นายสมใจนึก เองตระกูล ปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานกองทุนรวมวายุภักษ์ กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้จัดตั้งกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่งเพื่อระดมทุนจากประชาชนมาลงทุนในหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ ตามมติคณะรัฐมนตรีโดยกระทรวงการคลังได้ขายกองทรัพย์สินให้แก่กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ประกอบด้วยหลักทรัพย์ 11 หลักทรัพย์ ในราคา 70,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2546 ไปแล้วนั้น โดยหลักทรัพย์ 1 ใน 11 หลักทรัพย์ คือ หุ้นบุริมสิทธิของธนาคารไทยพาณิชย์ฯ ซึ่งกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ถือครองอยู่จำนวน 785,798,200 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 24.53 ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วของธนาคาร ต่อมา บลจ.กรุงไทย และ บลจ.เอ็มเอฟซี ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมฯ ได้แจ้งว่าธนาคารไทยพาณิชย์จะจ่าย เงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียน ณ วันที่ 22 เมษายน 2547 หากกองทุนรวมฯ ไม่ได้รับการผ่อนผันให้ถือหุ้นบุริมสิทธิของธนาคารไทยพาณิชย์เกินกว่าร้อยละ 5 ก่อนวันที่ดังกล่าว กองทุนรวมฯจะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในส่วนของหุ้นที่เกินสัดส่วนดังกล่าว ซึ่งหากไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะทำให้กองทุนรวมฯไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลของหุ้นส่วนที่ถือเกินร้อยละ 5 คิดเป็นเงินปันผลประมาณ 876 ล้านบาท ทำให้กระทรวงการคลังและผู้ถือหน่วยลงทุนเสียประโยชน์ ซึ่งกรณีดังกล่าว ธปท.เห็นว่าไม่เข้าข่ายได้รับการผ่อนผันตามกฎหมาย คณะกรรมการกำกับฯ จึงได้มีการประชุมพิจารณาในประเด็นดังกล่าว ซึ่งได้ข้อสรุปว่า เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุน จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินการเพื่อให้กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ได้รับเงินปันผลจำนวนดังกล่าวก่อน โดยกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง จะโอนหุ้นบุริมสิทธิของธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวนประมาณ 625.799 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 19.54 ให้แก่กระทรวงการคลัง เพื่อให้กระทรวงการคลังมีสิทธิในการรับเงินปันผลประจำปี 2546 โดยมีข้อตกลงว่า กระทรวงการคลังจะโอนหุ้นดังกล่าวพร้อม เงินปันผลที่ได้รับจากธนาคารไทยพาณิชย์ คืนให้แก่กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 27/2547 12 เมษายน 2547--
-นท-
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 27/2547 12 เมษายน 2547--
-นท-