นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดเผยภาวะส่งออกข้าวว่าเดือนมีนาคม
2547 การส่งออกข้าวของไทยยังคงมีความเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากความต้องการนำเข้าของ
ประเทศผู้ซื้อ ทำให้สามารถส่งออกได้สูงถึง 0.82 ล้านตันมูลค่า 214 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(8,308 ล้านบาท)
ทั้งปริมาณและมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 16 และสูงเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 70
และ 78 ตามลำดับ โดยตลาดส่งออกที่สำคัญในช่วงนี้ได้แก่ จีน แอฟริกาใต้ อิหร่าน เซเนกัล กานา เบนิน
ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อิรัก
สำหรับในช่วงมกราคม-มีนาคม 2547 สามารถส่งออกข้าวได้ 2.08 ล้านตันมูลค่า 543 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ( 21,179 ล้านบาท) ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 29 และ 45
ตามลำดับ โดยข้าวที่ส่งออกดังกล่าวเป็นข้าวหอมมะลิไทยจำนวน 0.56 ล้านตัน มูลค่า 227 ล้านเหรียญ
สหรัฐฯ(8,832 ล้านบาท) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27 และ 42 ของปริมาณและมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
ตามลำดับ
ราคาข้าวส่งออกของไทยได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและสูงกว่าของคู่แข่งขัน แต่ด้วยความเชื่อ
มั่นในคุณภาพข้าวและการส่งมอบ ผู้ซื้อยังคงมีคำสั่งซื้อข้าวไทยเข้ามามาก เป็นผลจากคาดว่าราคาข้าวคงไม่
ปรับตัวลดลงในช่วงอันใกล้นี้ เนื่องจากแหล่งอุปทานข้าวสำคัญมีข้าวเหลือส่งออกจำกัด ประกอบกับจีนมีความ
ต้องการข้าวอย่างเร่งด่วนจำนวนมากรวมถึงตลาดอื่นๆเช่นตะวันออกกลางและแอฟริกา ส่งผลให้ราคาข้าวส่ง
ออกแทบทุกชนิดปรับตัวสูงขึ้น ยกเว้นข้าวหอมมะลิไทยเนื่องจากได้ปรับตัวสูงขึ้นมากแล้ว
ราคาข้าวส่งออกเดือนมีนาคม 2547 ข้าวหอมมะลิไทย 100 % ชั้น 2 มีราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ
548 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 100 % ชั้น 2 ราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ 249 เหรียญสหรัฐฯเทียบกับระยะเดียว
กันของปีก่อนราคาข้าวหอมมะลิไทย 100 % ชั้น 2 และข้าวขาว 100 % ชั้น 2 ราคาเฉลี่ยอยู่ในระดับตันละ
458 และ 202 เหรียญสหรัฐฯตามลำดับ สำหรับราคาข้าวเปลือก ขณะนี้ข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาตันละ
9,250 บาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนตันละ 2,319 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้านาปรังความชื้นไม่เกิน 15
% มีราคาตันละ 5,250 บาทสูงกว่าปีก่อนตันละ 500 บาท และราคาดังกล่าวสูงกว่าราคาที่รัฐบาลประกาศ
รับจำนำ
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในเดือนเมษายน 2547 ว่า
ปริมาณส่งออกจะยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อน เนื่องจากผู้ส่งออกยังมีภาระที่ต้องส่งมอบข้าวตาม
สัญญาอีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคำสั่งซื้อข้าวเพิ่มเติมที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากตลาดจีน และ
ตะวันออกกลาง รวมทั้งแอฟริกา สำหรับการดำเนินการเชิงรุกในช่วงเดือนเมษายน 2547 นี้ กรมการค้าต่าง
ประเทศมีแผนดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยในตลาดญี่ปุ่น โดยร่วมกับภัตตาคารและร้านอาหาร
ไทย ณ เมืองต่างๆ อาทิเช่น โตเกียว โอซากา ฟูกูโอกะ ฮิโรชิมา และ โอกินาวา ซึ่งจะช่วยให้ตลาดญี่ปุ่น
