย์อยากถามว่ารัฐบาลต้องการให้ทหารไทยตายอีกกี่คน รัฐบาลถึงจะทบทวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง ข้อเสนอของพรรคในวันนี้ไม่เพียงแต่ที่จะเพื่อรักษาชีวิตของทหารไทยในประเทศอิรักเท่านั้น แต่เพื่อทำให้เงื่อนไขในการที่อาจจะมีการก่อการร้ายเกิดขึ้นในประเทศไทยหมดสิ้นไป อยากให้รัฐบาลคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มากกว่าผลประโยชน์ของใครบางคนที่จะได้รับจากการทำตามความต้องการของสหรัฐฯเท่านั้น’ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 10/04/47--จบ--
-สส-