รู้จักข้าวหอมมะลิไทยมากยิ่งขึ้น
--กรมการค้าต่างประเทศ เมษายน 2547--
-สส-
2547 การส่งออกข้าวของไทยยังคงมีความเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากความต้องการนำเข้าของ
ประเทศผู้ซื้อ ทำให้สามารถส่งออกได้สูงถึง 0.82 ล้านตันมูลค่า 214 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(8,308 ล้านบาท)
ทั้งปริมาณและมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 16 และสูงเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 70
และ 78 ตามลำดับ โดยตลาดส่งออกที่สำคัญในช่วงนี้ได้แก่ จีน แอฟริกาใต้ อิหร่าน เซเนกัล กานา เบนิน
ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อิรัก
สำหรับในช่วงมกราคม-มีนาคม 2547 สามารถส่งออกข้าวได้ 2.08 ล้านตันมูลค่า 543 ล้าน
เหรียญสหรัฐฯ( 21,179 ล้านบาท) ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 29 และ 45
ตามลำดับ โดยข้าวที่ส่งออกดังกล่าวเป็นข้าวหอมมะลิไทยจำนวน 0.56 ล้านตัน มูลค่า 227 ล้านเหรียญ
สหรัฐฯ(8,832 ล้านบาท) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 27 และ 42 ของปริมาณและมูลค่าการส่งออกทั้งหมด
ตามลำดับ
ราคาข้าวส่งออกของไทยได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและสูงกว่าของคู่แข่งขัน แต่ด้วยความเชื่อ
มั่นในคุณภาพข้าวและการส่งมอบ ผู้ซื้อยังคงมีคำสั่งซื้อข้าวไทยเข้ามามาก เป็นผลจากคาดว่าราคาข้าวคงไม่
ปรับตัวลดลงในช่วงอันใกล้นี้ เนื่องจากแหล่งอุปทานข้าวสำคัญมีข้าวเหลือส่งออกจำกัด ประกอบกับจีนมีความ
ต้องการข้าวอย่างเร่งด่วนจำนวนมากรวมถึงตลาดอื่นๆเช่นตะวันออกกลางและแอฟริกา ส่งผลให้ราคาข้าวส่ง
ออกแทบทุกชนิดปรับตัวสูงขึ้น ยกเว้นข้าวหอมมะลิไทยเนื่องจากได้ปรับตัวสูงขึ้นมากแล้ว
ราคาข้าวส่งออกเดือนมีนาคม 2547 ข้าวหอมมะลิไทย 100 % ชั้น 2 มีราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ
548 เหรียญสหรัฐ ข้าวขาว 100 % ชั้น 2 ราคาเฉลี่ยส่งออกตันละ 249 เหรียญสหรัฐฯเทียบกับระยะเดียว
กันของปีก่อนราคาข้าวหอมมะลิไทย 100 % ชั้น 2 และข้าวขาว 100 % ชั้น 2 ราคาเฉลี่ยอยู่ในระดับตันละ
458 และ 202 เหรียญสหรัฐฯตามลำดับ สำหรับราคาข้าวเปลือก ขณะนี้ข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาตันละ
9,250 บาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนตันละ 2,319 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้านาปรังความชื้นไม่เกิน 15
% มีราคาตันละ 5,250 บาทสูงกว่าปีก่อนตันละ 500 บาท และราคาดังกล่าวสูงกว่าราคาที่รัฐบาลประกาศ
รับจำนำ
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในเดือนเมษายน 2547 ว่า
ปริมาณส่งออกจะยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อน เนื่องจากผู้ส่งออกยังมีภาระที่ต้องส่งมอบข้าวตาม
สัญญาอีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคำสั่งซื้อข้าวเพิ่มเติมที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากตลาดจีน และ
ตะวันออกกลาง รวมทั้งแอฟริกา สำหรับการดำเนินการเชิงรุกในช่วงเดือนเมษายน 2547 นี้ กรมการค้าต่าง
ประเทศมีแผนดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทยในตลาดญี่ปุ่น โดยร่วมกับภัตตาคารและร้านอาหาร
ไทย ณ เมืองต่างๆ อาทิเช่น โตเกียว โอซากา ฟูกูโอกะ ฮิโรชิมา และ โอกินาวา ซึ่งจะช่วยให้ตลาดญี่ปุ่น
รู้จักข้าวหอมมะลิไทยมากยิ่งขึ้น
--กรมการค้าต่างประเทศ เมษายน 2547--
-สส-